เพียงแค่ 1 ปี หลังจากเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นและยังไม่ถึง 6 เดือนสำหรับตลาดอเมริกา Nissan ได้ตัดสินใจยกเครื่อง GT-R ครั้งใหญ่ ทั้งการเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ อัพเกรดระบบกันสะเทือน และสีภายนอกใหม่ โดยการพัฒนาระบบที่สำคัญที่สุดคือ การใช้เครื่องยนต์ผลิตด้วยมือ V6 ทวินเทอร์โบ ความจุ 3.8 ลิตร ซึ่งทำให้แรงม้าเพิ่มขึ้น 5 แรงม้า ไปเป็น 485 แรงม้า โดยที่แรงบิดยังคงเดิมที่ 588 นิวตัน-เมตร
การพัฒนาเครื่องยนต์ช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้นอีกด้วย โดย Nissan เผยว่า GT-R ยกเครื่องใหม่นี้มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลงที่ 8.3 กิโลเมตร/ลิตร แทนอัตราเดิมที่ 8.2 กิโลเมตร/ลิตร นอกจากนั้นแล้ว GT-R ยังมีถังบรรจุน้ำมันใหญ่กว่าเดิม คือ จาก 71 ลิตร ไปเป็น 74 ลิตร
การพัฒนาระบบกันสะเทือนยังช่วยให้สมรรถภาพในการขับขี่ดีขึ้น โดย GT-R เวอร์ชั่นปี 2009 นี้ ยังได้รับอานิสงค์จากการพัฒนายางรถยนต์ของ Dunlop รุ่น SP Sport 600 DSST ที่ Nissan อ้างว่า ยางของ Dunlop ได้ถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่อใช้กับ GT-R โดยเฉพาะ ประสิทธิภาพไม่ต้องพูดถึง ทั้ง "เกาะถนนและทนทาน" ตามที่ได้พิสูจน์มาแล้วที่สนาม Nurburgring ด้วยเวลาที่ข่ม Porsche GT2 ได้ที่ 7 นาที 29 วินาที ตามที่ AutoSpinn.com เคยนำรายละเอียดของการอัดกันระหว่าง GT-R และ GT2 มาให้อ่านก่อนหน้านี้แล้ว(หาอ่านได้จากบทความด้านล่างนี้)
สีเทาเมทัลและล้ออัลลอยของ Rays 7 ก้าน สำหรับ GT-R มาตรฐานและเวอร์ชั่นพรีเมี่ยม แต่สำหรับเวอร์ชั่นสีดำยังใช้ล้อแบบเดิมคือ สีดำ นอกจากนั้นแล้ว ลูกค้าสามารถเลือกสีขาวมุขใหม่ หรือที่เรียกว่า "storm" ซึ่งจะแทนสีขาวมุขเดิมที่สีทะมึนกว่า
สมรรถนะดีขึ้นราคาก็ย่อมขึ้นตามเป็นสัจธรรมของโลก อย่างเช่นในอังกฤษ GT-R เวอร์ชั่นธรรมดามีราคาอยู่ที่ 56,795 ปอนด์ (2.98 ล้านบาท) เวอร์ชั่นพรีเมี่ยมอยู่ที่ 58,095 ปอนด์(3.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาอีก 1,300 ปอนด์) ส่วน GT-R สีดำ ราคาอยู่ที่ 59,395 ปอนด์(3.12 ล้านบาท) ราคาโดยรวมเพิ่มขึ้น 3.8%
สำหรับตลาดยุโรป Nissan มีกำหนดการเริ่มจำหน่าย GT-R ในเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งจนถึงวันนี้ Nissan มียอดจอง GT-R แล้วมากกว่า 2,500 คัน โดย 1,200 คันเป็นลูกค้าจากประเทศอังกฤษ สำหรับลูกค้าใหม่นั้น Nissan คาดว่าจะสามารถส่งมอบให้ได้อย่างเร็วกลางปี 2010 เลยทีเดียว
รูปภาพแบบ High-Resolution ของ GT-R เวอร์ชั่นยุโรป จัดหาให้โดย AutoSpinn.com ก่อนใครในประเทศอีกเช่นเคย(โดยมากจะได้มาหลังจากการปล่อยภาพต้นฉบับในต่างประเทศไม่เกิน 24 ชั่วโมง แต่หากช้ากว่านั้นก็เพราะไม่มีเวลาแปลบทความครับ)
แหล่งข่าว: Nissan Europe แปลและเรียบเรียงโดย AutoSpinn.com
ความคิดเห็น