Ford iosis MAX รถเจนเนอเรชั่นต่อไปของ Ford Focus Share this

Ford iosis MAX รถเจนเนอเรชั่นต่อไปของ Ford Focus

Admin
โดย Admin
โพสต์เมื่อ 12 March 2552

ในงานมอเตอร์โชว์ที่ Geneva ทาง Ford ได้นำเสนอรถแนวคิดที่ถือว่าจะเป็น Ford Focus ในเจนเนอเรชั่นต่อไป ซึ่งดูล้ำสมัยขึ้นเป็นกอง เมื่อ Ford เปิดตัวมาอย่างนี้คงทำให้ค่ายรถยนต์ที่ผลิตรถใน segment เดียวกันอาจจะต้องปรับแผนกันใหญ สำหรับวันนี้หมดแรงข้าวต้มเพราะกำลังทำ website ใหม่ให้พี่ๆน้องๆคนรักรถมีอะไรสนุกเล่นกัน โชคดีแวะไปเจอข่าวรถในเรื่องนี้พอดีเลยไม่ต้องมานั่งแปล Press Release ของ Ford ให้เสียพลังงาน นิมนต์อ่านรายละเอียดข่าวจากด้านล่างได้เลยครับ

ดูเหมือนว่ารถยนต์ต้นแบบที่ถูกเปิดตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมามักจะมีนัยยะแอบแฝงอยู่ โดยเฉพาะการสื่อให้เห็นถึงสไตล์และงานออกแบบที่เตรียมถูกนำมาใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัว เพราะไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ ConceptFascination หรือบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 แกรน ทัวริสโม คอนเซ็ปต์ สิ่งสำคัญนอกจากจะเป็น Show Car สำหรับเรียกเสียงฮือฮาตามเวทีมอเตอร์โชว์แล้ว ต้นแบบเหล่านี้ยังแฝงด้วยเส้นสายสำหรับใช้กับอี-คลาส และซีรีส์ 5 รุ่นใหม่ตามลำดับ

 

สำหรับค่ายฟอร์ด ต้นแบบรุ่นใหม่แกะกล่องที่มีชื่อว่าไอโอซิส แม็กซ์ คอนเซ็ปต์ก็มาในสไตล์เดียวกับต้นแบบข้างต้น แถมยังเป็นรถยนต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดในบ้านเราด้วย เพราะมาร์ติน สมิท หัวหน้าทีมออกแบบของฟอร์ดเผยว่างานออกแบบทั้งหมดจะถูกนำมาประยุกต์ใช้กับรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็กต์ หรือ C-Segment ที่ขายอยู่ในตลาดโลก

ตรงนี้ไม่ต้องเดาให้เหนื่อย เพราะหมายถึงโฟกัสอย่างแน่นอน และบรรดาสื่อมวลชนต่างแดนต่างก็ระบุว่า นี่คือหน้าตาคร่าวๆ ของโมเดลเชนจ์ของโฟกัสใหม่ ซึ่งเป็นเจนเนอเรชันที่ 3 ที่มีคิวเปิดตัวในตลาดโลกช่วงปี 2011 อย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของฟอร์ดที่ทำเช่นนี้ โดยที่เกิดขึ้นล่าสุดคือในยุคที่สไตล์การออกแบบที่เรียกว่า Kinetic Design ถูกนำมาใช้แทนที่ New Edge Design เมื่อปี 2005 ซึ่งตอนนั้น ฟอร์ดเปิดตัวต้นแบบที่ชื่อไอโอซิสออกมา และงานออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของต้นแบบรุ่นนี้ก็ถูกนำมาใช้กับมอนเดโอใหม่ซึ่งเป็นเจนเนอเรชันที่ 4 ในปี 2007 และในปารีส มอเตอร์โชว์ 2006 ต้นแบบทรงเอสยูวีที่ชื่อไอโอซิส เอ็กซ์ก็กลายมาเป็นรุ่นคูก้าปี 2008 ซึ่งขั้นตอนของการพัฒนาตามสเต็ปเช่นนี้ก็กำลังจะเกิดขึ้นกับโฟกัสใหม่เช่นกัน

แน่นอนว่าเมื่อยังเป็นต้นแบบ ทีมงานของฟอร์ดจึงสามารถสร้างสรรค์ให้ตัวรถสามารถแสดงความโดดเด่นอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการออกแบบรูปทรงให้มาในสไตล์แฮทช์แบ็ก 5 ประตูที่มีความโดดเด่นตรงประตูบานหลัง ซึ่งเปิดออกในลักษณ์สไลด์ไปทางด้านหลังเหมือนพวกมินิแวนสัญชาติญี่ปุ่น พร้อมกับถอดเสากลาง หรือ B-Pillar ออกไป เพื่อความสะดวกในการเข้าและออกจากห้องโดยสาร

ส่วนประเด็นที่ว่าเมื่อถึงเวลาขายจริงแล้ว โฟกัสใหม่จะมากับความโดดเด่นในลักษณะนี้หรือไม่นั้น ตรงนี้ยังไม่มีคำตอบแบบชัวร์ๆ 100% แต่ถ้าคาดเดาจากแนวทางของ 2 รุ่นที่ผ่านมา เรื่องที่ว่าจะนำมาใช้กับรุ่นขายจริง คงยากที่จะเกิดขึ้น

นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยและล้ำสมัยแล้ว อีกสิ่งที่ทำให้ต้นแบบรุ่นนี้น่าสนใจคือ การปรับตัวตามนโยบาย EcoBoost ของฟอร์ด สหรัฐอเมริกาในการนำเครื่องยนต์ความจุน้อยมาเบ่งกล้ามด้วยการติดเทอร์โบ ซึ่งตรงนี้มีข้อดีตามแนวคิดของฟอร์ดว่า จะขับให้แรงหรือประหยัดขึ้นอยู่กับเท้าขวาของผู้ขับ

      

เพราะการใช้เครื่องยนต์ความจุน้อยย่อมให้ความประหยัดในการใช้งานอยู่แล้ว แต่ก็มีข้อด้อยตรงที่เรื่องจำนวนแรงม้า ซึ่งก็ลบจุดอ่อนตรงนี้ด้วยระบบอัดอากาศอย่างเทอร์โบชาร์จ หากอยากขับประหยัดก็ค่อย ๆ ไล่รอบเหมือนกับการขับปกติ แต่ถ้าใจร้อนอยากเรียกม้าออกมาใช้งาน ก็กระแทกคันเร่งหนักๆ เพื่อให้เทอร์โบทำงาน เรียกว่าเหมือนกับมีกำลังสำรองเตรียมเอาไว้ อยากใช้เมื่อไรก็ค่อยเรียกออกมา

 

จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,600 ซีซี ซึ่งปกติแล้วจะมีกำลังอยู่ที่ 115-120 แรงม้า เมื่อได้รับการพัฒนาตามแนวทาง EcoBoost ของฟอร์ดจะสามารถรีดกำลังออกมาได้ถึง 180 แรงม้า และเมื่อบวกกับเทคโนโลยีใหม่ที่ติดตั้งเข้าไป เช่น ระบบไดเร็กต์อินเจ๊กชันจะมีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้นจากเครื่องยนตบเดิมๆ ที่มีความจุเท่ากันถึง 20%

นอกจากนั้นตัวรถยังมีการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ Dual Clutch ที่มีการทำงานอย่างฉับไว รวมถึงมีระบบ Auto-Start-Stop ซึ่งมีการทำงานเหมือนกับรถยนต์ไฮบริด โดยจะดับเครื่องยนต์เมื่อจอดติดอยู่กับที่ เพื่อลดความสิ้นเปลืองน้ำมันนและการปลดปล่อยมลพิษ ทำให้ตัวรถมีระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียเพียง 125 กรัมต่อการใช้งาน 1 กิโลเมตร

      

ฟอร์ดเผยว่าเครื่องยนต์ในสไตล์ EcoBoost จะถูกนำมาใช้กับรถยนต์ของตัวเองที่ขายในยุโรปช่วงปี 2010 ส่วนใครที่อยากจะรู้ว่าหน้าตาของโฟกัสใหม่ที่จะเปิดตัวอีกไม่เกิน 2 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ดูได้จากต้นแบบรุ่นนี้ ซึ่งเชื่อว่าคงจะไม่แตกต่างมากเท่าไรนัก

ที่มา: Ford/manager online


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ