บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมแสดงรถยนต์อย่างยิ่งใหญ่ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 30 บนพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ภายใต้คอนเซ็ปท์ Hybrid World Around You สะท้อนความล้ำหน้าของเทคโนโลยีไฮบริด และความเป็นผู้นำของตลาดรถยนต์ประเทศไทย พร้อมนำเสนอยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และรถยนต์รุ่นพิเศษตอบสนองทุกความต้องการ
Toyota A-BAT Concept
มร. มิทซึฮิโระ โซโนดะ กล่าวว่า "โตโยต้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด ยานยนต์ คน รักษ์ธรรมชาติ หรือ Green Life on Wheels โดยในส่วนของโตโยต้านั้นเราได้นำเสนอเทคโนโลยีภายใต้แนวคิด โลกไฮบริด รอบตัวคุณ หรือ Hybrid World around You ซึ่งทุกท่านจะรับทราบ ถึงความล้ำสมัยของเทคโนโลยีไฮบริด และรถไฮบริดของโตโยต้า"
มร.โซโนดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ทั้งนี้ ในปี 2551 โตโยต้าได้ประกาศ โลกทัศน์แห่งโตโยต้า หรือ Toyota Global Vision เพื่อแสดงให้เห็นถึง ความรับผิดชอบของโตโยต้า ที่มีต่อสังคมโลก บนพื้นฐานความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ในทิศทางที่ก่อให้เกิดเติบโตอย่างสมดุลย์ ของวัฏจักรอุตสาหกรรม และวัฏจักรธรรมชาติ เราได้เริ่มโครงการปลูกป่านิเวศ ระยะที่ 1 ขึ้น ที่โรงงานบ้านโพธิ์ นอกจากนี้ เรายังคงสานต่อในการสนับสนุนงานวิจัยต่างๆ เพื่อการประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างเช่น การวิจัยในการพัฒนาน้ำมันไบโอไฮโดรเจเนตดีเซล หรือที่เรียกกันว่า น้ำมันบีเอชดี (BHD) และงานวิจัยสบู่ดำ นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นสำคัญของเรา ยังได้รับการพัฒนาจนสามารถใช้พลังงานทางเลือกได้ อาทิ น้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ E20, น้ำมันไบโอดีเซล B5 และ ก๊าซธรรมชาติอัด CNG และในปีนี้ เรายังเพิ่มความหลากหลายให้กับโคโรลล่า ซีเอ็นจี เพื่อตอบสนองทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กร และกลุ่มลูกค้ารายย่อย ซึ่งจะได้รับประโยชน์อย่างยิ่งจากเทคโนโลยีซีเอ็นจี โดยการดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งภายใต้นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า"
"สิ่งต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์ของโตโยต้าเพื่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในด้านการผลิต และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสำหรับปี 2552 นี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของโตโยต้า ที่จะนำอุตสาหกรรมยานยนต์เข้าสู่ยุคไฮบริด ซึ่งเทคโนโลยีไฮบริดไม่ได้เป็นเรื่องของอนาคตอีกต่อไป ทั้งนี้เรามีแผนที่จะเริ่มดำเนินการ ผลิตรถยนต์ คัมรี ไฮบริด ใหม่ ซึ่งเป็นรถยนต์ระบบไฮบริดรุ่นแรกสุด ที่จะผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ การผลิตรถยนต์คัมรี ไฮบริดนี้ มิใช่เป็นเพียงการผลิตครั้งแรกในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยัง เป็นการผลิตรถยนต์ไฮบริด ครั้งแรกในทวีปเอเซีย นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับว่าเป็นความภาคภูมิใจของเรา" มร.โซโนดะ กล่าว
Hybrid World Around You : นิทรรศการ โลกแห่งเทคโนโลยีไฮบริด รอบตัวเรา
เป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษที่ โตโยต้า ได้พัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนระบบไฮบริด ที่สามารถใช้งานได้จริงบนถนนทั่วไป จนเป็นที่ยอมรับว่านี่คือทางเลือกในการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการพัฒนายานยนต์ในศตวรรษนี้
Hybrid Technology Zone
นำเสนอพัฒนาการของเทคโนโลยี โตโยต้า ไฮบริด เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจระบบการทำงานของรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ ตลอดจนคุณค่าของไฮบริดต่อมนุษยชาติและโลกของเรา
คุณประโยชน์ ที่เหนือชั้นของรถยนต์ไฮบริด
ในปริมาณน้ำมันที่เท่ากัน รถยนต์ไฮบริดสามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่าเกือบสองเท่าของรถยนต์ทั่วไปในรุ่นใกล้เคียงกัน
ลดมลพิษ
ใน 1 ปีของการขับขี่ รถยนต์ไฮบริดจะลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากกว่า 1 ตัน เมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไปในรุ่นใกล้เคียงกัน และยังลดก๊าซ ไนโตรเจนออกไซด์ (Nox), มากถึง 47% เมื่อเทียบกับรถยนต์ดีเซล
อัตราเร่งที่ดี
สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม/ชม. ซึ่งเทียบได้กับรถยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ไร้เสียงรบกวน สามารถขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์เพียงอย่างเดียวทำให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างนุ่มนวล และเงียบสงบตลอดการเดินทาง
ยานยนต์ต้นแบบสะท้อนถึงปรัชญาของโตโยต้า เพื่อโลกอนาคต
1/X นวัตกรรมแห่งปรัชญาการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม
รถยนต์ต้นแบบโตโยต้า 1/X จัดแสดงเป็นครั้งแรก ในงานแสดงรถยนต์ Chicago Auto Show 2008 สะท้อนปรัชญาแห่งเทคโนโลยีการออกแบบ อันเป็นนวัตกรรมสำหรับยุคถัดไปและได้สร้างนิยามใหม่ ของรถยนต์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ชื่อ 1/X ออกเสียงว่า วัน เอ็กซ์ มาจากน้ำหนักของรถยนต์คันนี้ ซึ่งอยู่ในระดับที่เป็นเศษหนึ่งส่วนสิบของรถยนต์โดยทั่วไปในระดับเดียวกัน
Toyota 1 X Prototype
1/X สะท้อนการออกแบบที่ลู่ลมและมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ขณะที่ยังคงพื้นที่ภายในห้องโดยสารเทียบเท่ากับรถยนต์ไฮบริดรุ่น Prius ด้วยน้ำหนักเพียง 420 กิโลกรัม หรือประมาณเพียงหนึ่งในสามของรถยนต์ Prius เกิดจากการออกแบบที่ใช้วัสดุพิเศษ เสริมด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ที่มีความแข็งแกร่งสูง แต่มีน้ำหนักเบาตลอดทั้งตัวรถ
หลังคารถยนต์ 1/X นั้นทำจากพลาสติกชีวภาพซึ่งผลิตจากปอและป่านที่เรามีตามธรรมชาติซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลที่ได้ก็คือฉนวนกันความร้อนได้ดีกว่า ทั้งยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าและยังให้ปริมาณแสงส่องผ่านเข้ามาในห้องโดยสารได้ดีกว่ารวมทั้งช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกอีกด้วย
สำหรับภายในห้องโดยสาร รถยนต์ 1/X มาพร้อมกับเบาะนั่ง 4 ที่ซึ่งมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ โดยทำจาก โพลีเอสเตอร์ไฟเบอร์ ที่ถักทอในลักษณะสามมิติ เพื่อความสบายในการนั่งมากกว่าเดิม วัสดุดังกล่าวทำหน้าที่เป็นเสมือนสปริงซึ่งให้ความรู้สึกนุ่มสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคน
แหล่งพลังงานขับเคลื่อนแบบไฮบริดขนาดเล็กเป็นพิเศษซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณใต้เบาะตอนหลัง ระบบพลังงานดังกล่าว ประกอบด้วยชุดพลังงานไฮบริด ใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-อิออน ซึ่งชาร์จไฟจากแหล่งพลังงานภายนอกได้ (Plug-in) พร้อมเครื่องยนต์ขนาดเล็ก 500 ซีซี ซึ่งมีน้ำหนักเพียงหนึ่งในสี่ของน้ำหนักรวม ของระบบเครื่องยนต์ของ Prius ด้วยน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ยังให้ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นเป็นสองเท่า โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 150 ไมล์ ต่อน้ำมัน1 แกลลอน
ข้อมูลจำเพาะของรถต้นแบบโตโยต้า 1/X
ความยาว 153.5 นิ้ว • ความกว้าง 63.8 นิ้ว • ความสูง 55.5 นิ้ว • น้ำหนัก 926 ปอนด์ • ความจุผู้โดยสาร 4 คน • เครื่องยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 0.5 ลิตร 500 ซีซี • เครื่องยนต์ไฮบริดแบบใช้แบตเตอรี่ Lithium ion
สู่ความเป็นรถกระบะขนาดกะทัดรัด ด้วยรถต้นแบบ A-BAT
รถยนต์ต้นแบบ A-BAT รถกระบะล้ำสมัย ให้ทั้งประโยชน์ใช้สอยอเนกประสงค์ กว้างขวางสำหรับการใช้งาน และสไตล์การออกแบบที่ล้ำหน้า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย A-BAT ได้เปิดตัวครั้งแรกในงานแสดงรถยนต์ North American International Auto Show 2008 ที่เมืองดีทรอยท์
ด้วยรูปลักษณ์ของแพล็ทฟอร์มที่เป็นหนึ่งเดียว รถต้นแบบ A-BAT ให้การควบคุมการขับขี่ได้ง่ายเสมือนการขับรถยนต์บนถนนในเมือง และให้สัมผัสแห่งการขับเคลื่อนที่นุ่มนวล น้ำหนักของรถที่เบา พร้อมกับเทคโนโลยี Hybrid Synergy Drive ของโตโยต้า ถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพ ในการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศโดยเฉพาะ แผงโซล่าเซลล์ ซึ่งให้แสงอาทิตย์ผ่านได้บริเวณพื้นผิวด้านบนของแผงอุปกรณ์ สะท้อนความเป็นรถยนต์ สีเขียว ได้อย่างชัดเจน นับได้ว่ารถต้นแบบ A-BAT นั้นได้หลอมรวมเอาการใช้งานแบบรถกระบะ เข้ากับรูปแบบของรถยนต์โดยทั่วไปได้อย่างลงตัว ภายใต้รูปลักษณ์ซึ่งสะท้อนทั้งประสิทธิภาพและความล้ำสมัย
รถแนวคิด Toyota A-BAT
รูปลักษณ์ภายนอกที่ลู่ลมอันโดดเด่นของ A-BAT นั้นได้รับการสรรค์สร้างผสานปรัชญาการออกแบบของโตโยต้าที่เรียกว่า ความสว่างชัด Vibrant Clarity เข้าสู่รูปลักษณ์ภายนอกของรถโดยยังคงดีไซน์การออกแบบที่มุ่งสู่อนาคต ประณีตและเต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอย สะท้อนการผสมผสานกันระหว่าง พื้นผิวรถขนาดใหญ่ แนวระนาบที่ตัดกัน ลายเส้นที่คมชัด และโครงสร้างแบบสี่เหลี่ยมคางหมู นอกจากนี้ ล้อขนาด 19 นิ้ว บริเวณมุมรถ ยังให้อารมณ์ที่แกร่งและพร้อมสำหรับทุกการเดินทาง
พื้นที่กระบะ 4 ฟุต แต่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่ารถกระบะมาตรฐานโดยทั่วไป แผงหลังคารถ ซึ่งแสงแดดสามารถส่องผ่าน สามารถเลื่อนเปิดเพื่อให้มีพื้นที่ในห้องโดยสาร สำหรับสัมภาระที่มีความสูงได้ และเมื่อประตูส่วนกลางพับลงบนห้องโดยสาร บริเวณกระบะเก็บสัมภาระก็จะขยายยาวขึ้นและหากเปิดประตูท้าย ก็จะมีความยาวเพิ่มขึ้นอีก เพื่อความเหมาะสมทั้งสำหรับการทำงานและการพักผ่อน
แม้ว่ารถต้นแบบ A-BAT มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ทรงพลัง แข็งแกร่ง แต่ทีมนักออกแบบก็ได้พัฒนาให้ภายในห้องโดยสารนั้นน่าดึงดูดและดูล้ำสมัย โดยสร้างสมดุลยภาพระหว่างสีสันและพื้นผิวให้ดูสว่างสดใสในขณะที่ยังคงความแกร่งทนทานพร้อมทรงพลังและสมส่วน โดยนำเอาวัสุดที่มีน้ำหนักเบา เข่น คาร์บอนไฟเบอร์ และอลูมิเนียมมาปรับใช้กับแผงอุปกรณ์ คอนโซลและเบาะนั่งเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างในขณะที่ลดปริมาณของมวลรวมลง คอนโซลกลางแบบอัลลอยอันแข็งแกร่ง ทว่าสง่างามนั้นวางตระหง่านอยู่ระหว่างเบาะตอนหน้าทั้งสอง พร้อมเป็นที่เก็บกล่องพลังงานแบบพกพา โดยกล่องแบตเตอรี่นั้นรองรับทั้งไฟฟ้ากระแสตรง และกระแสสลับสำหรับอุปกรณ์ในรูปแบบที่หลากหลาย
รถต้นแบบ A-BAT สำหรับผู้โดยสาร 4 คนนั้นสามารถปรับเปลี่ยนเบาะนั่งและที่วางสัมภาระในหลากหลายรูปแบบ ภายในรถ A-BAT ประกอบไปด้วยระบบนำทางแบบพกพาซึ่งพับเก็บได้พร้อมหน้าจอทแยงมุมขนาด 7 นิ้วและระบบอินเตอร์เน็ตแบบ Wi-Fi นอกจากนี้ ยังมีช่องสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พกพาและฮาร์ดไดรฟว์สำหรับการเล่นเพลงดิจิตอลทั้งคนขับและผู้โดยสารสามารถดูข้อมูลบนหน้าจอ MID ขนาดใหญ่ซึ่งจะบอกสถานะของอุปกรณ์ต่างๆ และ HVAC พร้อมการปรับค่าระบบเครื่องเสียงในรถ แผงรับแสงอาทิตย์บริเวณหน้ารถ จะทำหน้าที่สร้างพลังงานจากแสงอาทิตย์ เพื่อช่วยชาร์จระบบนำทาง กล่องพลังงานแบบพกพาและจอแสดงข้อมูลแบบเรืองแสง
รถต้นแบบคันนี้ถือเป็นวิวัฒนาการแห่งอนาคตสำหรับรถกระบะขนาดกะทัดรัด ที่เต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอย มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และแตกต่างจากรถกระบะโดยทั่วไป ถือเป็นนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนได้อย่างเพลิดเพลิน พร้อมใช้ประโยชน์ได้จริง ซึ่งสะท้อนความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนของโตโยต้า
New Generation Prius
ยนตรกรรมไฮบริดคาร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก ซึ่งผลิตเพื่อการจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 2540 จนถึงวันนี้ พรีอุส ได้รับการพัฒนาสู่เจนเนอเรชั่นที่ 3 มียอดจำหน่ายกว่า 1 ล้าน 2 แสนคันทั่วโลก โดย New Generation Prius ที่นำมาแสดงนี้เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่ได้รับการพัฒนาระบบไฮบริด ให้มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบาขึ้น ทำให้สามารถผสานการทำงานของระบบไฮบริดได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Toyota New Prius ปล่อยไอเสียสู่บรรยายกาศในระดับที่ต่ำมาก จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมัน สมรรถนะการขับขี่ดีเยี่ยม อีกทั้งเครื่องยนต์ยังทำงานเงียบ นับว่าเป็นคำตอบของรถยนต์ในยุคปัจจุบัน และตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของโตโยต้า ในการพัฒนาเทคโนโลยี ที่เคียงคู่กับสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมแห่งอนาคต
พบกับยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม : Hybrid World Around You พร้อมเลือกเติมความสุข...กับรถยนต์คุณภาพหลากรุ่น ตอบสนองทุกสไตล์ชีวิตได้ที่บูธ โตโยต้า พร้อมการบริการครบวงจรจากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 30 วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน ที่ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ ไบเทค บางนา
ที่มา: Toyota/Thaidriver
ความคิดเห็น