ตลาดเก๋งคอมแพ็กต์กลับมาฟัดเดือด! เมื่อยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ได้เพิ่มเขี้ยวเล็บให้กับ “โคโรลล่า อัลติส” เปิดตัวรุ่น เครื่องยนต์ใหม่ 2.0 ลิตร สู่ตลาด 7 พฤษภาคมนี้ ด้วยการวางบล็อก 3ZR-FE ระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual VVT-I ให้กำลัง 141 แรงม้า โดยมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย มาเสริมปัจจุบันที่มีเพียงเครื่อง 1.6 และ 1.8 ลิตร แต่เพื่อแก้ปัญหาความสับสนและซ้ำซ้อนระหว่างตัวสินค้า จึงปรับสเปกรุ่น 1.8 ลิตรใหม่ ถอดอุปกรณ์หรูหราและทันสมัยบางตัว ไปใส่ไว้ในรุ่น 2.0 ลิตรแทน และปรับโครงสร้างราคาลงมาอยู่ที่กว่า 8 แสนบาท เปิดช่องว่างระดับ 9 แสนบาท ให้กับรุ่นเครื่องยนต์ใหม่ งานนี้เปิดศึกแลกหมัดต่อหมัดกับคู่แข่งสำคัญ “ฮอนด้า ซีวิค” ทั้งเรื่องของเครื่องยนต์และราคา พร้อมยังตีกัน “มิตซูบิชิ แลนเซอร์” โฉมใหม่ ที่จะมีการแนะนำรุ่น 1.8 และ 2.0 ลิตร สู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้เช่นกัน
ปิดยอดขายไตรมาสแรกเก๋งคอมแพ็กต์ ยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ต้องกุมขมับพอสมควร แม้ปิดยอดขาย “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” รวม 3 เดือนแรกของปี จะยังเป็นผู้นำตลาดทำได้ 5,528 คัน แต่หากดูรายเดือน กลับมีตัวเลขไม่นิ่งเลย (ดูตารางประกอบ) ยิ่งเมื่อเทียบกับ “ฮอนด้า ซีวิค” คู่แข่งสำคัญ ที่สวนทางมีตัวเลขปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อรวม 3 เดือน ทำได้ 5,418 คัน ทิ้งห่างกันเพียงแค่ร้อยคันเศษๆ เท่านั้น!
นับว่าเป็นสัญญาณอันตราย ต่ออนาคตของโคโรลล่า อัลติสทีเดียว แม้จะอัดแคมเปญอย่างหนัก ทั้งให้ส่วนลดเงินสด วางเงินดาวน์ และยังดอกเบี้ยต่ำอีก ดังนั้นงานนี้โตโยต้าจะทำอย่างไร? เพื่อกอบกู้สถานการณ์ เพราะนอกจากฮอนด้า ซีวิคแล้ว ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ยังมีคู่แข่งที่มีความสดใหม่ อย่าง “มิตซูบิชิ แลนเซอร์” โมเดลเชนจ์แนะนำสู่ตลาดอีก
วันนี้คือวันเฉลยคำตอบ เพราะโตโยต้าจะมีการเปิดตัว... “โคโรลล่า อัลติส 2.0 ลิตร” สู่ตลาด! และยังเป็นการทำให้ภาพที่ทางโตโยต้า พยายามบอกกับสื่อมวลชนว่า ยอดขายโคโรลล่า อัลติส ที่ไม่ค่อยเดินเท่าไหร่ เนื่องจากบางรุ่นไม่สามารถตอบสนองให้กับลูกค้าได้มากนัก ตรงนี้ก็คงอธิบายความหมายนั่นได้ชัดเจนขึ้น… ประมาณว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมา อยู่ในช่วงปรับไลน์ผลิตนั่นเอง
ทั้งนี้การเปิดตัวโคโรล่า อัลติส 2.0 ลิตร เป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า จากเดิมที่มีเฉพาะเครื่องยนต์ขนาด 1.6 และ 1.8 ลิตร และเป็นการท้าชนกับคู่แข่งในกลุ่มคอมแพ็กต์คาร์ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูเบอร์หนึ่ง “ฮอนด้า ซีวิค” หรือมวยรองอย่าง มาสด้า3, ฟอร์ด โฟกัส และในอนาคตอีกไม่กี่เดือนจากนี้ “มิตซูบิชิ แลนเซอร์” โฉมใหม่ ที่ล้วนมีเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรทำตลาดทั้งนั้น
ในส่วนรายละเอียดของโคโรลล่า อัลติส 2.0 ลิตร ได้มีการนำข้อมูลมาเผยแพร่บ้างแล้ว โดยเฉพาะในเว็บบอร์ดของ NewAltisclub.com และถูกกระจายตามเว็บไซต์ต่างๆ อีกหลายแห่ง
โดยโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส 2.0 ลิตร วางเครื่องยนต์บล็อก 3ZR-FE ความจุกระบอกสูบ 1,986 ซีซี ระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual VVT-I 141 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 189 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ซึ่งเพิ่งเปิดตัวทำตลาดอยู่ในฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไต้หวัน และอีกหลายประเทศ รวมถึงรถรุ่นอื่นๆ ในญี่ปุ่น อย่างมินิเอ็มพีวี โตโยต้า โนอาร์ และว็อกซี่ แต่เมื่อรถรุ่นนี้ผลิตในประเทศไทย จะมีการส่งออกไปในภูมิภาคอาเซียนด้วย
ในส่วนรุ่นย่อยของโคโรลล่า อัลติส 2.0 ลิตร มีทำตลาดทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 2.0V Auto NAVI, รุ่น 2.0V Auto และรุ่น 2.0G Auto ซึ่งทั้งหมดมีรูปลักษณ์ไม่แตกต่างจากเดิมนัก ภายนอกเปลี่ยนเพียงกระจังหน้าเป็นลายตระแกรงตาข่ายสีดำ ขณะที่อุปกรณ์ติดตั้งมาที่โดดเด่นเห็นจะเป็น ระบบนำทาง หรือ Navigator กล้องมองหลัง และระบบ Hand-free Bluetooth ในรุ่น 2.0V Auto NAVI
ส่วนพวงมาลัย 3 ก้าน และ Paddle Shift ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์บริเวณพวงมาลัย ซึ่งเป็นการเพิ่มลูกเล่นให้กับเกียร์อัตโนมัติ Super ECT 4 สปีดตัวปัจจุบัน โดยมีมาให้ทุกรุ่นของ อัลติส 2.0 ลิตร รวมถึงระบบ ระบบ Smart Entry รอบคัน รวมทั้ง Push Start
สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้งมา ไม่ว่าจะเป็นระบบ ระบบควบคุมการทรงตัว VSC และป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ไฟหน้า HID ปรับระดับและเปิด-ปิดอัตโนมัติ และอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ติดตั้งอยู่แล้ว ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรปัจจุบัน
เหตุนี้โตโยต้าจึงต้องมีการปรับสเปกในรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและซ้ำซ้อนกันของตัวสินค้า ระหว่างรุ่น 2.0 และ 1.8 ลิตร ด้วยการถอดอุปกรณ์ส่วนใหญ่ ที่นำไปใส่ไว้ในรุ่น 2.0 ลิตร ออกไปจากรุ่น 1.8 ลิตร
พร้อมกันนี้ยังเป็นการแก้โจทย์เรื่องราคา โดยปรับฐานราคาให้แต่ละรุ่นมีความเหมาะสม เพราะเมื่อถอดอุปกรณ์ในรุ่น 1.8 ลิตรออก ทำให้สามารถปรับราคาลงมาอยู่ในระดับกว่า 8 แสนบาท แต่ไม่ถึง 9 แสนบาท และวางราคารุ่น 2.0 ลิตร ไว้ในระดับ 9 แสนบาท ถึงไม่เกินล้านบาท หรือหลักล้านเศษๆ ใกล้เคียงกับตัวล่างๆ ของ โตโยต้า คัมรี่ 2.0 ลิตร
นี่จึงถือเป็นเพิ่มเขิ้ยวเล็บให้กับ “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” ซึ่งจะสามารถต่อกรกับคู่แข่งสำคัญ “ฮอนด้า ซีวิค” ได้แบบหมัดต่อหมัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องยนต์ หรือราคา พร้อมกันนี้ยังเป็นการตีกัน “มิตซูบิชิ แลนเซอร์” โฉมใหม่ หรือทำตลาดในญี่ปุ่นว่า “การแลนท์ ฟอร์ทิส” ซึ่งจะมีการเปิดตัวสู่ตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และจะมีทั้งเครื่องยนต์ 1.8 และ 2.0 ลิตรทำตลาด
เกี่ยวกับคืบหน้าของแลนเซอร์โฉมใหม่ เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากค่ายมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยแล้ว โดยขณะนี้ได้มีการเตรียมงานทดสอบ ให้กับตัวแทนจำหน่ายและสื่อมวลชน รวมถึงแผนการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งจะทยอยให้เห็นในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป ดังนั้นแลนเซอร์โฉมใหม่จึงน่าจะเปิดตัวสู่ตลาดภายในช่วงไตรมาสสามปีนี้
สำหรับแผนการทำตลาด คาดว่ามิตซูบิชิยังจะคงแลนเซอร์ ซีเดีย โฉมปัจจุบันไว้ในรุ่น 1.6 ลิตร เห็นได้จากการใช้ยางบริดจสโตนเช่นเดิม ส่วนโฉมใหม่ 1.8 และ 2.0 ลิตร ได้เปลี่ยนไปใช้ยางของ โยโกฮาม่า ทั้งขอบ 17 และ 18 นิ้ว โดยเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศในเบื้องต้น
ดังนั้นนับจากนี้ไปถึงสิ้นปี ตลาดเก๋งคอมแพ็กต์ร้อนแรงแน่นอน และโตโยต้าจะสามารถรักษาบัลลังก์แชมป์ตลาดนี้ได้ต่อไปหรือไม่? “โคโรลล่า อัลติส 2.0 ลิตร” จะเป็นคำตอบ!
ที่มา: ผู้จัดการมอเตอริ่ง
ความคิดเห็น