มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่ ขายจริง 10 สิงหาคมนี้ ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ใหม่ลงตัวยิ่งขึ้น ภายนอกแข็งแกร่ง หรูหรา ภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร และ 3.2 ลิตร รองรับน้ำมันไบโอดีเซล B5 พร้อมตั้งราคาขายเริ่มต้นที่ 404,000 บาท ถึง 929,000 บาท
มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวรถยนต์ มิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่ สู่ตลาดเมืองไทย โดยจะเริ่มขายจริงตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป สำหรับมิตซูบิชิ ไทรทัน เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยในปี 2548 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาดทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากเป็นรถที่ให้ทั้งสมรรถนะในการขับขี่ที่เป็นเยี่ยม ดีไซน์ทันสมัย ลบภาพรถกระบะแบบเดิมๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการบรรทุกเพียงอย่างเดียวออกไปได้อย่างสิ้นเชิง และนับจากการเปิดตัวมาแล้วกว่า 4 ปี ในปีนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงได้พัฒนามิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ อีกครั้งเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ รวมทั้งตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสถานการณ์ทางการตลาดที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยมีการออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายในให้ความลงตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร และ 3.2 ลิตร พร้อมราคาขายเริ่มต้นที่ 404,000 บาท
[singlepic id=8393 w=490 h=360 float=center]
มิตซูบิชิ ไทรทัน เป็นรถกระบะรุ่นล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และทำการผลิตโดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในฐานะผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดทั่วโลก ตาม 3 แนวคิดหลัก กล่าวคือ แนวคิดแรกเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถกระบะทั้งในแง่ของการประหยัดน้ำมัน ความแข็งแกร่งทนทาน และความมั่นใจในการขับขี่ แนวคิดที่สองเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพซึ่งช่วยยกระดับและทำให้แบรนด์มิตซูบิชิได้รับการยอมรับในระดับสากล และสามเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการพื้นฐานของลูกค้าโดยไม่จำกัดอยู่เฉพาะการใช้งานเพื่อการพาณิชย์เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้จากการออกแบบภายนอกและภายในโดยการเพิ่มความสปอร์ตให้กับรถกระบะพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่ารถในระดับเดียวกัน และระบบช่วงล่างที่ให้ความนุ่มนวลและสะดวกสบายในการขับขี่อย่างรถเก๋งนั้นได้ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มิตซูบิชิ ไทรทัน มีความโดดเด่นเหนือรถกระบะอื่นๆ และในฐานะนวัตกรรมซึ่งมาสร้างเทรนด์ใหม่ให้กับตลาดรถกระบะในเมืองไทยจึงทำให้มิตซูบิชิ ไทรทัน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาดในประเทศ โดยมียอดขายนับจากเปิดตัวจนถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2552 อยู่ที่ 84,364 คัน พร้อมกันนี้ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกว่า 130 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภูมิภาคยุโรป อาเซียน และตะวันออกกลาง โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มียอดส่งออกไปยังนานาประเทศทั่วโลกแล้วกว่า 430,000 คัน
[singlepic id=8392 w=490 h=360 float=center]
“ นับตั้งแต่การเปิดตัวมิตซูบิชิ ไทรทัน อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม 2548 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้แนะนำรุ่นต่างๆ สู่ตลาดเมืองไทยมาแล้วถึง 26 รุ่น รวมทั้งการส่งรุ่นพิเศษต่างๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และกว่า 4 ปี ที่เราได้ศึกษาและเรียนรู้ตลาดจากการแนะนำรถรุ่นต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ได้รู้ถึงความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดภายหลังการพัฒนาและปรับปรุงมิตซูบิชิ ไทรทัน ให้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้นทาง บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะแนะนำมิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่รวมทั้งสิ้น 13 รุ่นสู่ตลาดเมืองไทย โดยอาศัยพื้นฐานของรุ่นที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าซึ่งถือเป็นรุ่นที่สามารถครอบคลุมและตอบสนอง
ความต้องการการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินงานด้านการตลาดและการขายรวมทั้งง่ายต่อการกำหนดกลยุทธ์การขายและจัดกิจกรรมทางการตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย โดยมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร และ 3.2 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร ซึ่งผมเชื่อว่า มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน” มร.มูราฮาชิ กล่าว
ไทรทัน รถรุ่นล่าสุด ได้รับการออกแบบใหม่ให้สง่าและบึกบึนขึ้นจากกระจังหน้าและล้ออัลลอยล์ดีไซน์ใหม่ที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะ ความสะดวกสบายและความปลอดภัยได้อย่างครบครัน ในขณะที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางถูกออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอยสูงสุดซึ่งถือเป็นการผสมผลานที่สมบูรณ์แบบของทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานและความสะดวกสบาย พร้อมการออกแบบอุปกรณ์ต่างๆ ให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น โดยใช้การตกแต่งโทนสีเงินเพื่อเพิ่มความลงตัวยิ่งขึ้นให้กับคอนโซลหน้าและคอนโซลเกียร์ รวมทั้งเบาะผ้าแบบใหม่ในรุ่น 2.5 GLS* ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางจึงให้ความรู้สึกสะดวกสบายอีกทั้งยังตอบสนองการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการเพิ่มอุปกรณ์และการตกแต่งเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นคอนโซลกลางขนาดใหญ่พร้อมที่วางแก้ว ที่เขี่ยบุหรี่สามารถถอดเปลี่ยนตำแหน่งได้ และที่พักแขนสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าพร้อมช่องเก็บของอเนกประสงค์แบบ 2 ชั้น และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมาก
[singlepic id=8394 w=490 h=360 float=center]
มาพร้อมพวงมาลัย แร็คแอนด์พีเนียนพร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรง ให้การควบคุมบังคับทิศทางขณะเลี้ยวหรือเข้าโค้งมีความแม่นยำมากขึ้น ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนกสองชั้น คอยส์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง* และช่วงล่างหลังแบบแหนบแผ่นซ้อน พร้อมโช้คอัพไขว้เพื่อให้การขับขี่ที่มีความมั่นคงและปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยมีให้เลือกทั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมโอเวอร์ไดรฟ์ และระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ อีกทั้งยังคล่องตัวในทุกการขับขี่ด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.7 เมตร ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 5.9 เมตร ในรุ่นพลัส และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้ทั้งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม นอกจากนี้ยังสามารถรองรับน้ำมันไบโอดีเซล B5 อีกหนึ่งพลังงานทางเลือก โดยมี 3 แบบให้เลือก ทั้ง 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล เทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 116 แรงม้า 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 140 แรงม้า และเครื่องยนต์ 3.2 ไฮเปอร์ คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์ คูลเลอร์ ที่ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า นอกจากนี้มีเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 128 แรงม้า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้า โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ เมกะแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ ที่สำคัญยังสามารถรองรับแก๊สโซออล์ อี 20 จึงให้ทั้งความประหยัดและคุ้มค่าคุ้มราคา
[singlepic id=8395 w=490 h=360 float=center]
มีให้เลือก 13 รุ่น พร้อมราคาขายเริ่มต้นที่ 404,000 บาท ถึง 929,000 บาท
1. ซิงเกิ้ลแค็บ 2WD 2.4 GL เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์เบนซิน 404,000 บาท **
2. ซิงเกิ้ลแค็บ 2WD 2.5 GL เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล 478,000 บาท **
3. เมกะแค็บ 2WD 2.4 GLX เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์เบนซิน 546,000 บาท
4. เมกะแค็บ 2WD 2.5 GLX เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล 576,000 บาท
5. เมกะแค็บ พลัส 2.5 GLX เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล 615,000 บาท
6. เมกะแค็บ พลัส 2.5 GLS เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล 664,000 บาท
7. ดับเบิ้ลแค็บ 2WD 2.5 GLX เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล 638,000 บาท
8. ดับเบิ้ลแค็บ พลัส 2.4 GLS เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์เบนซิน 715,000 บาท
9. ดับเบิ้ลแค็บ พลัส 2.5 GLS เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล 745,000 บาท
10. ดับเบิ้ลแค็บ พลัส 2.5 GLS เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ดีเซล 784,000 บาท
11. ดับเบิ้ลแค็บ 4WD 2.5 GLS เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล 776,000 บาท
12. ดับเบิ้ลแค็บ 4WD 3.2 GLS-LTD เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ดีเซล 890,000 บาท
13. ดับเบิ้ลแค็บ 4WD 3.2 GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ดีเซล 929,000 บาท
* เฉพาะรุ่น PLUS และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
** สำหรับรุ่นสีเมทัลลิค ราคาเพิ่มอีก 7,000 บาท
ที่มา: Mitsubishi/นิตยสาร Thaidriver
[nggallery id=527]
ความคิดเห็น