ต่อไปนี้เราๆท่านๆต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการสับสน สำหรับรถไฮบริดที่ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะหมายถึงรถพันธุ์ผสมระหว่างเครื่องยนต์กับไฟฟ้า แต่สำหรับกรณีนี้ Mercedes-Benz B-Class F-Cell ซึ่งเป็นรถไฮบริดเช่นกัน แต่เป็นการผสมผสานระหว่างพลังงานไฮโดรเจนกับพลังงานไฟฟ้า จากข้อมูลของค่ายรถยนต์ดาวสามแฉกที่ได้มา บริษัทฯเผยว่า จะเริ่มผลิตรถยนต์ตัวอย่างล็อตแรกจำนวน 200 คันในปลายปีนี้ เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าในยุโรปและอเมริกาในต้นปีหน้า
[singlepic id=9718 w=490 h=360 float=center]
โดยการใช้รถแฮทช์รุ่น B-Class เป็นพื้นฐาน F-Cell จะใช้ระบบเซลล์เชื้อเพลิงเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ก๊าซไฮโดรเจนจะทำปฎิกิริยากับก๊าซออกซิเจนในอากาศที่ความดัน 700 บาร์ เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนมอเตอร์พร้อมกับได้น้ำเป็นผลพลอยได้ขึ้นมา
[singlepic id=9719 w=490 h=360 float=center]
เช่นเดียวกันกับระบบไฮบริดที่ใช้กับเครื่องยนต์สันดาป รถเซลล์เชื้อเพลิงจะใช้แหล่งจ่ายพลังงานเป็นแบตเตอรี่ลิเธี่ยมอิออนที่ให้กำลัง 35 กิโลวัตต์ ส่วนอุปกรณ์ขับเคลื่อนจะมีการติดตั้งบริเวณใต้ท้องรถจึงไม่กระทบกับพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ซึ่งอยู่ที่ 416 ลิตร
[singlepic id=9716 w=490 h=360 float=center]
มอเตอร์ไฟฟ้าของรถรุ่นนี้จะให้กำลัง 100 กิโลวัตต์ หรือ 136 แรงม้า โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 290 นิวตัน-เมตร ทำให้รถเซลล์เชื้อเพลิง 5 ประตูคันนี้มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 170 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทาง Mercedes-Benz ยังอ้างอีกว่า รถรุ่นนี้ไม่ก่อมลพิษใดๆเลย โดยมีระยะทำการประมาณ 400 กิโลเมตร และจะใช้เวลาเพียง 3 นาทีในการเติมไฮโดรเจนให้เต็ม
[singlepic id=9711 w=490 h=360 float=center]
นอกจากนั้นแล้ว Mercedes-Benz ยังได้แก้ปัญหาการสตาร์ทเครื่องในขณะอากาศเย็นซึ่งส่งผลกระทบกับรถที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน ซึ่ง B-Class F-Cell รุ่นนี้สามารถสตาร์ทเครื่องได้ ณ อุณหภูมิที่ต่ำถึง -25 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยก็ไม่ต่างจากรถรุ่นอื่นๆของ Mercedes-Benz ครับ
[singlepic id=9714 w=490 h=360 float=center]
รถที่ใช้เครื่องยนต์เริ่มจะดูล้าสมัยเข้าไปทุกที
ที่มา: Mercedes-Benz
[nggallery id=621]
ความคิดเห็น