ก่อนที่จะเริ่มจำหน่ายในช่วงฤดูร้อนของปีหน้า McLaren ต้องการให้มั่นใจว่าคนรักซุปเปอร์คาร์ยังไม่ลืมรถสัญชาติอังกฤษรายนี้จึงมีการให้ข่าวมาเป็นระยะๆ ล่าสุดได้เปิดตัว McLaren MP4-12C ที่สำนักงานใหญ่ในเมือง Woking ประเทศอังกฤษ หลังจากที่ AutoSpinn เคยนำภาพของรถรุ่นนี้มาให้ชมเมื่อหลายเดือนก่อนแล้ว MP4-12C ใช้เครื่องยนต์วางกลาง V8 3.8 ลิตร ที่พัฒนาขึ้นโดย McLaren เอง และด้วยระบบ Twin Turbo จึงทำให้รถรุ่นนี้ดุได้ที่ 600 แรงม้า ในขณะที่แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 443 ปอนด์ฟุต
[singlepic id=18860 w=490 h=360 float=center]
McLaren เผยว่า MP4-12C สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลาที่น่าทึ่ง นั่นคือต่ำกว่า 3 วินาที! และแตะระดับ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลาต่ำกว่า 10 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 322 กิโลเมตร/ชั่วโมง
[singlepic id=18842 w=490 h=360 float=center]
ถ้ากลับไปมองคู่แข่งแล้ว Ferrari 458 Italia ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 3.4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดดีกว่าที่ 325 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วน Lamborgini Gallardo LP560-4 มีอัตราเร่งเดียวกันนี้ภายใน 3.7 วินาที และถึงระดับ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 11.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้เท่ากับ 458 Italia คือ 325 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกว่า MP4-12C อัตราเร่งดีกว่าแต่ความเร็วสูงสุดต่ำกว่าคู่แข่งตัวฉกาจจากแดนมักกะโรนี
[singlepic id=18846 w=490 h=360 float=center]
คาดกันว่า McLaren จะเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการของ MP4-12C ในช่วงปลายปีนี้ โดยบริษัทฯอ้างว่าราคาจะอยู่ในช่วง 125,000-175,000 ปอนด์ แม้ว่าราคาจะมีหน่วยเป็นปอนด์สเตอริง แต่ถือว่าน่าสนใจสำหรับเศรษฐีที่มีใจรักซุปเปอร์คาร์ อย่างน้อยเมื่อเทียบกับซุปเปอร์คาร์หน้าใหม่อย่าง Lexus LFA ที่เตรียมขายไว้ที่ 375,000 เหรียญสหรัฐฯ McLaren ยังมองว่า MP4-12C จะเป็นคู่แข่งสำคัญของ Porsche 911 ด้วยเช่นกัน
[singlepic id=18835 w=490 h=360 float=center]
McLaren ให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของการทำน้ำหนัก โดยการพัฒนาล่าสุดเป็นเรื่องของลดน้ำหนัก MonoCell ซึ่งเป็นโครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์หลอมแบบชิ้นเดียวที่สามารถทำน้ำหนักได้ต่ำกว่า 80 กิโลกรัม เพื่อให้เป็นไปตามแผนในการทำน้ำหนักสุทธิของรถทั้งคันให้ต่ำกว่าคู่แข่งทุกรายที่ 1,300 กิโลกรัม หรือ 2,867 ปอนด์
[singlepic id=18834 w=490 h=360 float=center]
ที่น่าสนใจก็คือ McLaren ยอมเปิดเผยว่า ทำไมบริษัทฯจึงสามารถสร้างรถในน้ำหนักระดับนี้ได้ โดยปัจจัยหรือวิธีการเหล่านั้นได้แก่
1. การใช้ระบบเบรคทำด้วยวัสดุอลูมิเนียมหลอมและเหล็กหล่อที่เบากว่าระบบเบรคที่ทำด้วยคาร์บอนเซรามิค วิธีการนี้ทำให้น้ำหนักรถเบาลงไป 5 กิโลกรัม
2. การใช้แบตเตอรี่ลิเธียมอิออนน้ำหนักเบา ลดน้ำหนักรถไปได้อีก 10 กิโลกรัม
3. การใช้โครงสร้างรองรับแผงควบคุมภายในที่ทำด้วยวัสดุแมกนีเซียมน้ำหนักเบา
4. เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่อง V8 Twin-Turbo ขนาดเล็ก แต่ให้กำลังถึง 600 แรงม้า
5. หม้อน้ำระบายความร้อนมีการติดตั้งไว้ด้านหลังทำให้ลดความยาวของท่อต่างๆลงไป รวมถึงน้ำยาที่ใช้ก็จะมีปริมาณน้อยลงไปเช่นกัน ทำให้น้ำหนักเบาขึ้น
6. การเดินสายต่างๆใช้ท่ออลูมิเนียมแบบหกเหลี่ยมทำให้ลดน้ำหนักไปได้อีก 4 กิโลกรัมสำหรับงานเดินสายภายในทั้งหมด
[singlepic id=18851 w=490 h=360 float=center]
McLaren MP4-12C จะเริ่มมีจำหน่ายในปีหน้า ผ่านตัวแทนจำหน่ายใน 19 ประเทศทั่วโลกครับ
[singlepic id=18854 w=490 h=360 float=center]
[nggallery id=1215]
ที่มา: McLaren
ความคิดเห็น