ในสหราชอาณาจักร Nissan ได้เปิดราคาขายของ Juke รถ Compact Crossover รูปทรงล้ำสมัยไปเรียบร้อยแล้วในราคาที่เอาใจตลาดเป็นพิเศษที่ 12,795 ปอนด์ และเพื่อง่ายในการเปรียบเทียบ Ford Fiesta เวอร์ชั่น 3 ประตู รุ่นใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.25 ลิตร 60 แรงม้า เพิ่งเปิดราคาขายเริ่มต้นไว้ที่ 11,645 ปอนด์ นั่นหมายความว่า Juke กำลังเดินเข้าสู่สมรภูมิของรถระดับ subcompact หรือ supermini อย่างเต็มตัวในเรื่องของราคาแม้ว่ารูปทรงจะไม่ใช่แฮทช์แบ็คอย่างที่รถใน segment นี้นิยมกัน
[singlepic id=23337 w=490 h=360 float=center]
การจำหน่าย Nissan Juke จะเริ่มขึ้นในปลายเดือนกันยายนปีนี้ Juke มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 117 แรงม้า ถือว่าแรงกว่า Ford Fiesta ถึงเกือบเท่าตัว แต่อัตราการซดน้ำมันก็คงไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Fiesta ที่กินน้ำมันน้อยสุดๆในรถระดับเดียวกันไม่ว่าจะเป็น Jazz หรือ Yaris ตามที่ AutoSpinn เคยให้ข้อมูลการทดสอบจากหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาไปแล้วเมื่อวันก่อน
[singlepic id=23339 w=490 h=360 float=center]
ในอังกฤษ Juke จะมี 3 รุ่นเครื่องยนต์ทางเลือก คือรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 117 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรือ CVT รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล dCi 1.5 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และรุ่นท็อปสุดที่เป็นรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 1.6 ลิตร Direct Injection ที่ให้กำลังสูงถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร
[singlepic id=23340 w=490 h=360 float=center]
Nissan ทำตลาด Juke ผ่าน 3 รุ่นย่อย (ตามชนิด/ขนาดของเครื่องยนต์) คือ Visia, Acenta และ Tekna โดยรุ่นเล็กสุดคือ Visia ซึ่งขายอยู่ที่ 12,795 ปอนด์ ที่มาพร้อมล้ออัลลอยขอบ 16 นิ้ว ระบบควบคุมความเสถียรของตัวรถ (ESP) ถุงลมนิรภัย 6 จุด เบาะนั่งสไตล์สปอร์ท และระบบปรับอากาศ
[singlepic id=23341 w=490 h=360 float=center]
Acenta เป็นรุ่นใหญ่ขึ้นมาอีกนิดกับราคาขายที่ 13,795 ปอนด์ ใช้ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ระบบควบคุมอากาศภายใน Bluetooth พร้อมการต่อเชื่อมผ่าน USB ระบบควบคุมการขับ Dynamic Control System จาก Nissan ที่ช่วยควบคุมล้อให้อยู่ในช่องการจราจร
[singlepic id=23331 w=490 h=360 float=center]
รุ่นสุดท้ายที่เป็นรุ่นท็อปสุดก็คือ Tekna ที่มีราคาขายอยู่ที่ 15,795 ปอนด์ ซึ่งมีการเพิ่มชุดหนังเข้าไป นอกจากนั้นยังมีระบบสื่อสาร Nissan Connect กล้องมองหลัง กุญแจอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ท ฯลฯ
ถ้ามีการผลิตเพื่อขายในเมืองไทยที่ราคาไล่ๆกับรถเล็กระดับ subcompact ในบ้านเรา รับรองว่าคงขายดีเทน้ำเทท่าแบบ Nissan March ที่ล่าสุดจนถึงวันนี้ยอดจองทะลุ 15,000 คันไปเรียบร้อยแล้วจากที่ตั้งเป้าไว้ทั้งปีที่ 20,000 คัน เห็นได้ชัดว่า 1-2 ปีมานี้ Nissan ทำการตลาดในเชิงรุกมากถึงมากที่สุด นอกจากจะส่งรถไปใน segment ต่างๆแล้ว ยังทำราคาได้ดีในสมรรถนะที่น่าสนใจด้วย ไม่ว่าจะเป็น GT-R, Leaf, March หรือ Juke
[nggallery id=1527]
ที่มา: Nissan
ความคิดเห็น