ถือว่าเป็นรถรุ่นไมเนอร์เชนจ์อีกรุ่นที่ดูแล้วเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในเรื่องของหน้าตาภายนอกมากนัก Smart ForTwo รุ่นปี 2011 ออกมาเผยโฉมก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน Paris Motor Show ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ และจะเริ่มจำหน่ายหลังจากนั้น ForTwo รุ่นไมเนอร์เชนจ์หรีอแต่งหน้าทาปากใหม่นี้มีของใหม่คือ สีตัวถังภายนอกเป็นสีเขียวอ่อนที่เป็นสีด้าน โดยลูกค้ามี option ให้เลือกเป็นล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้ว 3 แบบ ไฟวิ่ง LED Daytime ด้านหน้ารถ
[singlepic id=25767 w=490 h=360 float=center]
ในส่วนของแผงกระจังหน้า ครอบกระจกข้าง และกรงนิรภัยมีให้เลือก 3 สี คือ สีขาว สีเงิน และสีดำ ภายในมีการเพิ่มจุดไฟ LED แบบ Ambient พวงมาลัยหุ้มหนังใหม่พร้อมฟังค์ชั่น Cruise Control และ Trip Computer ติดตั้งภายในเป็น option ที่พักแขนบริเวณกลางตัวรถ แผงอุปกรณ์และหน้าปัดดีไซน์ใหม่ ส่วนจอแสดงผล LED ขนาด 16.5 เซนติเมตรที่ต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ข้อมูลได้ทุกแบบก็เป็น option อีกเช่นกัน
[singlepic id=25761 w=490 h=360 float=center]
ใต้ฝากระโปรงมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของการตั้งโปรแกรมใหม่ให้เครื่องยนต์พร้อมติดตั้งระบบไอเสียชุดใหม่ที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 60 และ 70 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 4.2 ลิตร/100 กิโลเมตร ส่วนอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 97 กรัม/กิโลเมตร ส่วนเวอร์ชั่นเครื่องยนต์เบนซิน 83 แรงม้า จะมีอัตราสิ้นเปลืองฯที่ 4.9 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 114 กรัม/กิโลเมตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล cdi 54 แรงม้ามีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 86 กรัม/กิโลเมตร ส่วนรุ่นท็อปสุดคือ Brabus ที่มีกำลังระหว่าง 97-101 แรงม้า จะมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 119 กรัม/กิโลเมตร
[singlepic id=25762 w=490 h=360 float=center]
หลังจากการทำตลาด ForTwo รุ่นไมเนอร์เชนจ์นี้แล้ว Daimler เตรียมปล่อย ForTwo เจนเนอเรชั่นใหม่ออกมาในชื่อ Lightshine ซึ่งถือว่าเป็นรุ่น Limited โดยมีการใช้อุปกรณ์คุณภาพสูงในการตกแต่ง มีสีตัวถังภายนอกเป็นสีเขียวอ่อนและสีฟ้าอ่อนที่เป็นการทำสีแบบด้านให้เลือกทั้งในเวอร์ชั่น Coupe และ Cabriolet ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ทางเลือก 3 รุ่นคือ เครื่องยนต์เบนซิน 70 แรงม้า เครื่องยนต์เบนซิน 83 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 54 แรงม้า
[singlepic id=25766 w=490 h=360 float=center]
[singlepic id=25764 w=490 h=360 float=center]
[singlepic id=25765 w=490 h=360 float=center]
[singlepic id=25769 w=490 h=360 float=center]
[singlepic id=25754 w=490 h=360 float=center]
[singlepic id=25755 w=490 h=360 float=center]
[singlepic id=25757 w=490 h=360 float=center]
[singlepic id=25758 w=490 h=360 float=center]
[nggallery id=1694]
ที่มา: Daimler
ความคิดเห็น