รีวิว Nissan X-Trail ใหม่ รุ่นปี 2011 ทดสอบขับสัมผัสใกล้ชิด จากบางกอกถึงหัวหิน Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว Nissan X-Trail ใหม่ รุ่นปี 2011 ทดสอบขับสัมผัสใกล้ชิด จากบางกอกถึงหัวหิน

Admin
โดย Admin
โพสต์เมื่อ 04 January 2554

ขอเปิดวันทำงานวันแรกของปี 2554 ด้วยรีวิว/ทดสอบขับ Nissan X-Trail ใหม่รุ่นปี 2011 ที่ในครั้งนี้ AutoSpinn ได้ส่งตัวแทนในการทำรีวิวไป 2 คนคือ คุณเทพ และคุณโถซึ่งนอกจากที่จะต้องสัมผัส X-Trail ตัวใหม่ให้ถึงกึ๋นแล้ว ยังมี Navara ให้ได้ลิ้มลองแบบใกล้ชิดอีกด้วย

นิ่งสยบ ความเคลื่อนไหว !!

ประโยคแรกที่ลอยเข้ามาในสมอง หลังจากที่เริ่มเรียกสติตัวเองกลับมาจากมโนภาพบรรยากาศหัวหิน กับเจ้าวัตถุสี่เหลี่ยมขนาด 1.4 ตัน ที่จอดสงบนิ่งอยู่ซึ่งจะอาสารับหน้าที่พาผมและทีมงานไปสูดอากาศเย็นๆริมชายหาด พร้อมกับคาราวาน Nissan Navara Trip ในการเดินทางครั้งนี้ ทำให้ทีมงาน Autospinn อย่างพวกเราที่กำลังอยู่ในช่วงจัดสรรหาเวลาพักร้อนตามประสาคนทำงานจะได้เวลาพาตัวเองออกจากออฟฟิศแคบๆไปพบประสบการณ์ใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า เพราะสิ่งที่รอผมอยู่ในขณะนี้ คือ เจ้า Nissan X-Trail 2.0 V ใหม่ !!

สัมผัสครั้งแรก

ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เห็น เจ้า Nissan X-Trail 2.0 V รุ่นใหม่นี้ ผมกลับมีความรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นคุณพ่อลูกอ่อนยังไงก็ไม่ทราบ คงเป็นผลมากจากการดีไซน์รถที่ตั้งใจทำให้มีความรู้สึกเหมือนผู้ชายอบอุ่น มั่นคงและปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ซึ่งการออกแบบตัวถังรถยนต์เป็นแบบ Xciting Design ที่ Nissan มีความตั้งใจในทุกกระบวนท่าของการออกแบบที่แฝงรายละเอียดของตัวอักษร X ที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงเหมือนเหล็กกล้าไว้แทบทุกอนุของตัวรถ นอกจากบอดี้รถก็ยังมีอีกหนึ่งสื่งหนึ่งที่สะกดสายตา ให้ไปหยุดและต้องจองนานกว่า 10 วินาที นั้นคือโคมไฟหน้าแบบ Bi-Xenon ที่มาพร้อมกับ Projector Lens ที่ตอกย้ำความเข้มแข็งของรถ แต่ที่เสียเวลาในการมองมากที่สุดก็คงจะเป็นเจ้าที่ฉีดน้ำทำความสะอาดไฟหน้า ที่มองผ่านๆแล้วคุณจะไม่มีทางเห็นจนกว่าคุณจะตั้งใจมองให้ละเอียดถี่ถ้วน ว่าเอ! แอบคิดว่าเจ้ารถรุ่นนี้ท่าทางจะมีรายละเอียดซ่อนไว้อีกเยอะเลยนะเนี่ย

เรียนรู้

หลังจากที่ได้เชยชมและสัมผัส Nissan X-Trail 2.0 V แบบเร่งด่วน เพราะกว่าทีมงานจะไปถึงที่นัดหมาย ก็ใกล้ได้เวลาของขบวน Navara และ Nissan X-Trail จะล้อหมุนทำให้ไม่ได้มีเวลาทำความรู้จักคุ้นเลยกันมากนัก ซึ่งทริปนี้เริ่มต้นสตาร์ทที่บริเวณสี่แยกราชดำริ เขตชุมชน รถยนต์และรถโดยสารที่หนาแน่น และ Nissan X-Trail คันนี้ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เพราะตั้งแต่เข็มไมค์เริ่มกระดิกจาก 0 ไปจนถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกียร์ XTRONIC CVT สอดประสานการทำงานกับเครื่องยนตร์รหัส MR20DE 4 สูบ ขนาด 2,000 ซีซี 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CVTC ในแบบฉบับของ Nissan ที่ผลิตกำลังออกมากว่า 136 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาทีและแรงบิดสูงสุด 25.0 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที ให้ออกมาวิ่งเล่นได้อย่างสมดุลและนุ่มนวล แม้ว่าในเขตกรุงเทพฯ เราไม่สามารถใช้ความเร็วได้เต็มที่ก็ตาม ก็ยังคงมีบางช่วงถนนโล่งๆเช่นทางด่วน ดาวคะนอง ที่จะได้ยืดเส้นยืดสายท่ามกลางการการจราจรในเมือง ก็ทำให้รู้สึกถึงอัตราเร่งที่ทำได้ดีและต่อเนื่อง แม้จะแบกน้ำหนักถึง 1,460 กิโลกรัม บวกกับน้ำหนัก 2 คนทีมงานและของเหลวอื่นๆอีกประมาณ 200 กิโลกรัม คงจะต้องให้คะแนนความดีระดับ A+ ให้กับเจ้าระบบเกียร์ XTRONIC CVT ที่ทำหน้าที่ได้ฉานฉลาดร่วงรู้ถึงน้ำหนักของฝ่าเท้าและข้อเท่าได้ จัดการประเคนความเร็วให้อย่างดีแถมยังลดการศูนย์เสียเวลาจากเปลี่ยนเกียร์ ทำให้รู้สึกถึงความต่อเนื่องของแรงดึงที่มาเรื่อยๆอย่างชัดเจน จากการขับขี่ที่ชิลล์ๆก็ทำให้เริ่มจะคุ้นเคยกับ X-Trail มากขึ้น สมองของผมก็เลยมีเวลาคิด วิเคราะห์ และแยกแยะประสาทเสียงออกจากประสาทสัมผัส และก็ได้ค้นพบความโลกอีกหนึ่งใบนั่นก็คือห้องโดยสารแห่งนี้นี่เอง เงียบซะ!! แม้จะอยู่ในเมืองแห่งความวุ่นวาย การเก็บเสียงของ Nissan X-Trail ถือว่าดีเลยทีเดียว หากจะเปรียบเทียบกับเงินที่ต้องจ่ายไปเพียงล้านนิดๆ หัวใจของผมเลยโอเคตกลงว่ายอมแล้วจ้า แล้วจึงค่อยๆจัดการหลงรักทีละนิดทีละนิด

โดดเด่นด้วยคุณภาพของวัสดุ

ขับขี่กันมาได้ซักพักผมเองเริ่มมองความสวยที่ถูกซ่อนอยู่ภายในจากดีไซน์ที่ต้องบอกตรงๆว่าชนะใจคนได้ไม่มากเท่า SUV ในยุคนี้ เพราะจากการที่น้องทีมงานคนหนึ่งเริ่มที่จะเคลื่อนย้ายก้นอันอุ้ยอ้ายของตัวเองอยู่ในรถก็ทำให้ผมเริ่มละสายตาออกจากทางข้างหน้า และเริ่มที่จะทำการตรวจสอบภายตามที่ทีมงานอีกหนึ่งท่าน ได้ทำการแจ้งผมให้ทราบอยู่ตลอดเวลา (คล้ายๆกับเด็กเห็นของเล่นใหม่แล้วชวนดู) สายตาผมเริ่มไล่ตั้งแต่ คอนโซลหน้าที่มีเสียงเคาะจากมือของทีมงาน ก็ทำให้เห็นถึงวัสดุ สีดำที่นุ่มนวลกว่าพลาสติกในแบบ Soft Touch ที่เห็นได้ทั่วไปของรถระดับราคาเดียวกันในท้องตลาด และการประกอบของ Nissan X-Trail ที่ประณีตกว่าเนียนกว่าชนิดที่มือลูบไล้และไม่มีสะดุด แต่ที่แตกต่างและถูกใจที่สุดก็น่าจะเป็นที่วางขวดน้ำและการที่มีช่องแอร์เล็กๆคอยรักษาอุณหภูมิแบบไม่เกะกะช่องแอร์สำหรับหายใจแบบรถบางรุ่นที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจให้มาบังแอร์ตูซะงั้น (โอ้พระเจ้า น่าจะดีไซน์แบบนี้มาตั้งนานแล้ว) หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนร่วมทางก็ได้จัดแจงรับหน้าที่เป็น DJ ในห้องโดยสาร โดยทำการเปิดเครื่องเล่น DVD ซึ่งเป็นระบบสัมผัสขนาดจอ 6.5 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB และ iPod เรียกว่าบันเทิงอารมณ์กันเต็มพิกัดอย่างแน่นอน ทาง Nissan ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะมาพร้อมระบบ Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อกับ Hands-Free เพื่อใช้พูดคุยโทรศัพท์ขนาดขับรถได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล

มาถึงในส่วนของเบาะนั่งที่หุ้มด้วยหนังสีดำแบบเย็บย่น จึงให้ความรู้สึกหรูหราและอารมณ์สปอร์ตไปแบบเต็มๆ พร้อมระบบปรับที่นั่งไฟฟ้าที่ให้ความสะดวกสบายราวกับที่นั่ง Fist Class แต่ที่ทีมงานชอบที่สุด ก็น่าจะเป็นในส่วนของห้องสัมภาระตอนท้ายที่อเนกประสงค์จริงๆ เพราะมีในส่วนของลิ้นชักเก็บของที่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้สามารถเก็บได้ตั้งแต่ เงินเมียหลวงยันโทรศัพท์เมียน้อย ได้อย่างไม่สะดุดสายตาแม่ยาย แต่เมื่อเราทำการพับเบาะที่นั่งตอนหลัง เราก็เตรียมพับกบ...เอ้ย เตรียมพบกับ พื้นที่มหึมาขนาด 630 ลิตร ที่ทาง Nissan บอกเรามาก่อนออกทริปในครั้งนี้ ซึ่งตอนแรกผมเองก็ยังไงอยู่ว่า มันจะใหญ่ขนาดไหน แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับ เพราะเราสามารถตั้งวงเล่นไพ่เคลื่อนที่ได้อย่างสบาย

สนิทกันมากขึ้น

หลังจากที่เริ่มต้นเรียนรู้กันมาซักพักใหญ่ ก็ได้เวลาของการร่วมหัวจมท้ายกันแล้ว เมื่อ คาราวานของ Nissan ได้ทำการโยกย้ายมาจนถึงนาเกลือ ซึ่งเป็นทางผ่านของถนน ธนบุรีปากท่อ ออกสู่ถนน เพชรเกษม ก็ได้เวลาของการเอาจริงเอาจังกันแล้ว เพราะทีมงานได้รับไฟเขียวจากจ่าฝูง Nissan Navara & Nissan X-Trail เป็นเสียงที่มาจากวิทยุสื่อสารบนรถยนตร์ว่า จัดเต็ม มาหนัก ได้แล้วครับ พี่น้อง!!

อ้าวๆ มากระทุ้งกันแบบนี้ต้องโดนซะแล้วครับพี่น้อง พอคิดปั๊บ ขาก็เลยจัดการเยียดเต็มที่ กดตะบี้ตะบันจนคันเร่งจนไปกองอยู่ที่แผ่นเหล็กที่เรียกว่าตัวถัง เท่านั้นละครับ สมองผมก็หลั่งอะดริลนาลีนออกมากทันที เพราะเสียงของเจ้าเครื่องยนต์ MR20DE DOCH 16 วาล์ว ก็ส่งเสียงออกมาขู่ผมอย่างหนักระหว่างรอบเครื่อง 5,500-6,500 รอบต่อนาที เสียงดังขู่แต่ภาพของความเร็วอาจจะไม่เป็นไปตามนั้นเท่าไหร่ แต่เจ้า X-Trail ก็ได้พยายามพาร่างสูงใหญ่ ฝ่ากระแสลมขึ้น จนทะยานเข้าสู่พื้นที่ของความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในระยะเวลาไม่นานจนเกินไปนัก น่าเสียดายตรงที่ เรามากันเป็นขบวนจึงทำให้ไม่สามารถทดลองอะไรไปมากกว่านี้นอกจากทำหน้าที่วิ่งไล่ตาม Nissan Navara ให้ทันเท่านั้น แต่ก็ค้นพบว่า เจ้าเกียร์ XTRONIC CVT นี้มันเรียนดีและว่าง่ายกว่าเกียร์ CVT ของนักเรียนค่ายอื่นๆนะครับเนื่องจาก ถ้าเป็น นักเรียน CVT ของค่ายอักษรอังกฤษตัวเดียว เวลาที่เรากดเต็มที่จัดหนัก นักเรียกก็อาจจะตอบสนอง เพียงแค่รอบ 4,500 ต้องรอให้มีคำสั่งลงไปที่ โหมด S ก่อนถึงจะขยัน แตกต่างจากนักเรียนชื่อ XTRONIC CVT ที่ให้มาทันทีเมื่อครูสั่ง ว่านอนสอนง่ายจริงๆแท้

นอกเหนือจากระบบเกียร์และเครื่องยนต์ที่ทำหน้าที่ให้เจ้าวงล้อกลมๆทำหน้าที่วิ่งให้ครบรอบแล้ว ก็ได้เวลาของระบบพวงมาลัย, ช่วงล่างและระบบเบรคที่เปรียบเสมือนคุณครูฝ่ายปกครอง ที่ต้องคอยควบคุมความพฤติกรรมของนักเรียนวัยโจ๋ต่างๆ หลังจากที่ทีมงานได้ทำการทั้งเหยียบทั้งกระทืบ(คันเร่ง) มาเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง

คาราวานของ Nissan Navara & Nissan X-Trail ก็ได้เดินทางมาจนถึงทางเลี่ยงเมืองเพชรบุรี เพื่อไปทานข้าวที่ร้านอาหาร ก็จะค้นพบเส้นทางที่เป็นถนน 2 เลน ซึ่งระหว่างทางนั้นก็เป็นเส้นทางที่ค่อนค้างจะคดเคี้ยว พอสมควรทำให้ผมและน้องทีมงานมีโอกาสได้ออกแรงแขนและขากันแล้ว ก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังเลยครับ เพราะจากการที่ได้ใส่โค้งกันเต็มๆนั้น รถที่มีมิติความสูง 1,685 มม.หากเป็นรถทั่วไปก็อาจจะมีอาการท้ายบานออกจากโค้งบ้าง แต่กับเจ้า Nissan X-Trail กับไม่ค่อยแสดงอาการท้ายบาน (Over Steer) ออกมาเลยแต่กลับกันคุณจะพบเสียงกรีดร้องมาจากยางคู่หน้าที่ร้อง โอ๊ก...อ๊าก บ้างประปราย แต่โดยรวมแล้วถือว่าเยี่ยมยอดไปเลย เพราะถึงแม้จะออกอาการหน้าดื้อ (Under Steer) ตามภาษาของรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าบ้าง ก็ไม่หนักหนาจนเกินไปเลยเพียงแต่คุณแค่ลดเกียร์ลงเพื่อทำการ Engine Brake กล่องสี่เหลี่ยมกล่องนี้ก็จะกลับมาอยู่ภาพใต้ฝ่ามือคุณอีกครั้ง แบบง่ายๆ

นอกเหนือจากช่วงล่างที่ค่อนข้างจะหนึบ ไม่โยน ซ้าย ขวา อย่างมั่วซั่วแล้ว น้ำหนักของพวงลัยที่ให้มาก็ถือว่าให้ความสะดวกสบายมากๆ เพราะมีน้ำหนักเบาแต่ไม่เบาจนเกินไปนักทำให้การควบคุมในช่วงใช้ความเร็วสูงก็จะไม่มีทางทำให้เกิดความรู้สึกเสียวขึ้นมาเลย ระบบเบรค ก็ยังสามารถทำให้ทีมงานมั่นใจได้ว่า หยุดได้ตลอดเวลา ถึงแม้จะมีอาการเบรคไวหรือเบรคตื้น ซึ่งเหมาะสำหรับคนขี้ตกใจกลัว(ประมาณว่าตกใจเตะเบรคนิดหน่อยก็อยู่แล้ว) เอาเป็นว่าเท่าที่ผมและน้องทีมงานมีโอกาสได้เหยียบดูนะครับบอกได้แค่ว่า ตามคำสั่งของเท้า ทุกกรณี จากที่ทำการขับและขี่เจ้า Nissan X-Trail ใหม่ คันนี้จนสนิทชิดเชื้อกันแล้วให้พรรณณาออกมา คงบอกได้คำเดียวว่าถ้าคุณผู้อ่านต้องการทางเลือกในการตัดสินใจซื้อรถอเนกประสงค์ในงบประมาณ ล้านนิดๆ และสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบตาม Life Style ของครอบครัวรุ่นใหม่แล้วละก็ X-Trail คือทางเลือกที่น่าสนใจมากที่สุดรุ่นหนึ่ง แต่คุณก็ต้องยอมรับดีไซน์ในแบบกล่องสี่เหลี่ยมที่ดูเหมือนจะเป็นข้อด้อยที่ชัดเจนข้อเดียวของ X-Trail ที่มีอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะใช้หรืออยากจะโชว์!!


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ