เปิดตัว Lexus CT200h รถไฮบริดแฮทช์แบ็ครุ่นแรกของโลก ในราคาเริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท Share this
รถเปิดตัวใหม่
โหมดการอ่าน

เปิดตัว Lexus CT200h รถไฮบริดแฮทช์แบ็ครุ่นแรกของโลก ในราคาเริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท

Admin
โดย Admin
โพสต์เมื่อ 24 February 2554

มร.เคียว อิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย มร.โอซามุ ซาดาคาตะ หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และคุณวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวแนะนำ “เลกซัส CT200h” อย่างเป็นทางการ ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ ห้องบอลลูม โรงแรมเรเนซอง เพลินจิต

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิด ตัวยนตรกรรมหรูให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสกับ “ไฮบริดแฮทช์แบคคันแรกของโลก” เลกซัส CT200h ใหม่ รถขนาดคอมแพ็คท์ 5 ประตูรุ่นแรกของเลกซัส ด้วยระบบไฮบริดเต็มรูปแบบรุ่นแรกและรุ่นเดียวในเซ็กเม้นท์รถขนาดคอมแพ็คท์ระ ดับพรีเมี่ยม ด้วยการยึดหลักการออกแบบของคอนเซ็พท์คาร์ LF-Ch ทำให้รูปลักษณ์ของ CT 200h มีเส้นสายที่คม หนักแน่น และเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นจากคู่แข่งทั้งหมดในตลาด

พร้อมตอบรับกับทุกแบบฉบับในการขับขี่ ด้วยสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ Drive Mode Select ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณกลางคอนโซล ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ในแบบ Dynamic หรือ แบบ Relaxing โดยจะแสดงผ่านสีของไฟบนหน้าปัด

นอกจากนี้ เป็นครั้งแรกของเลกซัสที่ CT200h มาพร้อมกับระบบดูดซับแรงสั่นสะเทือนในแนวขวางทั้งด้านหน้าและหลัง เพื่อช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือน เพิ่มความสบายในการขับขี่ และให้การควบคุมที่มั่นใจยิ่งขึ้น

มร. เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าว ว่า “CT200h ออกแบบและสร้างสรรค์ตามปรัชญา “Yet Philosophy” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเลกซัส ซึ่ง หมายถึง การประสานแนวคิดที่แตกต่าง และไม่น่าเป็นไปได้ ให้เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบสะท้อนความหรูหรา ประกอบไปด้วยความรื่นรมย์ในการขับขี่ ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่น และเหนือกว่า ความภาคภูมิในความหรูหรา และ Design ที่โฉบเฉี่ยว ความก้าวล้ำด้านนวัตกรรม และความปลอดภัยระดับโลก เทคโนโลยีใหม่ทันสมัย รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับ First Class ความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กับ Technology การผลิต และระบบ Lexus Hybrid Drive ตามมาตรฐาน ระดับโลกของ Lexus”

คุณวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงกลยุทธ์ทางการตลาดของเลกซัส CT200h ใหม่นี้ว่า “CT200h นับเป็นอีกหนึ่งโมเดลจากเลกซัสที่ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Hybrid Technology รวมทั้งมีความสำคัญต่อแบรนด์เลกซัส โดยถือเป็นโมเดลเริ่มต้นในการช่วยเพิ่มลูกค้ากลุ่ม Young Generation และเติมความหนุ่มสาว (Youth) ให้กับแบรนด์ นับเป็นภาพลักษณ์ใหม่ของเลกซัส

นอกจากนี้ ด้วยหลักการสร้างสรรค์ที่มุ่งเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และพิถีพิถันในทุกรายละเอียดตามแบบฉบับของเลกซัส CT200h นับเป็นบรรทัดฐานใหม่ของยนตรกรรมระดับหรู เป็นความหรูหราที่เราให้คำนิยามว่า “Progressive Luxury” ” หรือความพึงพอใจและความภาคภูมิใจ ที่มาจากการเล็งเห็นคุณค่าของนวัตกรรม ความรับผิดชอบต่อสังคมและประสบการณ์อันทรงคุณค่า โดยลูกค้าเป้าหมาย คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เรียกว่า ‘Creative Generation’ ที่เป็นผู้รักความทันสมัย ใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ ชื่นชอบเทคโนโลยี แสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต และรับผิดชอบต่อสังคม

ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ CT200h ที่ผสานความแตกต่างของแนวคิดที่ต่างกันและไม่น่าจะเป็นไปได้เข้าไว้ด้วยกัน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงกำหนดนิยามการสื่อสารว่า “DEVILSH ANGEL” ซึ่งสื่อถึงการผสานกันอย่างลงตัวของแนวคิดสองด้านที่แตกต่างกัน โดยมีจุดเด่น 3 ประการคือ

สมรรถนะของ Lexus Hybrid Drive ที่มาพร้อมกับ การประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม

ความเร้าใจในการขับขี่ ที่มาพร้อมกับ ความนุ่มนวลตลอดการเดินทางโดดเด่นด้วยฟังก์ชั่น 2 โหมด ที่ตอบสนองสองอารมณ์แห่งการขับขี่

การออกแบบอันทันสมัย ที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายในการใช้งาน”

เลือกเป็นเจ้าของความหรูหรา สมบูรณ์แบบ...ของ เลกซัส CT200h ได้แล้ววันนี้

Luxury 2,190,000 บาท

F-SPORT 2,390,000 บาท

Premium พร้อม ระบบนำทางจราจรอัจฉริยะ 2,590,000 บาท

Premium พร้อม ระบบนำทางจราจรอัจฉริยะ และ มูนรูฟ 2,690,000 บาท

สามารถเลือกเป็นเจ้าของยนตรกรรมหรูไฮบริดแฮทช์แบคได้ 10 สี คือ White Pearl Crystal Shine, Dark Grey Mica, Silver Mica Metallic, Black, Black Opal Mica, Red Mica Crystal Shine, Blue Metallic, Silvery Blue Metallic และสีใหม่ 2 สี Fire Agate Mica Metallic กับ Flare Yellow Mica Metallic

สุดยอดยนตรกรรมไฮบริดแฮทช์แบคคันแรกของโลก

เลกซัส CT200h

ความรื่นรมย์ (Pleasure) ในการขับขี่ กับสมรรถนะที่โดดเด่นและเหนือกว่ากับ Lexus Hybrid Drive System ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง แบบ Atkinson Cycle ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมระบบหัวฉีดอีเลคทรอนิค (EFI) และระบบปรับองศาวาล์วแปรผัน VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) ที่ให้ทั้งสมรรถนะ และความประหยัด ประกอบกับความสามารถในการประสานเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร ที่ใช้ระบบวาล์วแปรผัน VVT-i กับมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลังส่งผลให้ระบบเครื่องยนต์เลกซัสไฮบริดไดร์ฟ (Lexus Hybrid Drive) ของรุ่น CT200h มีกำลังเสมือนเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แต่มีค่าคาร์บอนไดอ็อกไซด์ทางไอเสียต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกรูปแบบการตอบสนองต่อการขับขี่ได้สองแบบ คือ Dynamic และ Relaxing (2 moods 2 modes) โดยจะแสดงผ่านสีของไฟบนหน้าปัด -สีแดงและสีฟ้า- ผสานกับโหมดการขับเคลื่อนอีกสี่รูปแบบ ได้แก่ โหมดขับเคลื่อน Eco กับ Normal เน้นการขับขี่แบบอารมณ์ที่สบายผ่อนคลาย (Relaxing) ในขณะ ที่โหมด Sport จะเน้นไปที่การขับขี่แบบเร้าใจ (Dynamic) นอกจากนี้ในโหมด EV หรือการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวสามารถแล่นไปได้อย่างเงียบ กริบด้วยพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้การใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และการปล่อยไอเสียอย่างก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์(CO2) ก๊าซไนตรัสอ็อกไซด์(NOx) และเขม่ากลายเป็นศูนย์

ประสิทธิภาพเครื่องยนต์

กำลังเครื่องยนต์: 99/5,200 PS/rpm

แรงบิด: 142/2,800 – 4,400 Nm/rpm

มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง

เลกซัสได้พัฒนาหน่วยควบคุมกำลังไฟฟ้าขึ้นใหม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยม พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังส่งสูงที่สามารถแปลงกระแสไฟกำลังสูงจากหน่วยควบคุม กำลังไฟฟ้าไปเป็นพลังขับเคลื่อนรถยนต์ ระบบดังกล่าวให้สมรรถนะในการเร่งที่เงียบและทรงพลัง ทั้งในขณะออกตัวและให้การตอบสนองที่ดีเลิศแม้ในขณะเร่งเครื่องยนต์ด้วยความ เร็วในแบบที่ไม่อาจเป็นไปได้ หากใช้ระบบเครื่องยนต์เบนซินเพียงอย่างเดียว

ประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง

แรงเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 650V

กำลังสูงสุด 60 kw

แรงบิดสูงสุด 207 Nm

แรงม้าสูงสุด (ทั้งระบบ) 134 hp / 136 PS

อัตราเร่ง 0-100 km/h: 10.3 sec

ระบบส่งกำลังที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ

เลกซัสได้เลือกใช้ระบบส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่อง ซึ่งควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า (Electrically Controlled Continuously Variable Transmission) เพื่อให้ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังของเครื่องยนต์ไฮบริดได้อย่างลงตัวและให้ การขับขี่ที่นุ่มนวล ระบบส่งกำลังดังกล่าวประกอบไปด้วยอุปกรณ์ส่งถ่ายกำลังแบบ Split device มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังส่งสูง และเจเนอเรเตอร์

เพลิดเพลินไปกับการขับขี่ ด้วยสมรรถนะแห่งการขับเคลื่อน พร้อมคุณลักษณะพิเศษ ของระบบ ไฮบริด ด้วย 2 รูปแบบ 2 อารมณ์การขับขี่ (2 moods 2 modes) ไม่ว่าจะเป็นแบบสบายๆในโหมด Normal, Eco และ EV โดยที่ไฟส่องสว่างหน้าปัทม์จะแสดงเป็นสีฟ้า และการขับขี่แบบสนุกสนานในโหมด Sport โดยที่ไฟส่องสว่างหน้าปัทม์จะเปลี่ยนเป็นสีแดง รวมถึงการตอบสนองของระบบต่างๆ อาทิ VSC TRC ABS รวมถึง น้ำหนักพวงมาลัย เพื่อเพิ่มอารมณ์สปอร์ต และความสนุกสนานเร้าใจ

ความภาคภูมิ (Prestige) ในความหรูหรา และ Design ที่โฉบเฉี่ยว ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ L-finesse

การออกแบบภายนอก (Exterior)

ดีไซนอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Hybrid (Distinctive Styling for Hybrid) สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ “L-finesse” ผ่านเส้นสายของตัวถังที่ลื่น ไหลไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยค่าสัมประสิทธ์แรงเสียดทานต่ำ (Cd) เพียง 0.29 อีกทั้ง รูปทรงของโป่งล้อที่กว้างเพื่อรองรับกับซุ้มล้อ ทำให้รถดูต่ำแนบพื้น พร้อมฝากระโปรงหน้า และประตูท้ายทำจากอลูมิเนียม ทำให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วง (CG) ที่ต่ำ รับกับหลังคาที่เทลาด ให้ อารมณ์สปอร์ตรวมถึงการทรงตัวที่ดี

กระจังหน้ารูปลักษณ์ใหม่ แบบ ‘spindle-shaped’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก รูปแบบของลมที่ปะทะตัวรถในระหว่างที่รถวิ่ง สอดรับกับแนวเส้นสายของตัวถัง

กระจกด้านหลังมีเส้นสายดีไซน์แบบ ‘Slingshot’

ไฟหน้าแบบ LED ใหม่ พร้อมไฟ Daytime Running Lights และ ไฟหรี่แบบ LED รูปทรง L- shape

ไฟท้ายและไฟเบรกใหม่ แบบ LED ให้การส่องสว่างที่ชัดเจนในยามค่ำคืน ให้การตอบสนองที่ ฉับ ไว โดยใช้พลังงานที่ต่ำ พร้อมอายุการใช้งานที่ยาวนาน

การออกแบบภายใน (Interior)

ในส่วนของการออกแบบภายใน ด้วยการคำนึงถึงอรรถประโยชน์ใช้สอย และความสะดวกสบาย ภายใต้หลักการ HMI (Human-Machine Interface) โดยการแบ่งโซนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของการควบคุม และ การแสดงผล ด้วยการออกแบบดังกล่าว ทำให้ผู้ขับขี่ ไม่จำเป็นต้องละสายตาจากการมองเส้นทาง ทำให้เกิดความสะดวกสบาย และความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

ความก้าวล้ำด้านนวัตกรรม (Intelligence)

ทั้งระบบความปลอดภัยระดับโลก เทคโนโลยีอันทันสมัยเหนือคู่แข่ง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับ First Class EMV Remote Control Device : ด้วยชุดควบคุมบริเวณคอนโซลกลาง รูปทรงแบบเม๊าส์ คอมพิวเตอร์ ทำให้การควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆเป็นไปอย่างง่ายดาย โดยแสดงผลผ่าน หน้าจอแบบ Electro-Multi Vision (EMV) พร้อม ระบบแผนที่นำทาง

เบาะหน้าใหม่ ด้วยระบบปกป้องผู้โดยสารจากการชนด้านท้าย มาพร้อมกับหมอนรองศีรษะแบบ Passive Headrest ให้การปกป้องผู้โดยสาร เมื่อเกิดการชนจากด้านท้าย โครงด้านข้างของเบาะ จะยุบตัว ทำให้หมอนรองศรีษะ เคลื่อนเข้ารองรัศรีษะของผู้โดยสาร ช่วยลดการบาดเจ็บที่ บริเวณกระดูกต้นคอ

ระบบนำทางจากเลกซัส (Lexus Navigation System) ทำงานโดยแสดงแผนที่แบบ DVD และบอกเส้นทางด้วยระบบเสียง เพื่อการนำทางที่ถูกต้องและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถค้นหาเส้นทางและซูมตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นรายแรกในประเทศไทยสำหรับยนตรกรรมหรูทื่แสดงข้อมูลการจราจรใน เขตกรุงเทพมหานครแบบ Real-time โดยเชื่อมโยงข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อการวางแผนการเดินทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility)

ด้วยแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับเทคโนโลยีการผลิต และระบบ Lexus Hybrid Drive ด้วยเทคโนโลยีของ Lexus Hybrid Drive, CT200h จึงปล่อยค่าไอเสียออกสู่บรรยากาศต่ำที่สุดในระดับ World-class ตามมาตรฐาน Euro Step V ด้วยอัตราเฉลี่ยของ CO2 เพียง 94 กรัม/กม. และนอกจากนี้ยังมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำที่สุดในกลุ่มรถยนต์ นั่งระดับเดียวกัน โดยมีอัตราความสิ้นเปลืองเฉลี่ย ที่ 24.4 กม/ลิตร

เลกซัสได้ตั้งราคาจำหน่าย CT200h สำหรับ 4 รุ่นย่อยดังนี้

CT200h รุ่น Luxury ราคา 2,190,000 บาท

CT200h รุ่น F-SPORT ราคา 2,390,000 บาท

CT200h รุ่น Premium พร้อมระบบนำทางอัจฉริยะ ราคา 2,590,000 บาท

CT200h รุ่น Premium พร้อมระบบนำทางอัจฉริยะพร้อมหลังคามูนรูฟ ราคา 2,690,000 บาท

พร้อมแล้วสำหรับศูนย์บริการรถยนต์เลกซัสอย่างเป็นทางการ Lexus Exclusive Service Corner ณ โชว์รูมโตโยต้าจังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น และ อุบลราชธานี โดยผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่งได้แก่

บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด

58 ถ.ริมคลองแสนแสบ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320

โทรศัพท์ 0-2716-8999

บริษัท เลกซัส สุขุมวิท จำกัด

1/1 ถ.สุขุมวิท 18 คลองเตย กรุงเทพฯ 10110

โทรศัพท์ 02-260-8123

บริษัท เลกซัส ออโต้ ซิตี้ จำกัด

14/459 ม.4 ถ.รามอินทรา กม.2 อนุสาวรีย์ บางเขน กรุงเทพฯ 10220

โทรศัพท์ 0-2521-1111

Lexus CT200h F-Sport

ที่มา: Lexus


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ