รีวิว Chevrolet Cruze 1.8 LS A/T ใช้งานจริงกว่า 2 เดือนกับระยะทางมากกว่า 6,000 กิโลเมตร Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว Chevrolet Cruze 1.8 LS A/T ใช้งานจริงกว่า 2 เดือนกับระยะทางมากกว่า 6,000 กิโลเมตร

Admin
โดย Admin
โพสต์เมื่อ 14 March 2554

สิ่งที่ทีมงาน AutoSpinn คิดมานานและอยากให้เกิดขึ้นก็คือ การรีวิวรถโดยผู้ใช้งานจริงๆด้วยเหตุผลของการให้ข้อมูลแบบตรงไปตรงมา และมีการใช้งานเป็นระยะเวลานานพอที่จะตัดสินใจใส่ความคิดเห็นลงไปได้อย่างมั่นใจเพราะข้อมูลจากการใช้งานเป็นระยะเวลานานย่อมทำให้ได้ข้อมูลที่ต่างออกไปจากการรีวิวในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมง นอกจากนั้นแล้วโอกาสที่จะได้เห็นข้อบกพร่องในการผลิตก็ย่อมมีมากกว่ามาก รวมถึงการขับรถในสภาพถนนและสภาพอากาศต่างๆที่หลากหลายก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราเชื่อมั่นว่า การรีวิวในลักษณะนี้แตกต่างด้วยการให้มุมมองที่ให้ความมั่นใจกับผู้ที่สนใจว่า "รถรุ่นนั้นๆเหมาะสมกับเราในการใช้งานจริงในระยะยาวหรือไม่"

การเริ่มต้นในเรื่องนี้เป็นจริงขึ้นมาเมื่อเราได้พบการรีวิวแบบสั้นๆที่น่าสนใจที่ cruzethai.com เว็บไซต์พันธมิตรของเรา ซึ่งเป็นการรีวิว Chevrolet Cruze รถที่ได้รับการกล่าวขวัญมากที่สุดรุ่นหนึ่งเมื่อปลายปีที่แล้วจนมาถึงต้นปี 2011 โดยสมาชิกที่ใช้ username ว่า AKE หรือ ake9164 หรือรู้จักในภายหลังว่าคุณเอกสิทธิ์ เจ้าของ Chevrolet Cruze 1.8 LS A/T สีขาว ที่มีประสบการณ์ใช้ชีวิตหลังพวงมาลัยรถยนต์ในฐานะผู้ใช้งานมากว่า 15 ปี และรู้จักมักคุ้นกับรถจากค่าย Chevrolet มากเป็นพิเศษด้วยประสบการณ์ในการใช้ Chevrolet Optra มาก่อนและยังยืนยันที่จะใช้รถจากค่ายอเมริกันรายนี้ต่อไป เราจึงไม่ลังเลที่จะเชิญมารีวิวรถรุ่นนี้ให้เราได้อ่านแบบเต็มๆ จากประสบการณ์ตรงในการใช้งานจริง Cruze เกือบจะทุกวันในหนึ่งสัปดาห์ เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน ด้วยระยะทางวิ่งมากกว่า 6,000 กิโลเมตร คงทำให้ได้มุมมองที่แตกต่างจากที่คุณอาจจะเคยได้ทราบมาจากที่ใดมาก่อน และนั่นทำให้เรามั่นใจว่า การรีวิวโดยผู้ใช้งานจริงในระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควรจะเกิดประโยชน์มากที่สุดสำหรับสำหรับผู้ที่กำลังสนใจรถรุ่นนั้นอยู่ไม่มากก็มากกว่า!

* เนื่องจากรีวิวนี้มีภาพประกอบจำนวนมาก และเพื่อป้องกันปัญหาการทำงานของ web server ที่มากเกินไป เราจึงทำการแบ่งบทความนี้ออกเป็นหน้าๆรวม 7 หน้าด้วยกัน

Full Review Chevrolet CRUZE : Engineered to Respond

สวัสดีชาว Chevrolet Cruze และผู้อ่านทุกท่าน ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของ Chevrolet Cruze คันนี้...แต่จะว่าไปผมก็เป็นลูกค้าเชฟโรเลตมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ ใช้ Optra เวอร์ชั่น 2 ปี 2005 อยู่ หลังจากซื้อไม่นานก็ได้ข่าวเจ้า Cruze คันนี้แหละ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครคาดคิดว่า ทางเชฟโรเลตจะนำเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ด้วยความชอบส่วนตัวก็ติดตามข่าวมาตลอด ทีแรกมีข่าวจะเอามาเปิดตัวเมื่อปี 2008 แต่ก็เจอโรคเลื่อนมาตลอด จนกระทั่งเมื่อปี 2009 GM เปิดตัว Volt ตัวที่จะผลิตจริง ซึ่งหากสังเกตดูมันคือ Cruze ดีๆนี่เองขนาดในเวปต่างประเทศยังบอกไว้ว่า “Cruze is Volt without the Plug” ข่าว Volt นี่ก็ตามมานานพอดูเหมือนกัน ตอนนั้นใจจริงอยากได้ Volt มากกว่า ว่าจะรอ...แต่คาดว่าคงไม่มีทางที่ GM จะเอาเข้ามาทำตลาดในเร็ววันนี้แน่นอน....พอได้ข่าวยืนยันว่า Cruze มาแน่นอนปลายปี 2010 เลยไม่รอช้าบอกเซลเชฟโรเลตที่รู้จักกัน....” พี่ๆ จองให้คันนะเดี๋ยวเอาน้องออพฯมาเปลี่ยน”….เลยเป็นที่มาของรีวิวที่กำลังจะได้อ่านกัน....

ประวัติความเป็นมา

Cruze เป็น รถในกลุ่มธุรกิจของ General Motors (GM) ซึ่งเริ่มผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 โดยขยายออก 2 รุ่น ซึ่งไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน รุ่นแรก เป็นรถประเภท Subcompact crossover SUV ผลิตโดยสายการผลิตของ Suzuki ญี่ปุ่น (Suzuki เป็น Joint venture กับ GM / รหัส YGM1)

2

2

ส่วน ในรุ่นที่ 2 ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 เป็นต้นไป “Cruze” จะกลายเป็นรุ่นที่เป็น “Global Project” คือมีการ ออกแบบ ประกอบ และกระจาย ไปหลายๆแบรนด์ ทั่วธุรกิจของ GM (รหัส J300 เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในงาน Paris Auto Salon 2008 ) ตั้งเป้าเพื่อแทนที่ Chevrolet Cobalt และ Daewoo Lacetti โดยที่ทั้งสองรุ่นนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกันแต่อย่างไร

2

2

ในการประกอบ Cruze ทาง GM ได้มีการอัพเกรด สายการผลิตอย่างจริงจัง ที่โรงงาน Lordstown รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ลงทุนกว่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 11,200 ล้านบาท และยังมีโรงงานอื่นๆ เช่น ที่ Bupyeong-gu เมืองอินชอน ประเทศเกาหลี และ เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก รัสเซีย และ เชนยาง ประเทศจีน และ ฮาลอล ประเทศอินเดีย ส่วน โรงงาน Holden ในออสเตรเลีย จะทำรุ่น 5 ประตูในโรงงานที่เมืองอลิสซาเบท ในปี 2011 ซึ่ง ณ จุดนั้น ออสเตรเลียก็จะหยุดนำเข้ารถรุ่นนี้จากเกาหลีใต้ ในการเปิดตัวที่ โอไฮโอ คุณ Mark Reuss ประธานสายการผลิตบริษัท GM ส่วนอเมริกาเหนือ เรียกมันว่า “This is everything for us” ซึ่งถือเป็นรุ่นที่มี ความสำคัญมาก ในการเปิดตัวที่อเมริกา นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงในปี 2009 ของ GM และมีนัยสำคัญกับการที่ GM พยายามที่จะสร้าง รถขนาดเล็กสำหรับคนอเมริกาโดยมีเป้าหมายที่ว่าคนจะซื้อเพราะชื่นชอบมันไม่ใช่เพราะแค่มันถูก!

เส้นทางการพัฒนา

GM ได้กล่าวว่า Cruze เป็นการพัฒนาโดยใช้การออกแบบในระดับโกลบอล โดยที่งานออกแบบส่วนใหญ่จะทำที่บริษัท GM Daewoo โดยมีบริษัท Opel ดูแลรับผิดชอบงานด้านวิศวกรรม และใช้ค่าใช้จ่ายถึง 4000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 125,000 ล้านบาท มีตัวโปโตไทป์ถึง 221 โปรโตไทป์ ที่ใช้ทดสอบในประเทศ ออสเตรเลีย แคนนาดา จีน เกาหลีใต้ สวีเดน อังกฤษ และ อเมริกา Holden JG Cruze CD sedan (ออสเตรเลีย) ตัวถังของ Cruze กว่า 65% ทำจาก High-strength steel / กันสะเทือนหน้าแบบ MacPherson struts / กันสะเทือนหลังแบบ Torsion beam / พวงมาลัย Rack and pinion พร้อมไฮดรอลิคช่วยผ่อนแรง / เบรคแบบ Ventilated front, solid rear disc brakes ปกติเหมือนรถทั่วไป โดยใช้ piston steel calipers / ส่วนการยึดเครื่องยนต์เป็นแบบไฮโดรลิค 4 จุด เพื่อลด เสียงรบกวน และใช้วัสดุลดทอนเสียงเพิ่มในจุดสำคัญ นอกจากนี้ยังมีการดูซับเสียงโดยใช้ระบบซีล 3 ชั้นที่ประตูอีกด้วย ส่วนการเปิดตัวรุ่น 5 ประดู (Hatchback) เกิดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2010 ที่ปารีสมอเตอร์โชว์ และมีแถลงว่าตัว Hatchback จะใช้ในตลาดยุโรปในกลางปี 2011 โดยความต่างของรุ่น 4 และ 5 ประตูนี้ Holden ออสเตรเลียจะเป็นผู้ดูแล…….

2

อ่านประวัติกันพอสมควรแล้วมาดูรีวิวการใช้งานจริงกันดูบ้าง …หากใครติดตามในเวป Cruzethai.com คงได้อ่านรีวิวของผมกันไปบ้างแล้ว...คงไม่เขียนใหม่ทั้งหมดนะยังไงขอเอาของเก่ามาปนๆกันบ้าง ส่วนไหนที่มีเพิ่มเติมก็จะเขียนเพิ่มละกัน...

มิติตัวรถและการตกแต่ง

ภายนอก

กว้าง 1,790 มิลลิเมตร ยาว 4,600 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า-หลัง 2,685 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,545 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,560 มิลลิเมตร ( ความกว้างนั้นมากสุดในระดับ C-Segment ทั้งหมด ) รัศมีวงเลี้ยว 5.32 เมตร ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร กระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยมแบบ 2 ชิ้น พร้อมด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่รูปหกเหลี่ยม ไฟหน้าแบบชิ้นเดียวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่มุมของไฟหน้าถูกดึงออกไปเป็นมุมแหลมลากยาวโค้งไปกับซุ้มล้อหน้า การเน้นเส้นด้านข้างประตูทำให้เกิดมิติความลึก ช่วยเสริมให้ประตูและภาพรวมของรถดูใหญ่ขึ้น เสาหลังคาด้านหลังลู่ลงเน้นให้รถดูมีความสปอร์ต แต่ต้องแลกมาด้วยพื้นที่เหนือศีรษะด้านหลังที่ลดลง

2

2

2

ไฟท้ายแบบแยกส่วน 2 ชิ้น กันชนท้ายขนาดใหญ่พร้อมเซ็นเซอร์ถอยจอด (ในรุ่น 1.8 LT ขึ้นไป) รถมาพร้อมกับล้อแม็กซ์ขนาด 16 นิ้ว (ในรุ่น 1.6 LS ถึง 1.8 LT) และ ล้อแม็กซ์ขนาด 17 นิ้ว (ในรุ่น 1.8 LTZ ถึง 2.0 LTZ)

ภายใน

จุดเด่นของ Cruze ก็คือการตกแต่งภายในที่ดูแปลกตาแต่ดูดีที่สุดในตอนนี้ ตั้งแต่รุ่น1.6 LS ถึง 1.8 LT จะตกแต่งภายในด้วยผ้าหุ้มที่มีการตัดเย็บอย่างดี เข้ารูป หลากสีสันขึ้นอยู่กับรุ่นนั้นๆ ตัดกับคอนโซลกลางสีเทา-ดำ ตกแต่งด้วยขอบ Metallic สีเงิน ส่วนในรุ่น 1.8 LTZ และ 2.0 LTZ จะตกแต่งภายในด้วยหนังแท้และหนังเทียม สีส้ม-ดำ ตัดกับคอนโซลกลางสีดำเปียโน ตกแต่งด้วยขอบ Metallic สีเงินแบบ Fluid print ให้ความรู้สึกหรูหรา

2

2

ด้านหน้า

เบาะหน้าโอบกระชับดีมากไม่มีหลุดจากเบาะแม้ขณะเข้าโค้งแบบหนักๆ แต่บริเวณที่วางเท้าของผู้โดยสารและคนขับจะดูอึดอัดไปหน่อยเพราะว่าคอนโซลหน้าที่ยื่นออกมาค่อนข้างมาก ตามสไตล์รถอเมริกันปัจจุบัน แต่ถือว่ายังกว้างขวางและนั่งสบายไม่เมื่อยหลัง

2

ด้านหลัง

ช่องวางเหนือศีรษะน้อยไปนิดสำหรับคนตัวสูงๆ เนื่องจากมีการกดหลังคาด้านหลังให้ลาดลงเพื่อให้ตัวรถดูสปอร์ตขึ้น แต่ก็ไม่ได้อึดอัดมาก เบาะนั่งสบาย มีที่วางแก้วน้ำมาให้ และ เบาะพับได้ 60 : 40

2

ที่เก็บของสัมภาระท้ายขนาด 400 ลิตร ลึกมากๆ สามารถเพิ่มพื้นที่ได้โดยพับเบาะลงไป ข้างใต้เป็นยางอะไหล่

2

ระบบควบคุมและไฟต่างๆ

พวงมาลัยทรง 3 ก้าน แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฮโดรลิก หุ้มหนัง พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียงและระบบ Cruise Control (ในรุ่น1.8 LT ถึง 2.0 LTZ ) ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง หน้าปัทม์เรืองแสงสีฟ้าสบายตาแบบ 3 วง มีมาตรบอกความเร็ว มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ อุณหภูมิน้ำ ระดับน้ำมันเชื้องเพลิง ไฟเตือนต่างๆ พร้อมจอแสดงผล DIC (Driver Information Center) บอกสถานะของเครื่องยนต์ ตำแหน่งเกียร์ อัตราสิ้นเปลือง (เฉลี่ยและReal time) ความเร็วเฉลี่ย และ Trip Odometer

2

ปุ่มเปิดไฟหน้าและไฟตัดหมอกย้ายไปอยู่ใต้คอนโซลหน้าด้านขวา เป็นแบบหมุนเปิด-ปิดและไฟตัดหมอกหน้าและหลังเป็นแบบกด การใช้งานแรกๆอาจรู้สึกว่าไม่สะดวกแต่เมื่อคุ้นมือแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรในรุ่น1.8 LT ถึง 2.0 LTZ มาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ด้านข้างใกล้ๆกันเป็นปุ่มปรับระดับไฟเรืองแสงภายในรถ

2

ด้านซ้าย หลังพวงมาลัยเป็นที่อยู่ของก้านเปิด-ปิดที่ปัดน้ำฝนแบบตั้งหน่วงเวลา ในรุ่น1.8 LT ถึง 2.0 LTZ มาพร้อมระบบเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติโดยมีเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำฝนอยู่บริเวณกล่องสีดำหลังกระจกมองหลัง

2

ด้านขวาเป็นก้านเปิดไฟเลี้ยว ไฟสูง และยังใช้ในการควบคุมหน้าจอ DIC เพื่อเปิดดูข้อมูลต่างๆ โดยใช้ปุ่ม scroll ขึ้น-ลง ในการเลื่อนเปลี่ยนหน้าและปุ่ม SET/CLR ในการรีเซ็ทค่าต่างๆ ส่วนปุ่ม Menu มีไว้สำหรับเปลี่ยนหน้าจอสลับไปมาระหว่างหน้าข้อมูลการขับขี่และหน้า เมนูสำหรับเซ็ทหน่วยการแสดงผล (ปุ่ม MENU จะถูกล็อคขณะรถเคลื่อนที่)

2

ช่องเก็บของมีมาให้ใช้พอสมควรโดยจัดวางอยู่ด้านบนเหนือคอนโซลหน้า ที่เก็บของด้านผู้โดยสาร ที่เก็บของใต้พวงมาลัย ที่วางแก้วคอนโซลกลาง กล่องเก็บของคอนโซลกลางพร้อมช่องต่ออุปกรณ์ภายนอก (AUX+USB เดี๋ยวจะพูดถึงต่อไป) ที่เก็บของที่ประตูทั้ง 4 บาน ซึ่งสามารถวางขวดน้ำขนาดกลางได้ 1 ขวด และยังมีอีกหลายจุดจัดวางตามที่ต่างๆ

2

กระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน เลื่อนลงแบบ One Touch เฉพาะด้านหน้า จะเป็นแบบ One Touch ทั้งเลื่อนขึ้นและเลื่อนลง สิ่งที่ชอบก็คือกระจกประตูด้านหลังสามารถเลื่อนลงได้สุดทั้งบาน และ มีปุ่มล็อคป้องกันการเปิดกระจกเฉพาะประตูหลังด้วย เพื่อป้องกันกรณีมีเด็กนั่งหลัง กระจกมองข้างเป็นแบบปรับและพับไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า ตำแหน่งของที่ปรับกระจกมองข้างอยู่ที่เดียวกับกระจกไฟฟ้าทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องละสายตาจากถนนเวลาใช้งาน

2

สิ่งอำนวยความสะดวก

ระบบเพื่อความบันเทิงในรถ

- Chevrolet Cruze มาพร้อมกับเครื่องเสียงแบบ Built-in โหลดหน้า รองรับ CD Audio / MP3 / WMA ลำโพง 6 ตัว ที่ประตู บานละ 1 ตัว และ ที่ เสาคู่หน้า ข้างละ 1 ตัว

- มี Presets EQ ให้เลือกได้ตามชอบ หรือ จะปรับแบบ Manual ก็ทำได้เช่นกัน

- Aux 3.5 มม. ต่อเข้ากับเครื่องเล่น MP3/MP4 ได้โดยตรง

- USB Port สามารถเชื่อมต่อกับ Flash drive และ iPod ได้ (iPhone 3Gs ก็ใช้ได้...ยังไม่ได้ลองกับ iPhone4 แต่ก็น่าจะได้)

- สำหรับการใช้งาน Flash Drive ให้ Format เป็น FAT32 จากนั้นสร้าง Folder เพลง แล้วลากเพลงใส่ได้เลยไม่จำเป็นต้องวางไว้นอก Folder เหมือนบ้างรุ่น แต่เครื่องเล่นไม่รองรับภาษาไทย (อ่านไม่ออก เป็นตัวยึกยือ) หลังจากเสียบ Flash Drive เข้าไปแล้วต้องใช้เวลาสัก 30 วินาที - 1 นาที เพื่อให้ระบบทำการ Indexing เพลงเข้าระบบ (ขณะ Indexing สามารถฟังเพลงได้แต่ไม่สามารถใช้ function เลือกเพลงได้ ต้องรอให้จบกระบวนการก่อน)

- iPod / iPhone Control ทดลองต่อกับ iPod Touch OS 3.12 สามารถควบคุมและเล่นเพลง บน iPod ได้ 100% โดยไม่ต้องทำอะไรที่เครื่อง iPod เลย (...ทำไม่ได้เพราะว่าโดนระบบล็อคหน้าจอ iPod ไว้หมด)

- A2DP Bluetooth สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องเล่น MP3 หรือโทรศัพท์ ที่มีโหมด A2DP โดยเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเพลงของ Cruze ทาง GMusicConnect ส่งเพลงจากเครื่องเล่นเพลง ไปยังเครื่องเสียงในรถโดย ผ่านทาง Bluetooth

-ที่ในหน้าจอ Graphic Information Display จะแสดงค่าต่างๆเช่น มุมซ้ายจะเป็นนาฬิกา มุมขวาจะเป็นอุณหภูมิภายนอก ตรงกลางจอใหญ่จะแสดงชื่อเพลง / รายละเอียดของเพลง และ สถานะการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก นอกจากนี้ยังใช้ในการตั้งค่าการทำงานของระบบต่างๆของรถอีกด้วย การใช้งานไม่ยุ่งยากทำได้ตามคู่มือที่ให้มา

2

2

2

2

ระบบปรับอากาศ

มี 2 แบบคือ Manual และ Auto โดยใช้จอร่วมกับระบบเครื่องเสียง ซึ่งจะแสดงสถานะต่างๆของระบบปรับอากาศ เช่น ความแรงพัดลม อุณหภูมิที่ตั้งไว้ (ในรุ่นที่เป็น Auto) ตำแหน่งที่ช่องลมเปิดอยู่ และอุณหภูมิภายนอก ตำแหน่งปุ่มควบคุมแอร์จะอยู่หลังเกียร์พอดี หากเข้า “ P ” จะบดบังเกือบหมดทำให้กดใช้งานได้ยาก (แม้ไม่ได้เข้า “ P “ ก็ยังโดยหัวเกียร์บังในบางจังหวะที่เอื้อมไปใช้งาน) ปุ่มแอร์ขอบโครเมียมทำได้สวยงามตามยุคสมัย ระบบแอร์เย็นเร็วไม่ต้องรอนานแต่ดูเหมือนอุณหภูมิไม่ค่อยจะคงที่เท่าไหร่ (ของผม เป็นระบบแอร์ Manual......ในระบบแอร์ Auto น่าจะคุมได้ดีกว่านี้)

2

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

Cruze ที่เปิดตัวในประเทศไทย มาด้วยกัน 3 รุ่น คือ 1.6 , 1.8 เบนซิน และ 2.0 ดีเซล เทอร์โบ แต่ในต่างประเทศจะมีรุ่น 1.4 L เบนซิน เทอร์โบที่มาในชื่อ Cruze ECO อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน 18-20 กม/ลิตร น้องๆ รถ Hybrid กันเลยทีเดียว

ในเครื่อง 1600 cc. นั้นจะเข้ามาทำตลาดแทน Optra 1.6 โดยใช้เครื่องเดิมทั้งหมด spec เดียวกับ Optra 1.6 และ Aveo 1.6 ตัวปัจจุบัน เป็นแบบ บล็อก 4 สูบ DOHC 16V VGiS แต่ก็มีการปรับรายละเอียดในบางจุด

ส่วนเครื่อง 2000 cc. Diesel ก็ยกมาจาก Captiva ทั้งชุด spec เดียวกันไม่มีผิดเพี้ยน แบบบล็อก 4 สูบ SOHC 16V VCDi แต่ก็มีข่าวว่าปลายปี 2011 จะมีการเปิดตัว เครื่องดีเซลใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อ Cruze โดยเฉพาะ

ตัวชูโรงหลักของ Cruze คือเครื่อง 1800 cc. ที่มีการออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อเพิ่มการตอบสนองอัตราเร่ง มีความทนทานมากขึ้น และการบริโภคน้ำมันที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเป็น ECOTEC บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,796 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 80.5 x 88.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด Multi Point Injection ควบคุมด้วยสมองกลอีเล็กโทรนิคส์พร้อมระบบแปรผันวาล์วที่หัวแคมชาฟต์ Double CVC (Continuous Variable Cam Phasing) หรือคล้ายๆกับวาวล์แปรผันคู่ (Dual VVT-i) นั่นเอง

2

ระบบส่งกำลังแบบ Manual มีใน 2 รุ่น คือ 1.6 LS Base และ 1.8 LS M/T ส่วนระบบส่งกำลังแบบ Automatic เป็นเกียร์ Hydra-Matic 6 Speed Automatic overdrive with torque converter clutch จาก GM มาในรหัส GM 6T40 / 45 ซึ่งใช้อยู่ใน Chevrolet Malibu และ Saturn Aura 2009 สามารถรองรับเครื่องยนต์ได้ตั้งแต่ 1.4 L ไปจนถึง 2.5 L มาพร้อมกับระบบ Driver Shift Control (DSC) สามารถกดคันโยก + / - เพื่อเปลี่ยนเกียร์ได้แบบ Manual ในเครื่อง 2.0 ดีเซล จะเป็น รหัส 6T45 ทั่วไปหลักๆแล้วเหมือนกันกับ 6T40 (เครื่อง 1.6 และ1.8 L) ต่างกันที่ 6T45 จะใช้ชิ้นส่วนบางชิ้นที่มีความทนทานมากกว่าเนื่องจากต้องรองรับแรงบิดจากเครื่องยนต์ที่สูงถึง 320 N-m และสามารถใช้ได้กับระบบขับเคลื่อนแบบ All-wheel Drive (AWD) แต่ 6T40 ใช้ได้กับระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น (FWD)

2

2

ระบบความปลอดภัย

Cruze ติดตั้งอุปกรณ์ ความปลอดภัยทั้งเชิง ป้องกัน (Active Safety) และเชิงปกป้อง (Passive Safety) มาให้ค่อนข้างครบครันเมื่อเทียบกับราคาของแต่ละรุ่น ถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับใบเดียว มีให้ตั้งแต่รุ่น 1.6 LS A/T ถึง 1.8 LS A/T แต่ไม่มีให้ในรุ่น 1.6 LS Base (ถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ ควรมีมาให้แล้วเป็นอย่างต่ำนะ...??) ในรุ่น 1.8 LT ขึ้นไป ถุงลมนิรภัยจะมีทั้งฝั่งคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า และถ้าเป็นรุ่น 1.8 LTZ กับ 2.0 LTZ จะมีถุงลมนิรภัยด้านข้างมาให้อีก 2 ใบ รวมเป็น 4 ใบ รุ่นที่ขายอยู่ในต่างประเทศที่มีความเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยจะติดตั้งม่านนิรภัยด้านข้างและถุงลมที่เบาะหลังมาด้วย นับรวมๆแล้วมีถุงลมนิรภัย 10 ลูก!!!....มากกว่าบ้านเราเป็นเท่าตัว

สำหรับระบบห้ามล้อ เป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ คู่หน้ามีรูระบายความร้อน และมีระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD มีกุญแจรีโมท พร้อมระบบ Immobilizer มาให้เป็นมาตรฐานจากโรงงานทุกคัน ตั้งแต่รุ่น 1.6 LS Base ส่วนระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP (Electronic Stability Program) รวมทั้งระบบป้องกันการออกตัวล้อหมุนฟรี TCS (Traction Control System) มีใน 1.8 และ 2.0 ทุกรุ่น

ระบบช่วงล่าง

กันสะเทือนหน้า เป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัต ช็อกอัพแก็ส มีเหล็กกันโคลง ด้านหลัง เป็นแบบ ทอร์ชันบีม ช็อกอัพแก็ส ไม่มีเหล็กกันโคลง ขณะเข้าโค้งแบบหนักๆ จะรู้สึกได้ถึงการทำงานของระบบกันสะเทือนเพื่อช่วยควบคุมไม่ให้รถหลุดโค้งและเมื่อเหยียบคันเร่งเพิ่มเข้าไปในโค้งจะมีอาการของรถขับล้อหน้าคือมีอาการหน้าดื้อ แต่หากเลี้ยงเท้าขวาดีๆก็จะเป็นรถที่อยู่ในโค้งดีที่สุดระดับต้นๆ

2

2

Front Suspension

2

Rear Suspension

รีวิวการใช้งานจริง

บทความครั้งนี้เป็นการรีวิวใหม่หลังจากที่เคยทำไปแล้วในเวป Cruzrthai.com ตอนนั้นยังเป็นช่วง Run-in อยู่ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง ตอนนี้ผ่านมาแล้ว เกือบ 2 เดือน กับระยะทางกว่า 6,000 กิโลเมตร ..........มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า.........

- คันที่ทดสอบเป็นของผมเอง Cruze 1.8 LS A/T White ออกรถเมื่อ 27 ธค. 53 ศูนย์เชฟโรเลต รัตนาธิเบศร์

- เป็นการขับใช้งานจริงในชีวิตประจำวันระยะทางเฉลี่ยประมาณ 80-100 กม. / วัน

- ณ วันที่กำลังเขียนอยู่นี้ ระยะทางวิ่งไปแล้วกว่า 6,000 กิโลเมตร

- เส้นทาง วงแหวนกาญจนาภิเษก-ทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์-ถนนปู่เจ้าฯ(สุขุมวิท-สมุทรปราการ)-ทางด่วนขั้นที่1-ถนนปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ-ถนนราชพฤกษ์-ถนนปทุมฯ 345

- ความเร็วตามสภาพการจราจร แต่ไม่เกิน 120 กม/ชม.

- น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ Gasohol 91 และ Gasohol 95 (มันดันเติม E20 ไม่ได้อ่ะนะ...)

2

2

กุญแจรีโมททรงมีดพับใช้ ล็อค-ปลดล็อค และ เปิดกระโปรงท้าย ลูกกุญแจแปลกตา ทรงสี่เหลี่ยมแบบ Laser Cut Key (รุ่น 1.8 LT ถึง 2.0 LTZ ใช้ระบบ PUSH Start และ Keyless Entry )

การควบคุมรถ

ด้วยพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฮโดรลิก การควบคุมบังคับเลี้ยวทำได้แม่นยำ และมีความหนืดกำลังดี ไม่เบาวิวเหมือนพวกพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ที่ขยับทีแทบจะหัวทิ่มตาม.....แต่ก็ไม่หนักจนเกินไป ระยะฟรีของพวงมาลัยแบบนี้ถือว่าปกติไม่มากไป ไม่น้อยไป การตอบสนองในช่วงวิ่งที่ความเร็วต่ำๆทำได้ดี แม้แต่การควบคุมเมื่อเข้าโค้งหรือหักพวงมาลัยเพื่อแซง / หลบหลีก การตอบสนองก็ทำได้แม่นยำ สามารถจัดอยู่ในอันดับต้นๆของกลุ่มได้เลย จากที่เคยลองขับแบรนด์อื่นๆ ผมว่า พวงมาลัยของ Cruze ทำได้ดีกว่า ทั้งในเรื่องน้ำหนักและความคล่องตัว ระบบเบรคก็หยุดได้มั่นใจ ลองมากับตัวเองเหยียบเบรคหัวทิ่มเลย...555

ทัศนะวิสัยในห้องโดยสาร

ทัศนะวิสัยด้านหน้าชัดเจนแต่หากปรับเบาะต่ำมากจะถูกคอนโซลหน้าบังไปเยอะอาจทำให้กะระยะไม่ถูกสำหรับคนที่ยังไม่เคยชิน ตำแหน่งของพวงมาลัยแม้ว่าจะปรับได้ 4 ทิศทาง (สูง-ต่ำ-ใกล้-ไกล) ก็ตาม แต่ยังมีอาการบดบังหน้าปัทม์อยู่ในบางมุมต้องปรับตำแหน่งดีๆ

2

2

ทัศนะวิสัยด้านซ้าย-ขวามีการบังจากเสาคู่หน้าเล็กน้อยจากการที่เสายื่นไปข้างหน้ามากแต่ด้วยความที่ไม่หนามากจึงช่วยลดการบดบังไปได้ระดับหนึ่ง กระจกมองข้างขนาดใหญ่ช่วยในการมองเห็นชัดเจนแต่ตัวกรอบของกระจกจะบดบังมุมด้านนอกหากปรับหันออกมากเกินไป (ติดกระจกเล็กที่มุมช่วยแก้เรื่องจุดบอดไปได้บ้าง)

2

2

ทัศนะวิสัยด้านหลังมีอาการบดบังจากเสาคู่หลังที่หนาและเมื่อเจอพนักพิงศรีษะเบาะหลังที่ใหญ่และปรับลงไม่ได้ก็ยิ่งทำให้มีการบดบังไปพอสมควร นอกจากนี้ยังมีปัญหากับพนักพิงด้านผู้โดยสารหน้าเช่นกัน ด้วยความใหญ่ของมันทำให้บังตำแหน่งกระจกของประตูด้านซ้ายหลังแทบทั้งหมดแม้มองในกระจกมองหลังแบบโค้งก็ยังมองเห็นไม่หมดอยู่ดี หรือแม้ว่าจะหันไปมองเองก็ยังโดนพนักพิงบังอยู่ดี (กระจกมองหลังเดิมๆที่มากับรถก็เล็กซะไม่ช่วยอะไรเลย...) ซึ่งหากกำลังกลับรถและโผล่ออกมาอยู่ครึ่งคันจะมองไม่เห็นรถที่วิ่งมาจากด้านซ้ายหลังเลย จนกว่าจะเห็นรถจากกระจกมองข้างหรือกระจกมองหลัง........

2

2

สมรรถนะ / อัตราเร่งและอัตราการสิ้นเปลือง

ด้วยความที่ใช้งานทางด่วนทุกวันและเส้นทางส่วนใหญ่วิ่งรอบนอกกรุงเทพฯเลยได้ทดลองกับน้ำมันทั้ง gasohol 91 และ gasohol 95 แต่ผมไม่มีเครื่องประมวลผลและเก็บข้อมูล ใช้แค่นาฬิกาจับเวลา ทำให้ค่าที่ออกมาคงไม่ถูกต้อง 100 % ยังไงก็รอนักทดสอบรถมืออาชีพมาให้ข้อมูลจริงๆอีกทีดีกว่า ผลที่ได้ของผมตามตารางข้างล่าง

ครั้งที่ น้ำมันเชื้อเพลิง       กม/ชม.          วินาที

1 Gasohol                      95 0-100        11.8

2 Gasohol                      91 0-100        12.1

3 Gasohol                      91 0-100        12.1

4 Gasohol 91 0-100 12.3

อัตราเร่งช่วงต้นไหลลื่นดีแต่พอเลย 100 กม/ชม. ไปแล้ว อัตราเร่งกลับแผ่วลง ไม่รู้เป็นเพราะ gasohol หรือเปล่า (เหอะๆ โทษ gasohol ซะงั้น...555 ) การ Kick Down เครื่องยนต์และเกียร์ก็มีการทำงานประสานกันดี ได้รอบและความเร็วทันใจในการเร่งแซง การทำงานของเกียร์ยังไม่ค่อยนิ่มเท่าไหร่ ยังรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละช่วง การทดลองใช้ระบบ DSC โดยดันคันโยกเกียร์ไปตำแหน่ง + / - เพื่อทำการเปลี่ยนเกียร์เอง พบว่าทันทีที่มีการ shift + หรือ shift – เกียร์ก็มีการตอบสนองที่ค่อนข้างเร็ว ได้อรรถรสในการขับขี่สนุกไปอีกแบบ (ในโหมดนี้ทุกครั้งที่หยุดรถไม่ว่าจะอยู่ที่เกียร์ไหน ระบบจะทำการทดเกียร์ลงมาที่ “ 1 ” เสมอ)

ความเร็ว(กม./ชม.)       รอบเครื่อง(รอบ/นาที) (ที่ความเร็วคงที่)

80                                   1,500

90                                   1,700

100                                1,900

110                                 2,100

120                                2,300

การทดสอบอัตราการสิ้นเปลืองจะใช้วิธีขับจนน้ำมันหมดถังต่อถัง ไม่เลือกปั้มเติมเพราะชีวิตจริงเจอที่ไหนก็คงต้องเติมดังนั้นเพื่อให้ใกล้เคียงที่สุดต้องเติมได้ทุกปั้ม เติมเต็มถังเอาแค่ตัดจากนั้นกดเพิ่มเล็กน้อยเพื่อให้ตัวเลขค่าน้ำมันลงตัวที่ “00“ ขี้เกียจต้องมานับเศษเงินทอนเวลารีบๆ และเปรียบเทียบระหว่างคำนวณจากรถกับคำนวณเอง ผลที่ได้ตามตาราง

ครั้งที่     ระยะทาง(กม.)     น้ำมันที่ใช้              ลิตร        กม./ลิตร(จากรถ)     กม./ลิตร (คำนวณ)

1             597                     Gasohol 95      46.689          13.6                             12.79

2            590                      Gasohol 91       47.055         13.3                             12.54

3            612                      Gasohol 91        48.573         13.4                             12.60

4            602                     Gasohol 91        49.490         12.9                              12.16

2

ภาพนี้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบนจอแสดงอยู่ที่ 13.9 กม/ลิตร เป็นถังล่าสุดที่เติม gasohol 95 ก่อนจะมาเขียนรีวิวนี้.......อัตราการกินน้ำมันของแต่ละคันอาจไม่เท่ากันแม้ว่าจะเป็นเครื่องและรุ่นเดียวกัน เนื่องจากปัจจัยหลายอย่างเช่น สภาพการจราจร , ลักษณะการขับรถ , เชื้อเพลิงที่ใช้ , แรงดันลมยาง ฯลฯ ขนาดเป็นรถคันเดียวกันคนขับคนเดิมขับแต่ละครั้งยังไม่เท่ากันเลย......

บทสรุป

1. รูปลักษณ์ภายนอก

เป็นรถที่มีความดึงดูดสายตาดีมากคันหนึ่ง ใครเห็นแล้วไม่ชายตามองก็แปลกหล่ะ รูปร่างออกแบบได้อย่างลงตัวทั้งส่วนเว้าส่วนโค้ง ถ้าเป็นผู้หญิงต้องบอกว่า Sexy มากกกกกก....!!! ถ้าดูเป็นส่วนๆจะเห็นว่าเป็นการดึงเอาจุดเด่นของรถหลายๆยี่ห้อมารวมกันไว้เป็น Cruze ทำให้มองบางมุมเหมือนยี่ห้อโน่น ยี่ห้อนี้ ก็ดีน่ะที่เอามารวมๆกันแล้วดูดีได้ขนาดนี้ ถือว่าทีมออกแบบทำการบ้านมาดีจริงๆ

2. รูปลักษณ์ภายใน

การจัดวางอุปกรณ์ต่างทำได้ดี เอื้อมมือไปใช้งานได้สะดวกพอสมควร ยกเว้นตำแหน่งปุ่มแอร์ที่อยู่ต่ำและติดกับคันเกียร์มากไปหน่อย คอนโซลหน้าที่จัดวางเชื่อมต่อลงมากับคอนโซลกลางดูดีมาก ระบบไฟเรืองแสงดูสบายตาโดยเฉพาะเวลากลางคืนไฟสีฟ้าอ่อนๆดูสวยงาม วัสดุหุ้มที่เป็นผ้ามีการตัดเย็บที่มีคุณภาพแต่เนื้อผ้าสากและเก็บฝุ่นมากไปนิด ฟองน้ำหนาและแฃ็งไปหน่อย พนักพิงศีรษะหนาและใหญ่เกินไปโดยเฉพาะของด้านผู้โดยสารตอนหน้ามันบดบังการมองเห็นด้านซ้ายหลังจนเกือบมิดเลย เบาะสีส้ม-ดำในรุ่นท็อปผมว่า..เออ....ขอให้มีสีอื่นด้วยได้ไหม??? เพราะว่าบางคันสีภายนอกกับเบาะสีส้ม-ดำ ดูไม่เข้ากันเลย.....แต่โดยภาพรวมแล้วภายในก็ยังดูดีที่สุดในรถกลุ่มเดียวกันตอนนี้

3. สมรรถนะ

การทรงตัวในทางตรงนิ่งมากๆแม้จะขับเร็วก็ยังไม่มีอาการส่ายให้เห็น การเข้าโค้งมั่นใจได้เกาะโค้งดีแม้จะมีอาการหน้าดื้อให้เห็นเล็กน้อยตามสไตล์ขับหน้า เครื่องดีเซล 2.0 L จัดจ้านประห


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ