ในที่สุดก็ถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของซุปเปอร์คาร์ที่มีคนจับตามากที่สุดในช่วงต้นปีนี้ นั่นคือ Lamborghini Aventador LP700-4 ที่เป็นตัวตายตัวแทนของซุปเปอร์คาร์ที่กำลังจะกลายเป็นตำนานอย่าง Murcielago ด้วยรูปโฉมภายนอกที่ได้รับอิทธิพลมาจากรุ่น Reventón ผสมผสานกับ Sesto Elemento ก้าวข้ามความแรงในระดับ 600 แรงม้าด้วยตัวเลขกำลังแรงม้าใหม่ที่ได้กลายเป็นชื่อรุ่นคือ 700 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อรุ่น LP700-4
และใช่ว่า Murcielago จะไม่มีอะไรทิ้งไว้ต่างหน้าเลย เพราะ Aventador รุ่นนี้ยังสืบทอดมรดกของรุ่นพี่ด้วยการใช้ระบบไอดีอิเล็กทรอนิกส์ที่ถือว่าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติเอาไว้ ขุมพลังของ Aventador LP700-4 เป็นเครื่องยนต์ V12 ขนาดความจุกระบอกสูบ 6.5 ลิตร รุ่นใหม่แบบ All-New ผลิตกำลังแรงม้าได้สูงสุดที่ 700 แรงม้า(515 กิโลวัตต์) ที่ความเร็วรอบ 8,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 690 นิวตันเมตร(509 ปอนด์ฟุต)ที่ 5,500 รอบ/นาที ขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลัง Independent Shifting Rod (ISR) 7 สปีดที่มาพร้อม Dual Synchronizers ซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดย Graziano Trasmissioni Group โดยใช้เวลาในการเปลี่ยนเกียร์เพียง 50 มิลลิวินาที นอกจากนั้นยังมีน้ำหนักเบาและตอบสนองได้ทันใจกว่าระบบ Double Clutch ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน แถมยังมีขนาดที่กระทัดรัดมากกว่ากล่องเกียร์ธรรมดาด้วยเช่นกัน ระบบขับเคลื่อนที่ใช้เป็นแบบ Full-Time Electronic AWD ของ Haldex ที่มาพร้อม Rear Differential แบบ Self-Locking และ Front Differential แบบ ESP Controlled ซึ่งการตอบสนองของระบบขับเคลื่อนจะขึ้นอยู่กับโหมดในการขับขี่ที่เลือกใช้คือ Strada, Sport หรือ Corsa ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงของ Aventador อยู่ที่ 2.9 วินาที ก่อนที่จะทำความเร็วแตะระดับสูงสุดที่ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ที่ช่วงล่างของ Aventador เราจะพบระบบกันสะเทือน Pushrod ที่ใช้กับรถแข่ง F1 และวิชโบนอลูมิเนียม ส่วนระบบเบรคเป็นแบบคาร์บอนเซรามิคที่สามารถรองรับการหยุดรถในระดับความเร็วระดับ 320 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้สบายๆ
ภายในห้องโดยสารมีการใช้สีทูโทนและวัสดุอัลคันทาร่าในการตกแต่ง นอกจากผู้ขับขี่จะได้รับการปกป้องจากโครงสร้างตัวถัง Monocoque แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อทำด้วยโพลีเมอร์เสริมคาร์บอนไฟเบอร์แล้ว (จึงไม่น่าแปลกในที่น้ำหนักรถโดยรวมอยู่ที่ 1,575 กิโลกรัม) ยังมีถุงลมนิรภัยในส่วนด้านหน้า ศีรษะ และหัวเข่าเพื่อความปลอดภัยสูงสุด สิ่งที่เหมือนกับ Reventón อีกอย่างหนึ่งก็คือ จอแสดงผล/ข้อมูลแบบ TFT-LCD
ความโดดเด่นภายนอกอีกอย่างหนึ่งของซุปเปอร์คาร์รุ่นนี้ก็คือ การใช้ทำสีตัวถังเป็นสีส้มมุก Arancio Argos ซึ่งเป็นหนึ่งในสีที่มีให้เลือกตามรสนิยมของลูกค้า
การส่งมอบ Lamborghini Aventador LP700-4 ล็อตแรกจะเริ่มขึ้นในปลายฤดูร้อนปี 2011 นี้ ในราคาจำหน่ายในแต่ละประเทศซึ่งเป็นราคาที่รวมภาษีภายในประเทศเรียบร้อยแล้วดังนี้
สหราชอาณาจักร 201,900 ปอนด์
ยุโรป 255,000 ยูโร
สหรัฐอเมริกา 379,700 เหรียญสหรัฐฯ
จีน 6,270,000 หยวน
ญี่ปุ่น 39,690,000 เยน
ที่มา: Lamborghini
LINE
ความคิดเห็น