เปิดตัว เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ อีกระดับของรถอเนกประสงค์อันทรงพลัง
• รูปลักษณ์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต
• ขุมพลังเฟล็กซ์ฟิวรองรับเชื้อเพลิง E85 เหนือชั้นด้วยด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
• เหนือกว่าคู่แข่งด้วยระบบเบรกมือไฟฟ้า และระบบช่วยการขับขี่ขณะขึ้น-ลงทางชัน
• ราคาเริ่มต้นที่ 1,198,000 ถึง 1,580,000 บาท
• เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ครั้งแรกของเชฟโรเลต “มอส-เกม” ตัวแทนของครอบครัวคนรุ่นใหม่
กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต เปิดตัว แคปติวา รถอเนกประสงค์เอสยูวีใหม่ล่าสุด มาพร้อมดีไซน์ทรงพลังที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลตทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซินพ่วงระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง ประหยัดเหนือกว่าด้วยการรองรับเชื้อเพลิง E85 เต็มที่ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันยิ่งกว่าเดิม พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คู่แรกของเชฟโรเลต คุณมอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ และ คุณเกม-ดวงพร ลือกิตินันท์ ตัวแทนครอบครัวคนรุ่นใหม่ ร่วมถ่ายทอดความเหนือกว่าของทุกสไตล์การใช้ชีวิต
มร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายการขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ได้รับการพัฒนารูปลักษณ์ สมรรถนะ และเทคโนโลยีต่างๆ ให้ก้าวล้ำไปอีกระดับ เพื่อให้เป็นที่สุดแห่งรถอเนกประสงค์สำหรับการตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่
“ที่ผ่านมา เชฟโรเลต แคปติวา ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวีในประเทศไทย เพราะเพียบพร้อมด้วยความอเนกประสงค์ ความหรูหรา และรูปลักษณ์ที่สวยงาม เราจึงเชื่อมั่นว่า การเปิดตัว เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ นี้จะยังคงคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมไว้เช่นเดิม แต่เพิ่มพละกำลัง เติมความดุดัน และเสริมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเข้าไป จะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น” มร.ซาร่า กล่าว
นอกจากนี้ เชฟโรเลตได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คู่รัก ครอบครัวคนรุ่นใหม่ “มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ และ คุณเกม-ดวงพร ลือกิตินันท์” เพื่อเป็นตัวแทนในการนำเสนอ บอกเล่าเรื่องราวของสมรรถนะ อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำ และความสะดวกสบายอันครบครันของ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ให้กลุ่มเป้าหมายได้สัมผัสถึงความเหนือกว่าของการใช้ชีวิตได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัยและสะดุดตายิ่งขึ้น กระจังหน้าสองชั้น (ดูอัลพอร์ท) เอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต พร้อมแผงกันชนหน้า และฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ เพิ่มภาพลักษณ์ดุดันด้วยโคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์เปิด-ปิดอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 17 18 และ 19 นิ้ว สำหรับห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่เช่นกัน ตกแต่งด้วยเมทัลลิก และการใช้วัสดุสีโทนสว่างเพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งและทันสมัย เบาะที่นั่งหุ้มหนังตัดเย็บอย่างประณีตรองรับผู้โดยสาร 5 หรือ 7 ที่นั่งพร้อมระบบปรับอากาศบริเวณที่นั่งแถวที่ 3 โดยเมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ราบลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร เมื่อปรับเบาะแถวที่ 2 ลงทั้งหมดจะเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้อย่างอเนกประสงค์ถึง 930 ลิตร รองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ได้รับการติดตั้งระบบเบรกมือไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรถระดับนี้ซึ่งไม่เพียงเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ยังเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระบริเวณคอนโซลกลางด้วย พร้อมติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วและระบบนำทางเนวิเกเตอร์ มาตรวัดเรืองแสงดีไซน์ใหม่ ระบบเครื่องเสียงแบบสามมิติ (3 Dimensional Sound Staging) พวงมาลัย 4 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็ว เครื่องเสียง และระบบปรับอากาศได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ครั้งแรกในรถระดับนี้
สำหรับเครื่องยนต์ของ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ทรงพลังยิ่งขึ้นกับขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร DOHC พร้อมระบบ Double CVC หรือแคมชาฟท์แปรผันคู่ต่อเนื่อง ให้พละกำลังสูงสุด 168 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 229 นิวตัน-เมตรที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Driver Shift Control (DSC) ให้ผู้ขับขี่ปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดา พร้อมมีสวิทช์ปรับสู่โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECO) ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ตอบสนองต่อการใช้งานทั้งในเมือง และทางไกล รวมถึงการท่องเที่ยวในเชิงออฟโรดได้อย่างเต็มที่
ขุมพลังของเชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ยืดหยุ่นด้วยการรองรับเชื้อเพลิงเฟล็กซ์ฟิว E85 ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้น้ำมันได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซินทั่วไป หรือ น้ำมันเบนซินผสมเอทานอล อาทิ E10 ไปจนถึง E20 และ E85 ซึ่งมีเอทานอลผสมอยู่ถึง 85% และใช้น้ำมันเบนซินเพียงแค่ 15% เท่านั้น ถือเป็นรถอเนกประสงค์รุ่นแรกที่ใช้เชื้อเพลิงเฟล็กซ์ฟิว E85 โดยปัจจุบันน้ำมันเชื้อเพลิง E85 มีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินทั่วไปราว 15 บาท (ณ วันที่ 22 มิถุนายน) ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังลดการพึ่งพาน้ำมันเบนซิน และลดปริมาณมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
“เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ เป็นรถอเนกประสงค์ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง พร้อมกับรองรับกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์ และอีกหลากหลายกิจกรรมในทุกไลฟ์สไตล์ในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะเดียวกันยังให้ความหรูหราสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในทุกการเดินทางอีกด้วย เรามั่นใจว่าด้วยคุณสมบัติอันเพียบพร้อมนี้ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ จะประสบความสำเร็จเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม” มร.ซาร่า กล่าว
ระบบกันสะเทือนของ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ เป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัทที่ด้านหน้า และใช้ระบบช่วงล่างอิสระยึด 4 จุด มัลติ-ลิงค์ที่ด้านหลัง ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ โดยมีระบบขับเคลื่อนให้เลือก คือ 2 ล้อ และ 4 ล้อ (All Wheel Drive) ควบคุมด้วยอิเลกทรอนิคส์ซึ่งจะกระจายแรงขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่อย่างสมดุล
ระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมเพิ่มม่านถุงลมนิรภัยบริเวณด้านข้างของห้องโดยสารป้องกันศีรษะของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารในกรณีเกิดการชนด้านข้าง ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อแบบมีครีบระบายความร้อนที่เบรกคู่หน้า พร้อมระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบเสริมแรงเบรกแบบไฮโดรลิก (HBA) และระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ (EBD) นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) รวมถึงระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP) ระบบช่วงล่างยกตัวอัตโนมัติ (Self-Levelizer) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control) และอ็อปชั่นพิเศษสำหรับ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ คือ ระบบควบคุมป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (Hill Start Assist) ช่วยป้องกันรถไหลลงทางลาดชันในขณะออกตัว
สีสันตัวถังภายนอกมีให้เลือก 5 สีคือ สีขาว Alpine White สีดำ Black Sapphire สีเทา Royal Gray และสีเงิน Sterling Silver พร้อมกับมีสีสุดพิเศษสำหรับแคปติวาใหม่โดยเฉพาะ คือสีน้ำตาล Auburn Brown ในราคาเริ่มต้นที่ 1,198,000 บาท จนถึง 1,580,000 บาท
การออกแบบภายนอก : ทรงพลัง มาดมั่น สะท้อนเอกลักษณ์ความหรูหราอย่างลงดัว
แนวคิดหลักในการออกแบบภายนอกของเชฟโรเลต แคปติวา รุ่นใหม่ มุ่งเน้นให้คงความโดดเด่นในแบบรถอเนกประสงค์เหนือระดับไว้เช่นเดิม แต่เพิ่มความล้ำสมัยและความทรงพลังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าสองชั้น “ดูอัลพอร์ท” ขนาดใหญ่ พร้อมกรอบโครเมียมหรู สะท้อนเอกลักษณ์ใหม่ของเชฟโรเลต คาดกลางด้วยโลโก้โบว์ไทสีทองซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้น และใช้วัสดุพิเศษที่เพิ่มมิติบนพื้นผิวโลโก้เพื่อดึงดูดทุกสายตา กรอบไฟหน้าดีไซน์ใหม่เน้นความดุดันอยู่คู่กับไฟโปรเจคเตอร์ สะดุดทุกสายตาทั้งกลางวันและยามค่ำคืน
ฝากระโปรงและกันชนหน้าได้รับการออกแบบใหม่ให้มีเส้นสายลื่นไหลในทุกมุมมอง โดดเด่นด้วยช่องรับอากาศและไฟตัดหมอกรูปทรงใหม่ ที่ฝังตัวอยู่บริเวณด้านข้างของกันชนหน้า เติมความบึกบึนด้วยแผ่นกันกระแทกสีบรอนซ์ใต้กันชนหน้าซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในแคปติวา ใหม่ทุกรุ่น ขณะที่ด้านท้ายรถ ติดตั้ง สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม ส่วนบริเวณกันชนได้รับการติดตั้งแผ่นกันกระแทก รับกับปลายท่อไอเสียคู่โครเมียมแบบสปอร์ต
แม้จะเป็นรถอเนกประสงค์ แต่แคปติวาได้รับการดีไซน์ให้มีภาพลักษณ์โฉบเฉี่ยว หลังคาถูกออกแบบให้โค้งมน ทำให้แคปติวา มีกลิ่นอายสปอร์ตแบบรถคูเป้ ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มรายละเอียดความหรูหราอย่างวัสดุโครเมียมบริเวณกระจกบังลมข้าง ก้านเปิดประตูสีเงิน กระจกข้างพร้อมไฟเลี้ยว และรางอเนกประสงค์บนหลังคา
ซุ้มล้อของแคปติวาใหม่ ปรับแต่งให้ดูสมบุกสมบันมากขึ้น รองรับกับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ถึง 19 นิ้วในรุ่น LTZ พร้อมยาง 235/50 R19 ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วในรุ่น LT พร้อมยาง 235/55 R18 และขนาด 17 นิ้วในรุ่น LSX และ LS พร้อมยาง 235/60R17 สำหรับสีสันตัวถังของแคปติวา ใหม่ มี 5 สีให้เลือกใช้ตามบุคลิกของผู้ขับขี่ ได้แก่ สีขาว Alpine White สีดำ Black Sapphire สีเทา Royal Gray และสีเงิน Sterling Silver พร้อมกับมีสีสุดพิเศษสำหรับแคปติวาใหม่โดยเฉพาะ คือสีน้ำตาล Auburn Brown
การออกแบบภายใน : หรูหรา สะดวกสบายในทุกสัมผัส รองรับการใช้งานอเนกประสงค์
ภายในห้องโดยสารของแคปติวา ใหม่ ผสมผสานความอเนกประสงค์ และความสะดวกสบายหรูหราในแบบรถซีดานระดับพรีเมียม เน้นความลื่นไหลของคอนโซลไปถึงแผงประตูข้างของห้องโดยสารตอนหน้า พร้อมกับใช้วัสดุสีโทนสว่างอย่างเมทัลลิก ที่ไม่เพียงเพิ่มมิติความหรูหรา หากยังทำให้ห้องโดยสารดูโล่งโปร่ง เบาะที่นั่งหุ้มหนังอย่างประณีต เบาะที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เพิ่มความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง
แผงคอนโซลหน้าได้รับการออกแบบเน้นความทันสมัยยิ่งขึ้น หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ดูหนังฟังเพลง ตลอดจนบอกข้อมูลการขับขี่ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น LTZ ด้านล่างของจอได้รับติดตั้งสวิทช์ต่างๆ และนาฬิกาบอกเวลาทรงกลม ร่องเกียร์ถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นเน้นความบึกบึน พวงมาลัย 4 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่นซึ่งผู้ขับขี่สามารถควบคุมระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติ ระบบเครื่องเสียง และระบบปรับอากาศ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของรถระดับนี้
ขณะเดียวกัน แคปติวา ใหม่ ยังล้ำสมัยด้วยการติดตั้งเบรกมือไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในรถอเนกประสงค์ระดับเดียวกัน นอกจากใช้งานง่ายกว่าเบรกมือแบบเดิมแล้ว ยังเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระบริเวณคอนโซลกลางอีกด้วย ในยามค่ำคืนแผงคอนโซลให้แสงสีฟ้าอ่อน (Ice Blue) เช่นเดียวกับมาตรวัดรอบและความเร็วดีไซน์ใหม่แบบเรืองแสง ตื่นตาตื่นใจตลอดเส้นทาง
นอกจากความหรูหราทันสมัยแล้ว แคปติวา ใหม่ ยังเสริมความลงตัวในการปรับรูปแบบการใช้งานตามความต้องการ ด้วยความกว้างขวางสะดวกสบายจากเบาะโดยสาร 5 หรือ 7 ที่นั่ง พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ราบลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร เมื่อปรับเบาะแถวที่ 2 ลงทั้งหมดจะเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้อย่างอเนกประสงค์ถึง 930 ลิตร รองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
แคปติวา ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบ Infotainment เพียบพร้อมด้วยการแสดงข้อมูลของตัวรถ และความบันเทิงซึ่งได้รับการติดตั้งระบบเครื่องเสียงสามมิติ (3 Dimensional Sound Staging) ที่ผ่านการคำนวณอย่างละเอียด เพื่อเลี่ยงข้อจำกัดของขนาดห้องโดยสารรถ โดยเน้นให้เสียงโอบล้อมผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างมีมิติ คมชัด และสมจริง ผ่านลำโพง 8 ตัวในรุ่น LTZ และ LT โดยสามารถเชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธ พอร์ทยูเอสบี และ เอยูเอ็กซ์
ไม่เพียงแต่ระบบเสียงในห้องโดยสาร ยังมีการพัฒนาระบบป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกอีกด้วย โดยมีการติดตั้งระบบป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกเพิ่มเติม ลดเสียงต่างๆ ทั้งจากพื้นถนน เสียงลม หรือเสียงเครื่องยนต์ เพื่อสุนทรียะของผู้โดยสารในทุกที่นั่ง
เครื่องยนต์ : ตอบสนองทุกรอบความเร็ว ประหยัดมากขึ้นด้วยเชื้อเพลิง E85
เชฟโรเลต เปลี่ยนหัวใจขับเคลื่อนใหม่ให้ แคปติวา เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 2.4 ลิตร DOHC พร้อมระบบ Double CVC หรือแคมชาฟท์แปรผันคู่ต่อเนื่อง ที่สามารถปรับเปลี่ยนท่อไอดีและไอเสียได้ตามรอบเครื่องยนต์ เพิ่มสมรรถนะและความประหยัดได้เป็นอย่างดี ให้พละกำลังสูงสุด 168 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 229 นิวตัน-เมตรที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Driver Shift Control (DSC) ให้ผู้ขับขี่ปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดา
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบในแคปติวารุ่นใหม่นี้ มาพร้อมกับระบบเชื้อเพลิงแบบเฟล็กซ์ฟิว E85 ช่วยประหยัดพลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันเบนซิน ขานรับกับวิกฤตการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบัน ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้น้ำมันได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซินทั่วไป หรือน้ำมันเบนซินผสมเอทานอล ที่เรียกกันเป็นตัวเลข อาทิ E10 เป็น ไปจนถึง E20 และ E85 ซึ่งมีเอทานอลผสมอยู่ถึง 85% และใช้น้ำมันเบนซินเพียงแค่ 15% เท่านั้น แคปติวา ใหม่ ถือเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้เชื้อเพลิงเฟล็กซ์ฟิว E85 ในรถระดับนี้ นอกจากนี้ แคปติวา ใหม่ ยังมีสวิทช์ปรับสู่โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECO) ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อีกทางหนึ่งด้วย
เครื่องยนต์รุ่นนี้ยังผ่านการทดสอบอย่างหนักตามมาตรฐานของเจนเนอรัล มอเตอร์ส และเชฟโรเลต ที่เรียกว่า Global Engine Durability TEST (GED) โดยถูกติดตั้งอยู่ในรถแคปติวา แล้ววิ่งทดสอบในสภาพอากาศและสภาพถนนที่แตกต่างกันทั่วโลก ตั้งแต่ร้อนจัดจนถึงหนาวจัด เพื่อให้แน่ใจว่า แคปติวาที่ใช้ขุมพลังขับเคลื่อนใหม่นี้จะสามารถรองรับกับการใช้งานทุกรูปแบบเท่าที่จะเกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้
ระบบกันสะเทือน และความปลอดภัย : มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง
ระบบกันสะเทือนของ เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นใหม่ เป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท ที่ด้านหน้า และใช้ระบบช่วงล่างอิสระมัลติลิงค์ยึด 4 จุดที่ด้านหลัง ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ทั้งเหล็กกันโคลงที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ปรับตั้งช็อกอัพและสปริงใหม่ รวมถึงการติดตั้งลิงค์ไฮโดรลิกที่ช่วงล่างด้านหลังเพื่อลดแรงสั่นสะเทือน ให้การยึดเกาะถนนอย่างปลอดภัย และนุ่มนวล เสริมความโดดเด่นให้เหนือชั้นกว่ารถเอนกประสงค์รุ่นใด ๆ
แคปติวา ใหม่ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครัน ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมเพิ่มม่านถุงลมนิรภัยบริเวณด้านข้างรถเพื่อป้องกันศีรษะของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารในกรณีเกิดการชนด้านข้าง ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อแบบมีครีบระบายความร้อนที่เบรกคู่หน้า พร้อมระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบเสริมแรงเบรกแบบไฮโดรลิก (HBA) และระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ (EBD) นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) รวมถึงระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP)
ระบบขับเคลื่อนของแคปติวา ใหม่ มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา (All-Wheel Drive) พร้อมระบบเสริมแรงบิดอัจฉริยะ (Active Torque On Demand) ช่วยเสริมพละกำลังให้แก่ระบบขับเคลื่อนแบบ AWD จากการทำงานของคลัตช์แม่เหล็กไฟฟ้ากับคลัตช์แบบเปียกซึ่งจะทำหน้าที่ส่งกำลังสู่ระบบเฟืองท้ายแบบไฟฟ้าเพื่อกระจายแรงบิดที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับเพลาล้อคู่หน้าและคู่หลัง ทั้งนี้เพื่อสร้างสมดุลและเสริมกำลังให้แก่สภาพการขับที่ที่แตกต่างกันออกไป
เทคโนโลยีที่เหนือกว่า : ในแบบ เอสยูวี ทรงพลัง
ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (Hill Start Assist) ช่วยป้องกันรถไหลจากการเบรครถชั่วขณะในระหว่างขับขึ้นทางชัน 1-2 วินาที เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนแป้นเท้าจากการเบรคไปยังแป้นคันเร่งได้อย่างมั่นใจ โดยรถปราศจากการลื่นไหล
ระบบช่วงล่างยกตัวอัตโนมัติ (Self-Levelizer) ที่จะช่วยปรับระดับของช่วงล่างให้อยู่ในระนาบเดียวกัน เช่น เมื่อมีการบรรทุกสัมภาระที่ด้านท้ายรถ น้ำหนักที่ถ่วงท้ายก็จะทำให้หน้ารถเชิดขึ้น แต่ด้วยกลไกอัตโนมัติของ Self-Levelizer จะปรับระดับของช่วงล่างด้านหลังให้ยกสูงขึ้น เพื่อให้ระดับของด้านหน้ารถกับด้านหลังอยู่ในแนวขนานกับพื้นถนนเท่ากัน ซึ่งทำให้ไม่เกิดอาการหน้าเชิด ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย มากยิ่งขึ้น
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงที่ลาดชัน (Hill Descent Control) ช่วยควบคุมความเร็วของรถให้ลงทางลาดชันได้อย่างปลอดภัย เพียงกดปุ่ม HDC บนคอนโซล ระบบจะควบคุมความเร็วให้เหมาะสม โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเหยียบเบรก ตัวรถจะไหลลงทางลาดชันด้วยความเร็วคงที่
เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ จะเปิดตัวสู่สาธารณชนที่ลานพาร์ค พารากอน ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 29 – 31 กรกฎาคมนี้
ราคา Chevrolet Captiva รุ่นปี 2012
Captiva 2.4L AT LSX 1,282,000 บาท
Captiva 2.4L AT LT 1,507,000 บาท
Captiva 2.4L AT LTZ 1,580,000 บาท
Chevrolet Roadside Assistance Service 24 Hrs.
บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง
ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
โทร. 1734
* ภาพประกอบมีทั้งหมด 171 ภาพ เริ่มจากภาพท้ายสุด โดยสามารถกดปุ่ม previous เพื่อชมภาพไปเรื่อยๆจนครบ 171 หรือดูภาพรวมได้จาก link ชื่อ file ที่แสดงอยู่ด้านบนของแต่ละภาพ (ภาพด้านล่างจะแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างเพียง 80 ภาพเท่านั้น)
* ชมภาพถ่าย Chevrolet Captiva ตัวจริงพร้อมบรรยากาศอีก 88 ภาพ ในการเปิดตัวได้ที่นี่ Chevrolet Captiva 2012
ความคิดเห็น