รายละเอียดพร้อมราคา BMW 3-Series F30 โฉมปี 2012 เจนเนอเรชั่นที่ 6 ทุกรุ่นเครื่องยนต์ เริ่มที่ 35,350 ยูโร เตรียมวางจำหน่าย
BMW 3-Series F30 โฉมปี 2012
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ BMW 3-Series รหัสตังถัง F30 รุ่นปี 2012 ซึ่งถือว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 แล้วนับตั้งแต่มีการเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1975 ด้วยยอดขายรวมกว่า 12 ล้านคันทั่วโลก โดย BMW เตรียมวางจำหน่าย All-New BMW 3-Series F30 โฉมปี 2012 รุ่นนี้ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 2012 หรือต้นปีหน้าก่อนวันวาเลนไทน์ 3 วัน
Norbert Reithofer CEO ของ BMW เผยว่า 3-Series โฉมใหม่นี้เป็นรถทีมีความสปอร์ตมากที่่สุดในเซกเมนท์และให้ความสุนทรีย์ในการขับขี่ที่ระดับสูงสุด มิติตัวถังของคอมแพคท์ซีดานนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน คือ ยาวขึ้น 93 มิลลิเมตร ในขณะที่ฐานล้อก็ยาวขึ้นอีก 50 มิลลิเมตรเป็น 2,810 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 37 มิลลิเมตร
โดยมีระยะห่างระหว่างล้อคู่หลังมากขึ้น 47 มิลลิเมตร เป็นการปิดจุดด้อยที่มีต่อคู่แข่งในเรื่องพื้นที่ของที่นั่งด้านหลัง 3-Series รุ่นนี้มีพื้นที่ช่วงขายาวขึ้น 15 มิลลิเมตร ในขณะที่พื้นที่เหนือศีรษะก็มากขึ้น 8 มิลลิเมตรสำหรับเบาะนั่งด้านหลัง และถึงแม้ว่า มิติตัวถังจะใหญ่ขึ้น แต่ด้วยการลดน้ำหนักในจุดต่างๆ ทำให้รถรุ่นนี้กลับมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 40 กิโลกรัม(ขึ้นอยู่กับรุ่นที่่เลือกซื้อด้วยเช่นกัน)
ในช่วงแรกของการจำหน่าย รถรุ่นที่ขายดีที่สุดของ BMW รุ่นนี้ จะมาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ TwinPower ใน 2 รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และ 2 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ขับเคลื่อนผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด(ถือว่าเป็นครั้งแรกของรุ่นที่มีการใช้เกียร์ชนิดนี้)
รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินได้แก่ รุ่น 328i และ 335i ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมระบบประหยัดน้ำมัน EfficientDynamics โดยรุ่น 328i จะถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร Direct Injection ติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์ Twin-Scroll รวมถึงระบบ double-Vanos variable camshaft timing และ Valvetronic variable valve timing
สามารถผลิตกำลังได้สูงสุด 240 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,250-4,800 รอบ/นาที ช่วยทำให้ 3-Series สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 5.9 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.4 ลิตร/100 กิโลเมตร สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ 6.3 ลิตร/100 สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ หรือประหยัดขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 11%
สำหรับรุ่น 335i จะมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ 6 สูบ แถวเรียง ขนาด 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,200-5,000 รอบ/นาที มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.5 วินาที และเช่นเดียวกับรุ่น 328i ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ระหว่าง 7.2-7.9 ลิตร/100 กิโลเมตร
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 320d ขนาด 184 แรงม้า มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีอัตราสิ้นเปลืองฯที่ 4.5 ลิตร/100 กิโลเมตร และปล่อยไอเสียในอัตรา 118 กรัม/กิโลเมตร ส่วนรุ่น 320d EfficientDynamics ขนาด 163 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ใน 8.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองฯคือ 4.1 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 109 กรัม/กิโลเมตร
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2012 ทาง BMW จะเพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ทางเลือกอีก 3 รุ่นด้วยกันคือ 1 รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และ 2 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซินคือ รุ่น 320i ใช้ขุมพลังทวินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ขนาด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลได้แก่ รุ่น 316d ขนาด 116 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร และรุ่น 318d ขนาด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร
ยังไม่พอ หลังจากนั้นจะมีการเพิ่มเครื่องยนต์ทางเลือกเข้ามาอีก เช่น เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ และรุ่น xDrive AWD ซึ่งต่อมาในฤดูใบไม้ร่วง BMW จะเปิดตัวรุ่น ActiveHybrid 3 ซึ่งใช้ระบบไฮบริดเดียวกันกับที่ใช้ในรุ่น ActiveHybrid 5
สำหรับ 3-Series เวอร์ชั่น Full Hybrid จะใช้เครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร 306 แรงม้า ที่ทำงานร่วมกับมอเตอรไฟฟ้าขนาด 40 กิโลวัตต์/54 แรงม้า ที่ถูกรวมเข้ากับระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 8 สปีด ทำให้ได้กำลังรวมสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัวเมตร ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.4 ลิตร/100 กิโลเมตร
นอกจากนั้นแล้ว All-New 3-Series ยังมีระบบ Driving Experience Control ที่มีโหมดการขับแบบ Eco Pro นอกเหนือจากโหมดการขับพื้นฐานทั้ง 3 โหมดที่มีอยู่แล้วคือ Comfort, Sport และ Sport+ ซึ่งโหมด Eco pro จะช่วยลดอัตราการบริโภคน้ำมันได้ถึง 20% เลยทีเดียว
ช่วงล่างของซีดานรุ่นนี้ประกอบด้วยเพลาหน้าแบบ double-joint ที่มาพร้อมสตรัทส์และวิชโบนอลูมิเนียมซึ่งช่วยลดน้ำหนักลงไปได้พอสมควร ในขณะที่ด้านหลังเป็นแบบ Multi-Link นอกจากนั้นยังมีระบบ electromechanical แบบใหม่ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ และประหยัดน้ำมัน
การตกแต่งใน 3 แบบ
และถือว่าเป็นครั้งแรกของ BMW 3-Series ที่มีการตกแต่งใน 3 แบบคือ Sport Line, Modern Line และ Luxury Line ตามที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนั้นยังสามารถเลือกชุดแต่ง M Sport ที่มีการโหลดเตี้ย 10 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนมีความแข็งมากขึ้น แอนตี้โรลล์บาร์แข็งขึ้น ชุดล้ออัลลอยเป็นขอบ 18 หรือ 19 นิ้วให้เลือก ชุดท่อไอเสียโครเมี่ยม สีตัวถังแบบพิเศษ และการตกแต่งภายในแบบสปอร์ต
ไม่จบจบเท่านั้นเพราะ BMW ยังมีอ็อปชั่นให้เลือกอีกมากมายเข่น ระบบกันสะเทือน Adaptive M Sport จอแสดงผลแบบ Head-Up ระบบ ConnectedDrive infotainment ระบบ Active Cruise Control ที่มาพร้อมระบบ Stop & Go ระบบช่วยจอด ระบบข้อมูลการจราจรแบบ real time และระบบแจ้งเตือนการเปลี่ยนช่องการจราจร
BMW ได้ใช้เงินลงทุนไปมากกว่า 1,000 ล้านยูโรสำหรับการผลิต 3-Series รุ่นนี้ โดยจะมีการผลิตที่โรงงานในเมืองมิวนิคและเมือรีเจนส์เบิร์ก ประเทศเยอรมันนี รวมถึงโรงงานในเมืองรอสลีน ประเทศแอฟริกาใต้
สำหรับราคาจำหน่ายของ BMW 3-Series F30 ในประเทศเยอรมันนีจะเริ่มที่ 35,350 ยูโรสำหรับรุ่น 320d ไปจนถึง 43,500 ยูโรสำหรับรุ่น 335i
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น