ด้วยการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก รวมถึงค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆก็สูงจนอาจจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ทางออกหนึ่งในมุมมองของ BMW ก็คือ การเปลี่ยนคู่แข่งมาเป็นมิตร ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ของค่ายรถจากเมืองมิวนิครายนี้ เพราะย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน BMW ก็เคยจับมือกับกลุ่มยานยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยุโรปอย่าง PSA Peugeot Citroen มาแล้ว ล่าสุดก็เพิ่งบรรลุข้อตกลงกับ Toyota ในการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีดีเซลกับเทคโนโลยีไฮบริด
ที่ล่าสุดกว่านั้นแต่ยังไม่สุดทางหรือได้ข้อสรุปก็คือ การเข้าเจรจากับบริษัทรถยนต์อันดับ 1 ของโลกรายล่าสุดอย่าง General Motors ในการร่วมพัฒนาเทคโนโลยี Fuel Cell ที่ GM ได้ทุ่มทรัพยากรมหาศาลในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคตชนิดนี้ ซึ่งจากการเปิดเผยของโฆษก BMW ยังเป็นการเจรจาแบบกว้างๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีในอนาคตที่บริษัทฯเองยังไม่ยอมยืนยันในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยี Fuel Cell กับ GM ในขณะที่ GM เองก็ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีสื่อมวลชนในเยอรมันนีรายงานว่า BMW มีเป้าประสงค์หลักที่จะร่วมมือกับ GM ในการวิจัยและพัฒนา Fuel Cell ที่จะช่วยให้บริษัทฯลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล
LINE
ความคิดเห็น