Ford เปิดตัว All-New Fusion (หรือใช้ชื่อนอกตลาดอเมริกาว่า Modeo) ซีดานกลางทางเลือกอีกหนึ่งรุ่นนอกเหนือไปจากผู้นำตลาดอย่าง Toyota Camry และ Honda Accord การเปิดตัวในครั้งนี้เป็นอะไรที่นอกเหนือความคาดหมายของหลายฝ่ายเพราะ Ford ได้ให้ทางเลือกกับกลุ่มเป้าหมายด้วยระบบขับเคลื่อนทั้งแบบเบนซิน ไฮบริด และ ปลั๊กอินไฮบริด โดยว่ากันว่าในแต่เวอร์ชั่นจะให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีกว่ารถในระดับเดียวกัน นอกจากนั้นยังมีระบบ start/stop อัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อน All-Wheel Drive โดยมีทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้เลือก
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ Ecoboost 1.6 ลิตร Direct Injection พร้อมระบบ start/stop อัตโนมัติ จะให้อัตราสิ้นเปลืองฯเฉลี่ยที่ 31.5 ไมล์/แกลลอน และถือว่าเป็นครั้งแรกของ Ford ที่มีทางเลือกเป็นเกียร์อัตโนมัติที่มาพร้อมระบบ start/stop อัตโนมัติ ในขณะที่เครื่องยนต์ Ecoboost 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 237 แรงม้า
สำหรับ Fuson Hybrid ชุดแบตเตอรี่จะถูกเปลี่ยนจากแบบนิเกิ้ลเมทัลไฮไดรด์ไปเป็นแบบลิเธี่ยมไอออน ซึ่งนอกจากน้ำหนักจะเบาขึ้นแล้ว กำลังที่ผลิตออกมากก็มากขึ้นด้วย โดยระดับความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าจะอยู่ที่ 76-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เวอร์ชั่นไฮบริดของ Fusion โฉมใหม่นี้ยังมาพร้อมเครื่องยนต์รุ่นใหม่หมดอย่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Atkinson-cycle 2.0 ลิตร ที่ให้อัตราสิ้นเปลืองฯ 47 และ 44 ไมล์/แกลลอน สำหรับการขับในเมืองและนอกเมืองตามลำดับ ซึ่งเป็นอัตราสิ้นเปลืองฯที่ดีกว่า Camry โฉมใหม่ล่าสุดปี 2012 อยู่ 4 และ 5 ไมล์/แกลลอน สำหรับการขับในเมืองและนอกเมือง ตามลำดับ และดีกว่า Hyundai Sonata Hybrid รุ่นปี 2011 ถึง 12 และ 4 ไมล์/แกลลอน ตามลำดับ
Fusion Energi plug-in hybrid ถือว่าเป็นซีดานขนาดกลางที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุดในโลกโดยมีอัตราสิ้นเปลืองฯมากกว่า 100 MPGe (ซึ่งเป็นหน่วยวัด ไมล์/แกลลอน สำหรับรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า) มากกว่า Chevrolet Volt 8 MPGe และมากกว่าตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองฯที่คาดการณ์ของ Toyota Prius plug-in hybrid ถึง 13 MPGe โดย Ford เตรียมส่ง Fusion Energu plug-in hybrid สู่ตลาดโลกในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
ในแง่ของการออกแบบ Ford พยายามจะให้รถรุ่นนี้อยู่ในระดับพรีเมี่ยมทั้งภายนอกและภายใน โดยเฉพาะภายในห้องโดยสารที่ใช้วัสดุคุณสูง และมีความละเอียดประณีตในทุกๆจุด ซึ่งนอกจากคุณสมบัติเด่นๆในเรื่องระบบขับเคลื่อนและรูปลักษณ์แล้ว Fusion ยังไม่เป็นรองใครในเรื่องของประสบการณ์การขับขี่ด้วยการใช้ระบบควบคุมการหักเลี้ยวไฟฟ้า (EPAS) ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ รวมถึงระบบกันสะเทือนหน้าแบบ MacPherson strut และระบบกันสะเทือนหลัง Multilink ระบบพรีเมี่ยมแบบใหม่หมด ในเกรดเดียวกันกับที่ใช้ในรถของ Audi และ BMW สำหรับราคาจำหน่าย Fusion โฉมใหม่ยังไม่มีการเปิดเผยในขณะนี้
ความคิดเห็น