เชฟโรเลต โวลต์ รถพลังงานไฟฟ้าขยายระยะทางขับเคลื่อน (Extended-Range Electric Vehicle) คันแรกของโลก โชว์โฉมสุดโฉบเฉี่ยว และเป็นดาวเด่นในเรื่องเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตในเชฟโรเลต พาวิลเลียน ที่งานบีโอไอ แฟร์ 2011 อยู่ในขณะนี้ แต่จะเป็นเพราะอะไรนั้น เชฟโรเลตมีเหตุผล 5 ประการที่ไม่ควรพลาดการชมนวัตกรรมแห่งโลก มานำเสนอดังนี้
1.รถพลังงานไฟฟ้า คันแรกของโลกที่ได้รับความปลอดภัยระดับ 5 ดาว
เชฟโรเลต โวลต์ เป็นรถพลังงานไฟฟ้าคันแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้รับคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก องค์กรความปลอดภัยทางการจราจรแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NHTSA – National Highway Traffic Safety Administration) ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดการพัฒนายานยนต์ของเชฟโรเลต ไม่ว่าจะขับเคลื่อนด้วยน้ำมันหรือไฟฟ้า จะต้องมีความปลอดภัยสูงสุด
อุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยที่ทำให้เชฟโรเลต โวลต์ คว้า 5 ดาวเต็ม ประกอบด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพอิเลกทรอนิคส์ และระบบป้องกันการลื่นไถล ถุงลมนิรภัยรอบคันทั้งด้านหน้า ด้านข้าง บริเวณหัวเข่า รวมถึงม่านนิรภัย รวมทั้งหมด 8 ลูกที่ช่วยปกป้องผู้โดยสารทุกที่นั่ง ตลอดจนระบบเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมออนสตาร์ ที่เป็นเหมือนผู้ช่วยส่วนตัว ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และสามารถป้องกันขโมยได้อีกด้วย
2.ชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ถูกกว่ากาแฟหนึ่งแก้ว
เชฟโรเลต โวลต์ ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยสามารถชาร์จพลังไฟได้ด้วยการเสียบปลั๊กไฟเหมือนอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านที่ใช้ไฟ 120 โวลต์ทั่วไป หรือชาร์จไฟที่ 240 โวลต์ ด้วยเทคโนโลยีอันชาญฉลาดในการชาร์จไฟทำให้โวลต์สามารถชาร์จไฟฟ้าได้เต็มภายในเวลาน้อยกว่า 4 ชั่วโมง สำหรับกระแสไฟ 240 โวลต์ หากใช้กระแสไฟ 120 โวลต์จะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง โดยสามารถตรวจสอบการชาร์จไฟผ่านทางแอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการใช้งานโวลต์จะอยู่ที่ประมาณ 45 บาทหรือ 1.50 เหรียญสหรัฐฯต่อวัน (เมื่อคิดจากค่าไฟในสหรัฐอเมริกาที่ต้องใช้ไฟ 12.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง) ในการชาร์จแบตเตอรีให้เต็มจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 60-80 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับทักษะการขับขี่ สภาพพื้นผิวถนน และอุณหภูมิ) ซึ่งเท่ากับระยะทางเฉลี่ยที่ผู้ขับขี่รถส่วนใหญ่ใช้ในชีวิตประจำวัน เชฟโรเลต คาดว่าการชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้แก่โวลต์จะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการซื้อกาแฟดื่มต่อถ้วยด้วยซ้ำ
3.รถไฟฟ้าคันแรกในโลกที่ ‘ขยายระยะทางขับเคลื่อน’ จึงไปได้ไกลกว่า
รถพลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่ มีข้อจำกัดสำคัญคือระยะทางขับเคลื่อนที่ไปได้ไม่ไกลนัก ทำให้ผู้ขับขี่มีความวิตกกังวลในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือการท่องเที่ยวในระยะทางไกล เพราะหากพลังงานไฟฟ้าหมดลง นั่นหมายความว่า จะต้องหยุดพักเป็นเวลานานเพื่อหาแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่จะชาร์จไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนที่จะเดินทางต่อไปได้
แต่ด้วยพลังขับเคลื่อนแบบ ‘ขยายระยะทาง’ (Extended range) ทำให้เชฟโรเลต โวลต์ สามารถขับขี่ไปได้ไกลอีกกว่า 500 กิโลเมตรจากการทำงานของเครื่องยนต์ขนาดเล็ก 1.4 ลิตรที่ทำหน้าที่ผลิตกำลังไฟป้อนเข้าสู่แบตเตอรี่ ผู้ขับขี่ จึงไม่ต้องวิตกกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดกลางทางแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม มี ลูกค้าชาวอเมริกันหลายคนที่ใช้โวลต์ในชีวิตประจำวันมาแล้วนานกว่าหกเดือน แต่ไม่เคยใช้กำลังจากเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรเลย
4.แรงบิดมหาศาล 370 นิวตันเมตร โดยไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์
ด้วยการส่งถ่ายพละกำลังโดยตรงจากขุมพลังไฟฟ้าสู่พื้นถนน ทำให้เชฟโรเลต โวลต์ มีอัตราเร่งที่ตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีและไหลลื่นต่อเนื่องจากแรงบิดมหาศาล 370 นิวตันเมตรที่จะส่งพละกำลังตามการกดคันเร่งของผู้ขับขี่ได้ทันใจ โดยไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์ นั่นทำให้โวลต์ สามารถเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม.ได้ภายในระยะเวลาเพียง 9 วินาทีเท่านั้น โดยแทบไม่มีเสียงรบกวนเลย
ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบธรรมดา โหมดการขับขี่แบบสปอร์ตที่จะให้พลังและอัตราเร่งเพิ่มมากขึ้น รวมถึงโหมดภูเขา ที่เครื่องยนต์จะสำรองพลังงานสำหรับการไต่ขึ้นเขาสูงชันเป็นระยะเวลานาน
5.ฉีกกรอบรูปลักษณ์ของรถพลังงานไฟฟ้า ที่ไม่จำเป็นจะต้องดูล้าสมัยเสมอไป
ในขั้นตอนการพัฒนาโวลต์ วิศวกรของเชฟโรเลต ใช้เวลาอยู่ในอุโมงค์ลมเพื่อสร้างสรรค์ดีไซน์ของรถไฟฟ้าคันนี้ให้ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์มากที่สุด ผลลัพท์ที่ได้คือรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสปอร์ต กระจังหน้าแบบปิด และสปอยเลอร์หลังที่ถูกออกแบบให้เข้ากับกันชนท้ายเพื่อรีดให้ลมไหลออกจากท้ายรถได้เร็วที่สุด ซึ่งทำให้โวลต์ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในรถที่มีความแอโรว์ไดนามิคส์มากที่สุดเท่าที่เชฟโรเลตเคยผลิตมา ไม่เพียงจะช่วยให้รถดูสะดุดตาเท่านั้น หากยังช่วยประหยัดพลังงานในการขับขี่อีกด้วย เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ดีไซน์รถพลังงานไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นจะต้องดูน่ารัก หรือล้าสมัยเสมอไป
ภายในห้องโดยสารของโวลต์ล้ำสมัยอย่างที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง กุญแจไม่ใช่สิ่งจำเป็น เพราะผู้ขับขี่เพียงแค่กดสวิทช์สตาร์ทเครื่องยนต์ และไม่ต้องมองมาตรวัดอีกต่อไป เพราะโวลต์ ใช้หน้าจอแอลซีดี 7 นิ้วแทนที่มาตรวัดแบบเดิม พร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัสบนคอนโซลที่จะแสดงผลการทำงานของรถ ส่วนเบาะทั้ง 4 ที่นั่งเป็นแบบบั๊กเก็ตซีทโอบกระชับลำตัว พร้อมช่องเก็บของอเนกประสงค์รอบคัน
พบกับเชฟโรเลต โวลต์ และเทคโนโลยีอันก้าวล้ำของเชฟโรเลตอีกมากมาย ได้ที่เชฟโรเลต พาวิลเลียน ในงานบีโอไอแฟร์ 2011 ณ โซนริมทะเลสาบ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 มกราคม 2555
LINE
ความคิดเห็น