ฟอร์ดและมาสด้าประกาศลงทุนเพิ่ม 27 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 837 ล้านบาท) เร่งกำลังการผลิตรถกระบะ ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย
• การลงทุนครั้งนี้เป็นผลมาจากความต้องการรถกระบะระดับโลกรุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
• บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตจากการลงทุนครั้งใหม่นี้ได้ ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป
ระยอง ประเทศไทย, 25 เมษายน 2555 – ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น ประกาศวันนี้ว่าบริษัทได้ลงทุนเพิ่ม 27 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 837 ล้านบาท) ในโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของฟอร์ดและมาสด้า โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับสายการผลิตรถกระบะขึ้นอีกขั้นและเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20,000 คันต่อปี
ปัจจุบัน เอเอทีผลิตรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และมาสด้า บีที-50 ใหม่ เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและเพื่อส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก
การลงทุนครั้งใหม่นี้จะครอบคลุมการยกระดับโรงงานด้านต่างๆ อาทิ การเพิ่มจำนวนหุ่นยนต์และเครื่องมือต่างๆ เพื่อเพิ่มความเร็วและจำนวนรถที่ผลิตได้ โดยบริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตจากการลงทุนครั้งใหม่นี้ได้ ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป
การเพิ่มศักยภาพในการผลิตรถอีก 20,000 คันต่อเดือนจะทำให้สายการผลิตรถกระบะของเอเอทีมีกำลังการผลิตรวม 195,000 คัน และทำให้โรงงานเอเอทีมีศักยภาพในการผลิตรถได้ทั้งสิ้น 295,000 คันต่อปี ซึ่งรวมถึงการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลด้วย
การลงทุนครั้งล่าสุดนี้ ส่งผลให้ฟอร์ดและมาสด้ามีการลงทุนร่วมกันในเอเอทีเป็นมูลค่าเกือบ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท) นับตั้งแต่เริ่มดำเนินงานครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2538 โดยปีที่แล้ว ฟอร์ดและมาสด้าได้ร่วมกันลงทุนมูลค่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.08 หมื่นล้านบาท) เพื่อยกระดับสายการผลิตและจัดหาอุปกรณ์เพื่อการผลิตรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจออร์ ใหม่ และมาสด้า บีที-50 ใหม่
“การลงทุนครั้งใหม่นี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวที่ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี มีต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกของบริษัท ทั้งยังทำให้เราตอบสนองต่อความต้องการฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ที่มีอยู่อย่างล้นหลามได้” มร. ปีเตอร์ ฟลีท ประธานฟอร์ด อาเซียน กล่าว
บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย เป็นหนึ่งในโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีความทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และได้สร้างมาตรฐานด้านการผลิตรถยนต์ในระดับอาเซียน จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นเพื่อผลิตสินค้าระดับโลกที่เพียบพร้อมทั้งด้านคุณภาพ มาตรฐาน และความได้เปรียบด้านต้นทุน
“การลงทุนเพิ่มในครั้งนี้คือส่วนหนึ่งของการเป็นพันธมิตรในเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจระหว่างฟอร์ดและมาสด้า” มร. ยูจิ มากามิเน่ ผู้อำนวยการบริหารอาวุโส มาสด้า มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น กล่าว “นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าวยังช่วยให้เราตอบสนองต่อความต้องการอย่างแข็งแกร่งที่มีต่อรถกระบะ บีที-50 ใหม่ ได้อย่างต่อเนื่อง”
นอกจากการผลิตรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ และมาสด้า บีที-50 โรงงานเอเอทียังผลิตรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ฟอร์ด เฟียสต้า มาสด้า2 และมาสด้า 3 เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและเพื่อส่งออกไปยังตลาดอาเซียน รวมทั้งประเทศอื่นๆ ด้วย
Ford Ranger
Mazda BT-50 Pro
ความคิดเห็น