Chevrolet Sonic เป็นรถซับคอมแพกต์รุ่นใหม่ล่าสุด ออกมาลุยตลาดต่อจาก Chevrolet Aveo ที่ทำตลาดในเมืองไทยมานานหลายปีและอยู่ในระดับเดียวกันกับ Chevrolet Metro และ Sprint แต่ Sonic นั้นมี “ของ” มากกว่า พร้อมพกพาขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นใหญ่กว่าคู่แข่งบางรุ่นด้วยซ้ำไป เป็นการยกระดับตนเองให้ห่างจากรุ่นน้องอย่าง Chevrolet Spark รถมินิคอมแพกต์ที่จะเปิดตัวออกสู่ตลาด (สหรัฐฯ) ในปี 2013
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ Chevrolet เลือกที่จะเปลี่ยนชื่อจาก Aveo มาเป็น Sonic เพราะไม่เพียงต้องการจะหลีกหนีภาพลักษณ์ของรถฟลีตของบริษัททั่วไปหรือรถให้เช่าที่ติดแน่นอยู่กับ Aveo มายาวนานเท่านั้น หากยังต้องการขจัดจุดด้อยของ Aveo ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่ต่ำ กินน้ำมัน และราคาขายต่อมือสองที่ย่ำแย่
เมื่อเทียบกับ Aveo แล้ว Sonic มาพร้อมกับพัฒนาการในทุกด้าน ทั้ง การออกแบบที่พิถีพิถัน ความปลอดภัยและสมรรถนะ ซึ่งทำให้เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ก้าวกระโดดจากแถวหลังมายืนอยู่แนวหน้าของเซกเมนท์นี้อย่างสง่างาม Sonic พัฒนาบนแพลทฟอร์มระดับโลกรุ่นใหม่ล่าสุดของ GM (เป็นรุ่นเดียวในตลาดนี้ที่ขึ้นสายการผลิตในสหรัฐฯ) โดยหยิบยืมเทคโนโลยีเครื่องยนต์บางส่วนมาจากรุ่นพี่อย่าง Chevrolet Cruze มาพร้อมสองรูปแบบตัวถัง ซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบ็ก 5 ประตู
การออกแบบ
ถึงแม้ Chevrolet Sonic จะมีขนาดตัวถังและสัดส่วนพื้นฐานที่ใกล้เคียงกับ Aveo แต่ด้วยดีไซน์ที่ปฏิวัติพลิกโฉมใหม่หมดจดทั้งคัน ทั้งการออกแบบตัวถังที่โฉบเฉี่ยว เส้นสายหลังคาอันลื่นไหล และความประณีตของทุกรายละเอียด ทำให้ Sonic ได้สร้างความแตกต่าง ทั้งในด้านสายตาและอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างสิ้นเชิง
Sonic รุ่นซีดานมีมิติตัวถังที่ยาวกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นแฮทช์แบ็ก แต่รูปลักษณ์ด้านหน้าเหมือนกัน เช่นเดียวกับฐานล้อก็มีขนาดยาวเท่ากัน แฮทช์แบ็กมีลูกเล่นพิเศษคือที่จับเปิดประตูหลัง ซึ่งซ่อนอยู่ตรงใกล้เสาหลังคา ขณะที่รุ่นซีดานมีดีไซน์ที่เน้นแบบดั้งเดิมมากกว่า
การออกแบบทั้งด้านหน้าและบั้นท้าย ถ่ายทอดความเป็น Chevrolet มาอย่างชัดเจน หน้ารถประดับด้วยโลโก้โบไทขนาดใหญ่สไตล์ Chevy บนกระจังหน้าสองชั้นดูอัลพอร์ท กรอบไฟหน้าทรงกลมติดตั้งอยู่ในโคมสีดำ มีการเล่นเส้นสายสีดำทั่วทั้งคันเพื่อขับเน้นสายตา โดยเฉพาะบริเวณประตูและฝากระโปรงท้าย
ก่อนหน้านี้ Aveo โฉมซีดานเป็นรุ่นที่ไม่น่าพิสมัยเท่าใดนัก แต่กับ Sonic ซีดานนั้นต่างออกไป เพราะสัดส่วนการออกแบบที่เหมาะสมคล้ายคลึงกับ Cruze ในหลายมิติเพียงแต่สั้นกว่าเท่านั้น เส้นหลังคาด้านท้ายที่ลาดเอียงต่อด้วยมุมของฝากระโปรงที่คมคาย เสริมให้ตัวรถดูโดดเด่นโดยไม่โค้งมนจนเกินไป ขณะที่รุ่นแฮทช์แบ็ก ถูกเน้นเส้นสายด้านข้างให้มีดูโฉบเฉี่ยว รับกับซุ้มล้ออย่างลงตัว ทำให้ตัวรถดูสปอร์ตร้อนแรงยิ่งขึ้น ข่าวดียิ่งกว่านั้นคือ Sonic ทุกรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐฯ แม้กระทั่งรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมกับล้ออัลลอย
ในห้องโดยสาร Sonic ดูสปอร์ตเกินกว่าที่คุณจะคาดถึงในรถราคาระดับนี้ พวงมาลัยสามก้านสุดโฉบเฉี่ยวคล้ายคลึงกับรุ่นพี่อย่าง Cruze แผงคอนโซลดีไซน์รูปตัว V ใช้งานง่ายและดึงดูดสายตาอย่างมากด้วยตำแหน่งที่ตั้งของเครื่องเสียงและระบบปรับอากาศที่เหมาะสม มาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอลอยู่คู่กับวัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็มอนาล็อกเสริมความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้นไปอีก วัสดุที่ใช้นั้นเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยเบาะที่นั่งเดินด้ายสีตัดกัน พื้นผิวบนแผงคอนโซลและแผงข้างประตูมีลายเพิ่มผิวสัมผัส พร้อมตกแต่งด้วยโครเมียมเพิ่มความหรูหราที่ไม่ดูฟู่ฟ่าจนเกินไป
ความเห็นจากสื่อออนไลน์“ดูสะดุดตาและล้ำสมัย โดยเฉพาะกระจังหน้าดูอัลพอร์ทสไตล์ Chevy”
CNET »
“ทำได้ดีเกินกว่าจะหาที่ติ นับเป็นก้าวสำคัญของรถเซกเมนท์นี้”
Car and Driver »
“วัดรอบแบบอนาล็อกขนาดใหญ่ และความเร็วแบบดิจิตอล ดูเหมือน Sonic จะหลุดออกมาจากโลกของบิ๊กไบค์”
Popular Mechanics
สมรรถนะ
Sonic มาพร้อมสองขุมพลัง เริ่มจากเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.8 ลิตร และ 4 สูบ 1.4 ลิตรพ่วงเทอร์โบชาร์จ ที่มอบทั้งสมรรถนะและความประหยัดซึ่งถูกถ่ายทอดมาจาก Chevrolet Cruze นั่นหมายความว่า Sonic จะขับสนุกกว่า และตอบสนองได้ดีกว่ารถในระดับเดียวกัน ระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา 5 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น 1.8 ลิตร ขณะที่ 1.4 ลิตรเทอร์โบมาพร้อมกับระบบเกียร์ธรรมดา6 สปีดเป็นมาตรฐาน และ 6 สปีดอัตโนมัติเป็นอ็อปชั่นพิเศษ
ถึงแม้ตัวเลขแรงม้าของทั้งสองเครื่องยนต์จะเท่ากันที่ 138 แรงม้า แต่ก็มีความแตกต่างทั้งในรายละเอียดและความรู้สึกในการขับขี่ ขุมพลัง 1.4 ลิตรเทอร์โบมีแรงบิดมากกว่าราว 23 ฟุตปอนด์ (31 นิวตันเมตร) ซึ่งแรงบิดกว่า 90 เปอร์เซ็นต์มาในช่วงรอบเครื่องยนต์ 2,400 ถึง 6,500 รอบต่อนาที จึงไม่จำเป็นจะต้องปรับเกียร์ลงเพื่อรีดอัตราเร่งเสมอไป นอกจากนี้ ยังรู้สึกนุ่มนวล ต่อเนื่อง เหนือกว่ารถในระดับนี้
จริงๆแล้ว เครื่องยนต์ 1.4 ลิตรเทอร์โบมีความคล้ายคลึงกับที่ติดตั้งอยู่ใน Chevrolet Cruze คือเมื่อเร่งรอบเครื่องยนต์เกินกว่า 5,000 รอบต่อนาทีจะรู้สึกตื้อ อัตราเร่งมีน้อยเกินไป ในทางกลับกัน เครื่องยนต์ 1.8 ลิตรจะตอบสนองได้ดีเมื่อเร่งผ่าน 4,000 รอบต่อนาที แต่ก็ต้องแลกกับการฟังเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่ดูจะดังเกินไป
เกียร์ธรรมดา 6 สปีดตอบสนองดีมาก เพราะมีช่วงสั้นและเข้าได้รวดเร็วบวกกับคลัตช์ที่นุ่มเท้า เช่นเดียวกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่แม้จะปล่อยไว้ที่ D แต่ก็ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจขณะคิกดาวน์ ผู้ขับขี่สามารถควบคุมปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะขับสนุกยิ่งขึ้นเมื่อใช้เกียร์บวกลบดังกล่าวกับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร
โครงสร้างแชสซีส์ของ Sonic ใหม่นั้นมีประสิทธิภาพเหนือความคาดหมายเช่นกัน แม้จะไม่เลิศเลอถูกใจนักเลงรถพันธุ์แท้ แต่ก็สัมผัสได้ถึงการควบคุมได้อย่างมั่นใจ ขับสนุกบนทางคดโค้ง เหนือกว่ารถราคาประหยัดทั่วไป จุดด้อยที่หลายคนอาจสัมผัสได้คือพวงมาลัยที่ยังขาดความเฉียบคมและดูดซับแรงสั่นสะเทือนไว้มากกว่าFord Fiestaทำให้ลดทอนความรู้สึกสปอร์ตลงรวมถึงประสิทธิภาพของเบรกที่อยู่ในระดับพอใช้เท่านั้นอีกทั้งยังมีน้ำหนักแป้นเบรกที่นิ่มเกินไป อย่างไรก็ตาม ด้วยสมรรถนะโดยรวมที่ดี เชื่อว่าผู้สนใจรถเซกเมนท์นี้กว่า 95 เปอร์เซ็นต์จะประทับใจกับ Sonic คันนี้
ความเห็นจากสื่อออนไลน์“พวงมาลัยเบาเกินไป ทำให้ขาดความเฉียบคม”
Automobile Magazine »
“ขับสนุกทีเดียว”
Car and Driver »
“พวงมาลัยไฟฟ้าตอบสนองเร็ว (ด้วยรอบวงหมุนจากซ้ายสุดไปขวาสุดต่ำกว่า 3 รอบ – อัตราทด 14:1) แต่ให้ความรู้สึกเหมือน Cruze คือเบา ไม่หนักมือ และความเฉียบคมน้อย”
Motor Trend »
คุณภาพ
Chevrolet Aveo ได้ชื่อว่าเป็นรถที่โดดเด่นในด้านความสะดวกสบาย คุณสมบัติดังกล่าวทำให้เป็นที่นิยมของบริษัทรถเช่า แต่กับ Sonic นั้นเหนือยิ่งกว่า ด้วยการเติมแต่งรสนิยม และเพิ่มความกว้างขวางยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเลือกรุ่นซีดานหรือแฮทช์แบ็กก็จะได้ความรู้สึกเมื่อนั่งเบาะทั้งด้านหน้าและหลังเหมือนกัน เบาะคู่หน้ามอบความสบายเพียงพอต่อการขับขี่ทางไกล ตำแหน่งที่นั่งเซ็ทมาเพื่อรองรับสัดส่วนอันหลากหลายของผู้ขับขี่ แผงมาตรวัดที่ยื่นออกมา (มองครั้งแรกดูประหลาดและล้ำเกินไป) อยู่ในตำแหน่งที่สมบูรณ์แบบ และอ่านข้อมูลง่าย
เบาะที่นั่งด้านหลัง รองรับผู้โดยสารที่สูงระดับ 190 ซม.ได้อย่างไม่ลำบาก เป็นความโดดเด่นที่รถรุ่นอื่นไม่มี อย่างไรก็ตาม พื้นที่ช่วงขา และหัวเข่าค่อนข้างจำกัด แต่ก็จะดีขึ้นหากผู้โดยสารแถวหน้าตัวเล็กหรือเป็นเด็ก และปรับเลื่อนเบาะคู่หน้าไปด้านหน้ามากขึ้น
จุดด้อยสำคัญในห้องโดยสารอยู่ที่พื้นบริเวณใต้ฝากระโปรงหลังค่อนข้างสูง ยิ่งเมื่อเทียบกับ Honda Jazz ที่ยังคงครองแชมป์อันดับหนึ่งพื้นที่บรรทุกสัมภาระ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดพื้นดังกล่าวขึ้นมาก็ยังมีเนื้อที่เพิ่มเติม เพียงพอต่อการเก็บของมีค่าหรือแล็ปท็อปสักสองสามเครื่องให้ห่างจากสายตาของผู้ไม่หวังดีสิ่งหนึ่งที่ผู้สนใจจับจอง Sonic ควรทราบคือโมเดลซีดานนั้นมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระมากกว่าโดยรุ่นซีดานมีความจุประมาณ 538 ลิตร ขณะที่รุ่นแฮทช์แบ็กอยู่ที่ 396 ลิตรจุดเด่นในห้องโดยสารตอนหน้าคือช่องเก็บของที่มีมากพอต่อการใช้งานแต่ห้องโดยสารตอนหลังยังน้อยเกินไป
อีกหนึ่งจุดด้อยที่อาจจะกวนใจผู้ขับขี่บางคนคือ สวิทช์เซ็นทรัลล็อกที่ติดตั้งอยู่บริเวณกลางคอนโซล เป็นจุดที่ยากต่อการใช้งานโดยเฉพาะเมื่อผู้ขับยืนอยู่นอกรถ เช่นเดียวกับสวิทช์ควบคุมระบบปรับอากาศที่อยู่ต่ำมาก และไม่มีจอให้มองเวลาใช้งาน
การขับขี่และความพิถีพิถันนั้นอยู่ในระดับแถวหน้าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เสียงลมและเสียงรบกวนจากพื้นถนนเข้ามาในห้องโดยสารค่อนข้างน้อย แต่อาจจะดังขึ้นในรุ่น LTZ ซึ่งใช้ล้อขนาดใหญ่กว่า ได้ยินเสียงชัดเจนในช่วงความเร็วต่ำ
ความเห็นจากสื่อออนไลน์“ช่วงล่างเกาะถนนได้ดี โดยที่ไม่สะเทือนมากเกินไปนัก”
Popular Mechanics »
“เบาะที่นั่งด้านหลังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่สองคน”
Automobile Magazine »
“ห้องโดยสารสะดวกสบาย รองรับการขับขี่และนั่งได้หลายชั่วโมง แต่จุดเด่นที่แท้จริงคือสมรรถนะการขับขี่”
CNET »
“เบาะหลังไม่มีที่พักแขน หรือที่วางแก้วน้ำ แต่ก็นั่งได้สบายแม้ผู้ขับขี่ที่เบาะหน้าจะสูงกว่า 180 ซม.ก็ตาม”
Car and Driver »
“ห้องโดยสารเงียบที่สุดในเซกเมนท์นี้ แต่ก็ยังไม่สูญเสียบุคลิกของรถขนาดเล็กไป”
AutoWeek »
ความปลอดภัย
หากความปลอดภัยเป็นคุณสมบัติอันดับหนึ่งในการเลือกซื้อรถขนาดเล็ก Chevrolet Sonic จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆเลยทีเดียว GM ออกแบบและพัฒนาวิศวกรรมให้ Sonic บนแพลทฟอร์มระดับโลกแบบใหม่ล่าสุด วางเป้าหมายต้องเป็นอันดับหนึ่งในการปกป้องผู้โดยสารในหลายประเทศที่วางจำหน่าย ด้วยการทดสอบการชนเกินกว่ามาตรฐานทั่วไป กุญแจสำคัญของความปลอดภัยในห้องโดยสารของ Sonic อยู่ที่โครงสร้างตัวถังนิรภัยที่ทำจากเหล็กกล้าความทนทานสูงถึงเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ และพัฒนาแท่นเครื่องยนต์ใหม่เพื่อลดแรงกระแทกเมื่อเกิดการชนด้านหน้า
Sonic ยังมาพร้อมกับถุงลมนิรภัยทั่วทั้งคันถึง 10 ลูกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งรวมถึงถุงลมบริเวณหัวเข่าทั้งคนขับและคนนั่งหน้า รวมถึงเบาะหลังที่รองรับที่นั่งนิรภัยของเด็ก พร้อมถุงลมนิรภัยป้องกันบริเวณหน้าอก ถึงแม้ Sonic จะติดตั้งดรัมเบรกหลังในทุกรุ่น แต่ก็หายห่วงด้วยระบบเบรก ABS พร้อมช่วยเบรก BA และระบบควบคุมเสถียรภาพอิเลกทรอนิคส์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ผลทดสอบการชนถือว่ายอดเยี่ยมมาก ด้วยการคว้า 5 ดาวจากหน่วยงานของรัฐบาล พร้อมได้คะแนนสูงสุด และรางวัล Top Safety Pick จากสถาบัน Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) โดยเฉพาะการผ่านการทดสอบความแข็งแรงของหลังคาด้วยคะแนนสูงสุด ซึ่ง Sonic สามารถทนทานต่อน้ำหนักที่มากกว่าตัวมันเองถึง 5 เท่า ซึ่งช่วยลดความเสียหายเมื่อรถพลิกคว่ำ
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ในตลาดสหรัฐ Sonic มีราคาเริ่มต้นที่ 14,495 เหรียญสหรัฐฯ นับว่าเหมาะสมและน่าสนใจมากที่สุดในตลาด GM เสริมจุดแข็งด้วยการเสนออุปกรณ์ครบครันในรุ่นเริ่มต้น ทั้ง ระบบแอร์ เซ็นทรัลล็อก เข้าออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจหรือ Keyless entry ตลอดจนพวงมาลัยปรับระดับได้
ในรุ่นกลางอย่าง LT มาพร้อมเครื่องเสียงผ่านดาวเทียม ลำโพง 6 ตัว และกระจกไล่ฝ้า ส่วนรุ่นท็อปไลน์ LTZ จะได้เบาะที่นั่งปรับอุณหภูมิ ครูสคอนโทรล ไฟตัดหมอก และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ถึง 17 นิ้ว
อย่างไรก็ดี ระบบการเชื่อมต่อ เป็นสิ่งที่ Chevrolet ยังขาดหายไปใน Sonic ทั้งบลูทูธ พวงมาลัยควบคุมเครื่องเสียง และพอร์ท USB เป็นอุปกรณ์เสริมแพคเกจ Connectivity เฉพาะในรุ่น LTZ
อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปคือระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ถึงแม้ GM จะประกาศว่าจะปรับปรุงภายในสิ้นปีนี้ แต่กระนั้นก็พบว่า วัสดุของเบาะยังไม่เนี้ยบเท่าใดนัก บางคนอาจจะมองว่าดูราคาถูกเกินไป
ความเห็นจากสื่อออนไลน์“เครื่องเสียงไม่มีซับวูเฟอร์ ไม่มีแสงไฟวูบวาบตามเสียงเพลง เสียงเบสไม่กระหึ่ม ดูเหมือนว่า Chevy คันนี้จะขาดรายละเอียดที่ดึงดูดวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก”
CNET »
“Chevy จะลบข้อบกพร่องของ Sonic แฮทช์แบ็ก และซีดาน ด้วยชุดแต่งเสริม Z-spec ก่อนจะตามมาด้วยชุดช่วงล่างสปอร์ตในรหัส RS”
Automobile Magazine »
ความประหยัด
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ค่ายรถผลิตรถขนาดเล็กออกมา ก็เพื่อเน้นความประหยัด แต่ถ้าคุณเลือกใช้ Chevrolet Sonic เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร อาจจะผิดหวัง เพราะอัตราบริโภคน้ำมันไม่ได้ดีไปกว่า Toyota Camry เลย อย่างไรก็ดี ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรเทอร์โบ ทำได้ดีกว่า ด้วยตัวเลข 12.3 กิโลเมตรต่อลิตรในเมือง และ 17 กิโลเมตรต่อลิตรทางไกล
ในการทดสอบการใช้งานในชีวิตประจำวันในเมือง ผสมผสานกับการขับแซงอย่างดุเดือดบนถนนสองเลนสวนกัน Sonic ขุมพลัง 1.4 ลิตรเทอร์โบให้ความประหยัดมากกว่า โดยตัวเลขที่ 13.1 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรอยู่ที่ 11.9 กิโลเมตรต่อลิตร
ความเห็นจากสื่อออนไลน์“น้ำหนักตัวรถ Sonic อยู่ที่ 2,800 ปอนด์ มากกว่ารถในขนาดเดียวกันอยู่ราว 300 ปอนด์ แต่ถือเป็นน้ำหนักส่วนเกินที่ดี”
Automobile Magazine »
(สงวนลิขสิทธิ์บทความทั้งหมด ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 2537)
ความคิดเห็น