ด้วยการมีตัวตนอยู่แค่เพียง 4 คันในโลก ทำให้การประมูล Aston Martin DB4 GT Zagato Sanction II Coupe รถสปอร์ตสุดคลาสสิกปี 1991 คันที่ 4 และคันสุดท้ายบนโลก มีราคาพุ่งสูงไปถึง 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยคร่าวๆก็เกือบ 60 ล้านบาทหลายคนมองว่าราคาประมูลซึ่งเกิดขึ้นที่ Bonhams ประเทศอังกฤษในครั้งนี้ยังต่ำไปด้วยซ้ำเมื่อพิจารณาจากโอกาสที่แทบจะเป็นศูนย์ในการจะได้ครอบครองรถสปอร์ตสุดคลาสสิกที่มีตำนานน่าสนใจยิ่งคันนี้
หากมองประวัติศาสตร์ 100 ปีของ Aston Martin และรถซีรีส์ DB เครื่องยนต์ 6 สูบนั้น DB4 GT Zagato ถือเป็นรถที่น่าหลงใหลที่สุด เกิดจากความร่วมมือกันตั้งแต่แรกเริ่มของ Aston Martin และ Zagato เมื่อกว่า 50 ปีที่แล้วที่จับมือร่วมกันผลิตรถสปอร์ต มีการวางแผนไว้ว่าจะผลิตราว 23 คัน แต่สุดท้ายแล้วสามารถผลิตโปรดักชั่นคาร์ได้เพียง 19 คันเท่านั้นระหว่างปี 1961 ถึง 1963 ทำให้มีแชสซีส์หลงเหลืออยู่อีก 4 คัน
ในอีก 30 ปีต่อมา มีการอนุมัติให้รื้อฟื้นโครงการนี้อีกครั้ง โดย Victor Gauntlett และ Peter Livanos สองประธานร่วมของ Aston Martin ในเวลานั้น ซึ่งมอบหมายให้ Richard Williams ผู้บริหารระดับสูงในเวลานั้นมาช่วยปลุกชีพแชสซีส์อีก 4 คันที่เหลือ โดยเริ่มโครงการนี้ในปี 1987
แชสซีส์ของรถทั้ง 4 คันถูกส่งไปยังโรงงานของ Zagato ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เพื่อสร้างตัวถังสุดสปอร์ตเหมือนกับรุ่นดั้งเดิมทั้ง 19 คันพร้อมกับตั้งชื่อรถทั้ง 4 คันว่า Sanction II ประทับหมายเลขตัวถัง DB4GT/0192, DB4GT/0196, DB4GT/0197 และ DB4GT/0198 ซึ่งเป็นหมายเลขดั้งเดิมตั้งแต่ปี 1960 แต่ไม่เคยถูกใช้มาก่อน สำหรับคันที่ถูกประมูลคือแชสซีส์ตัวสุดท้าย DB4GT/0198
Aston Martin DB4 GT Zagato Sanction II ใช้เครื่องยนต์ 4.2 ลิตร (รุ่นแรกเริ่มใช้ขนาด 3.7 ลิตร) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 4 สปีดโดยสำนัก David Brown ของอังกฤษ เฟืองท้ายติด LSD อัตราทด 3.07:1 ดิสก์เบรกสี่ล้อ ช่วงล่างอิสระปีกนกที่ด้านหน้าและแบบคาน live axle ที่ด้านหลัง ให้พละกำลังสูงสุด 352 แรงม้า มากกว่ารุ่นดั้งเดิมอยู่ 50 แรงม้า กระโดดจาก 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 5.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม.
LINE
ความคิดเห็น