หลังจากออกมาทำตลาดได้ราว 4 ปี ถึงเวลาแล้วที่ BMW จะทำ facelift ปรับโฉมให้ 7-Series รุ่นปี 2013 โดยมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มความสดใหม่หลายอย่าง รูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นได้ชัดเจนคือดวงไฟหน้าเป็นแบบวงแหวน อยู่เคียงคู่กับซี่กระจังหน้าที่จัดวางห่างขึ้นโดยมีทั้งหมด 9 ซี่ แทนที่ของเดิมที่มี 12 ซี่ กันชนหน้าและไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างดีไซน์ใหม่พร้อมเพิ่มเส้นสายโครเมียมและรีเฟลกเตอร์ที่ฝากระโปรงท้าย
ในห้องโดยสารยังเต็มเปี่ยมด้วยความหรูหราระดับไฮเอนด์ เบาะหนังคู่หน้าดีไซน์ใหม่ จัดเต็มด้วยระบบเครื่องเสียง Bang & Olufsen High End Surround Sound System ขนาด 1,200 วัตต์ ขณะที่เบาะหลังเพลิดเพลินด้วยแพ็คเกจความบันเทิง Rear Seat Entertainment มาพร้อมหน้าจอขนาด 9.2 นิ้วเป็นอุปกรณ์เสริมพิเศษให้เลือกใช้
นอกจากนี้ BMW ยังติดตั้งระบบที่ให้ผู้ขับขี่ปรับเลือกโหมดการใช้งานห้องโดยสารที่แตกต่างกันได้ 4 โหมดผ่านทางหน้าจอดิสเพลย์บนคอนโซลเป็นระบบเดียวกับที่ใช้ครั้งแรกใน BMW 5-Series
ขณะที่ขุมพลังใต้ฝากระโปรง BMW นำเสนอเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ พร้อมกับอัพเกรดเครื่องเดิมที่มีอยู่ให้ทรงพลังยิ่งขึ้นโดยใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น
สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกใหม่ของ 7-Series 2013 มีขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง ใช้ระบบไตรเทอร์โบ ซึ่งเคยวางอยู่ใน M550d xDrive เมื่อนำมาเป็นหัวใจขับเคลื่อนของ 750d xDrive จะมีพละกำลังสูงสุด 375 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 750 นิวตันเมตร เห็นไซส์ใหญ่ขนาดนี้แต่มีอัตราเร่งเร้าใจ 0-100 กม./ชม.อยู่ที่ 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุดล็อกไว้ที่ 250 กม./ชม. โดย BMW ระบุว่าเครื่องดีเซลเทอร์โบสามลูกบล็อกนี้มีอัตราบริโภคน้ำมันที่ 15.6 กม./ลิตร ปล่อยไอเสีย 169 กรัม/กม.
ในตลาดยุโรปและบางประเทศในภูมิภาคอื่น จะมีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกอีก 2 อ็อปชั่น คือ 740d ใช้บล็อก 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร แรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 309 ตัว ขณะที่ 730d มีแรงม้าอยู่ที่ 255 ตัว
เบนซินรุ่นท็อปไลน์ 760i ไม่มีการเปลี่ยนแปลงขุมพลัง ยังคงใช้บิ๊กบล็อก V12 6.0 ลิตร พละกำลัง 537 แรงม้า ขณะที่ 750i มีการยกระดับความแรงของบล็อก V8 ความจุ 4.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 444 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร ในส่วนของ 740i ใช้เครื่องยนต์ใหม่รหัส N55 ความจุ 3.0 ลิตร รีดพลังได้ 315 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร
BMW ยังนำเสนอรุ่นเริ่มต้นในบางประเทศ คือ 730i เครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ ให้พละกำลังสูงสุด 255 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร มาที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ 2,600 รอบ/นาที
สำหรับในรุ่นไฮบริด เปลี่ยนมาใช้ขุมพลัง ActiveHybrid7 รุ่นใหม่ ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร 315 แรงม้าเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า 54 แรงม้า ทำให้มีพละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 349 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร BMW เคลมว่าเครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ที่ 5.7 วินาที อัตราประหยัดน้ำมัน 14.7 กม./ลิตร ปล่อยไอเสีย 158 กรัม/กม.
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม BMW ถึงใช้เครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ที่มีกำลังและอัตราเร่งน้อยลง เหตุผลเป็นเพราะว่าเครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นเดิม ซึ่งเป็นลูกผสมของบล็อก V8 กับมอเตอร์ไฟฟ้ามีจุดด้อยคืออัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 10.6 กม./ลิตร และปล่อยมลพิษสูงถึง219 กรัม/กม.
7-Series รุ่นปรับโฉมทุกรุ่น ติดตั้งระบบช่วงล่างปรับระดับอัตโนมัติ และช่วงล่างหลังพร้อมถุงลมเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ความคิดเห็น