หนึ่งใน Ferrari 250 GTO ปี 1962 ที่กล่าวกันว่าเป็นที่สุดแห่งรถสปอร์ตคลาสสิกเบอร์หนึ่งของโลก ถูกเปลี่ยนมือเจ้าของแล้ว ด้วยราคาขาย 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1,050 ล้านบาท ทุกสถิติรถที่มีราคาแพงที่สุดในโลกซึ่งเดิมเป็นของ Bugatti Type 57SC Atlantic รุ่นปี 1936 ถูกขายด้วยราคาที่ไม่เปิดเผย แต่คาดว่าอยู่ระหว่าง 30 – 34 ล้านเหรียญฯ (ราว 900 – 1,020 ล้านบาท)
250 GTO ที่สร้างสถิติค่าตัวใหม่ในครั้งนี้ ประทับตราหมายเลขแชสซีส์ 3505GT ซึ่งเป็นคันที่ถูกสร้างให้ท่านเซอร์ Stirling Moss ตำนานนักแข่งรถชาวอังกฤษโดยเฉพาะเชื่อกันว่าชื่อของเขาถูกประทับอยู่ด้านหลังเบาะที่นั่งคนขับด้วย แต่ท่านเซอร์ Moss ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 82 ปีไม่มีโอกาสได้นั่งหลังพวงมาลัยซูเปอร์คลาสสิกคาร์คันนี้บ่อยครั้งนัก
สาเหตุที่ตัวถังรถเป็นสีเขียวอ่อน เพราะในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 ท่านเซอร์ Moss เป็นนักแข่งให้กับทีม UDT-Laystall ซึ่งใช้รถแข่งสีเขียวอ่อนนั่นเอง เป็นที่มาของ 250 GTO คันนี้ที่แหวกประเพณีปฏิบัติ ไม่ใช้บอดี้สีแดงเพลิงเอกลักษณ์ของ Ferrari
เจ้าของเดิมของ 250 GTO คันนี้ คือนักธุรกิจในสหรัฐฯที่ชื่อว่า Eric Heerema ตัดสินใจขายให้แก่นักสะสมรถชาวซีแอทเทิล Craig McCaw ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเปลี่ยนมือมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 1996 ด้วยราคา 3.5 ล้านเหรียญฯ หรือราว 105 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดหลายเท่าตัว
นักวิเคราะห์หลายคนประเมินว่า มูลค่าราคาของ 250 GTO จะถีบตัวสูงขึ้นอีกในอนาคต เพราะว่าจำนวนการผลิตที่น้อยมากนั่นเอง
“ค่อนข้างยากที่จะเป็นเจ้าของ Ferrari สักคันในเวลานี้” John Collins ผู้แทนจำหน่ายรถ Ferrari คลาสสิกในอังกฤษกล่าว “ชาวอาหรับเริ่มจับจองซูเปอร์คาร์จากอิตาเลียนเพราะการแข่งขัน F1 เช่นเดียวกับเศรษฐีชาวจีนที่เริ่มหันมาสนใจซื้อด้วย”
ความคิดเห็น