เป็นที่ทราบกันดีว่าหากใครมองหารถยนต์นั่งสักคันที่มีความโดดเด่นด้านความปลอดภัยสูงสุด ย่อมต้องพิจารณา Volvo เป็นอันดับแรก เพราะยักษ์ใหญ่จากสวีเดนรายนี้มุ่งเน้นพัฒนาความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ
ข้อมูลการสำรวจล่าสุดระบุว่า ความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บในการขับขี่และโดยสารในรถ Volvo ลดลง 50% นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนาด้านงานออกแบบควบคู่ไปกับการคิดค้นเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมาตลอด 12 ปีที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปในปี 2000 ระบบเพื่อความปลอดภัยต่างๆ อย่างระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบครูสคอนโทรลแบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ระบบเบรกอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนเลนและระบบตรวจจับมุมอับสายตา ได้รับการติดตั้งอยู่ในรถระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่วันนี้เทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการติดตั้งอยู่ในรถระดับกลางมากขึ้น รวมถึงรถทุกรุ่นของ Volvo ด้วย
ผลสำรวจของ Insurance Institute for Highway Safety และ Volvia บริษัทประกันภัยของสวีเดนระบุว่า ระบบเบรกอัตโนมัติ (ซึ่งมีใช้ในรถซิตี้คาร์ของ Volvo) จะช่วยลดแรงปะทะด้านหน้าลงได้ราว 22%
ขณะที่ผลสำรวจในยุโรปอีกชิ้นชี้ว่า รถยนต์ที่ติดตั้งครูสคอนโทรลแบบปรับความเร็วอัตโนมัติและระบบแจ้งเตือนการปะทะนั้นจะช่วยลดอุบัติเหตุการชนที่ด้านหน้าลงได้ถึง 42% ซึ่งถือว่าสูงมาก
ดีไซน์รถยนต์ของ Volvo ยังมุ่งปกป้องคนเดินถนนเช่นกัน โดย V40 เป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ถุงลมนิรภัยสำหรับคนเดินถนน มาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับคนเดินถนนซึ่งระบบจะสั่งการให้ระบบเบรกทำงานอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้ถุงลมนิรภัยสำหรับคนเดินถนนซึ่งติดตั้งอยู่ที่ด้านนอกกระจกหน้าไม่จำเป็นต้องทำงานทุกครั้ง
สำหรับเป้าหมายของค่ายรถยนต์จากสวีเดน คือการลดหรือกำจัดความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บของผู้โดยสาร โดยภายในปี 2020 Volvo ประกาศวิสัยทัศน์อย่างกล้าหาญว่า จะไม่มีผู้โดยสารรถยนต์ของ Volvo รายใดที่จะบาดเจ็บสาหัสจากการเกิดอุบัติเหตุอีกเลย
LINE
ความคิดเห็น