Tata Motors กำลังพิจารณาการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในประเทศไทยหรืออินโดนีเซีย มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทเพื่อตอบสนองต่อการเติบโตของตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการเปิดเผยของ Ajit Venkataraman ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tata Motors Thailand
โรงงานแห่งใหม่ของ Tata จะมีกำลังการผลิตระหว่าง 50,000 – 60,000 คันต่อปี เป็นการขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 2015 สำหรับการตัดสินใจลำดับสุดท้ายว่าจะก่อสร้างโรงงานที่ไทยหรืออินโดฯนั้นจะเกิดขึ้นภายในอีก 1 ปีครึ่งนับจากนี้
Ajit Venkataraman เปิดเผยว่า บริษัทฯเล็งเห็นถึงศักยภาพการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดรถยนต์นั่ง โดยเฉพาะรถคอมแพกต์ซึ่งเติบโตต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ Tata เพิ่งริเริ่มทำตลาด Nano รถซิตี้คาร์ 600 ซีซีโดยการนำมาทดลองขายในประเทศไทยเพื่อศึกษาความต้องการของลูกค้า
“หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่เรายังไม่ทำตลาดรถคอมแพกต์อย่างจริงจังในประเทศไทย เพราะติดขัดที่กำแพงภาษีศุลกากรค่อนข้างสูงในการนำรถจากอินเดียเข้ามาจำหน่ายทั้งคัน ถ้าเราต้องการเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันในตลาดได้ก็ต้องมีโรงงานประกอบรถยนต์ของตนเองในประเทศไทยหรือในภูมิภาคอาเซียน” Ajit กล่าว
“ประเทศไทยเป็นตลาดแรกของเราในอาเซียน และเราได้มอบหมายให้ธนบุรีประกอบรถยนต์เป็นผู้ผลิตรถกระบะ Tata Xenon ของเรา ซึ่งนโยบายของ Tata ในเมืองไทยคือการมุ่งเน้นที่รถเชิงพาณิชย์ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้เราได้เปิดตัวรถกระบะบรรทุกหนัก Tata Xenon Giant Heavy Duty ขณะเดียวกัน ในอนาคตอันใกล้เราก็จะประกาศเปิดตัว Tata Daewoo รถกระบะจากเกาหลีมาจำหน่ายในเมืองไทยด้วย”
ด้านนายอภิเชต สีตะกลิน รองประธานฝ่ายขายและบริการลูกค้า กล่าวว่า Tata Xenon Giant Heavy Duty เป็นรถกระบะขนาดหนึ่งตันที่ถูกออกแบบมาเพื่อการบรรทุกหนักกว่ารถในระดับเดียวกัน มีให้เลือกสองรุ่นคือเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ดีเซลเทอร์โบ ราคา 519,000 บาท และ Xenon Heavy Duty CNG Plus เครื่องยนต์ 2.1 ลิตรที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ CNG มีราคาจำหน่ายที่ 569,000 บาท
“รถกระบะสองรุ่นใหม่จะตอบสนองความต้องการของตลาดที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ปัจจุบัน Tata มีรถกระบะรวมแล้ว 6 รุ่น รวมถึงรถกระบะบรรทุกหนักด้วย” นายอภิเชต กล่าว
นายสมพงษ์ ผลจิตจรูญ ผู้อำนวยการฝ่ายรถเชิงพาณิชย์น้ำหนักเบาของ Tata Motors Thailand กล่าวว่าการบูรณาการตลาดภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะยกระดับให้บทบาทของประเทศไทยกลายเป็นสะพานเชื่อมต่อภูมิภาคจากสิงคโปร์ไปยังตอนใต้ของจีน รวมถึงจากพม่าไปยังอ่าวไทยและเวียดนาม ซึ่งจะช่วยสร้างความต้องการใช้รถเชิงพาณิชย์น้ำหนักเบาให้สูงขึ้น ทำให้ Tata ต้องนำเข้า Tata Daewoo มาจากเกาหลีเพื่อตอบสนองตลาดตรงจุดนี้
ความคิดเห็น