ไฮไลท์ภายในบูธ Lamborghini ในงานปารีส มอเตอร์โชว์ ไม่ได้มีเพียงแค่การปรับโฉมซูเปอร์คาร์รุ่นเล็กอย่าง Gallardo LP560-4 เท่านั้น หากยังรวมถึงเจ้าวัวกระทิงพันธุ์ดุอย่าง Aventador LP700-4 ปี 2013 ที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มสมรรถนะถึงแม้จะเพิ่งออกทำตลาดได้ไม่ถึงปีก็ตาม
แท้จริงแล้ว Aventador LP700-4 ได้รับการปรับปรุงมากกว่ารุ่นน้องอย่าง Gallardo ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะการติดตั้งระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ ซึ่งมีประสิทธิภาพสุดล้ำด้วยการใช้ระบบ supercaps ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เร็วกว่าระบบที่ใช้ในรถยนต์นั่งทั่วไป โดยใช้เวลาเพียง 0.18 วินาทีเท่านั้น
การใช้เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยลดน้ำหนักตัวรถลงได้ราว 3 กก.เพราะไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่อีกต่อไป “แบตเตอรี่ขนาดเล็กใน Aventador LP700-4 รุ่นปี 2013 ใช้สำหรับป้อนกำลังไฟสู่ระบบอิเลกทรอนิกเท่านั้นจึงมีขนาดเล็กและสามารถใช้งานได้ยาวนานไปตลอดอายุของตัวรถเลยทีเดียว” Lamborghini ระบุ
นอกจากนี้ Aventador 2013 รุ่นอัพเกรดยังมาพร้อมกับระบบลดการทำงานของลูกสูบหรือ Cylinder Deactivation System (CDS) ถ้าหากขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 135 กม./ชม. ระบบ CDS จะตัดการทำงานของลูกสูบลงครึ่งหนึ่ง จึงทำงานเหมือนกับเครื่อง 6 สูบแถวเรียงและเมื่อผู้ขับกระทืบคันเร่งอีก 6 สูบที่เหลือจะทำงานเต็มกำลัง
สองระบบดังกล่าวทำให้อัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยดีขึ้น 7% มีตัวเลขอยู่ที่ 6.25 กม./ลิตร แต่ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วเฉลี่ย 130 กม./ชม.บนถนนทางไกล การบริโภคน้ำมันจะดีขึ้น 20% ขณะที่การปล่อยมลพิษไอเสียก็น้อยลงเช่นกัน จากเดิม 398 กรัม/กม. ลดลงเหลือ 370 กรัม/กม.
ทีมวิศวกรของ Lamborghini ยังทำการปรับปรุงระบบแชสซีส์ของ Aventador ใหม่ด้วยการปรับสปริงให้แข็งแน่นยิ่งขึ้น พร้อมช็อกอัพที่รองรับการขับขี่มากกว่าเดิม โดยค่ายซูเปอร์คาร์อิตาเลียนรายนี้เคลมว่าสมรรถนะการควบคุมจะ “แม่นยำกว่า” ขณะเดียวกันยัง “สะดวกสบายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
นอกเหนือจากการอัพเกรดสมรรถนะ Aventador LP700-4 2013 ยังหล่อเหลากว่าเดิมด้วยล้ออัลลอยลวดลายใหม่และแพ็คเกจคาร์บอนไฟเบอร์ ทั้งสปอยเลอร์หน้า ช่องรับอากาศเข้าสู่ท่อไอดี ฝาครอบเครื่องยนต์ และการตกแต่งในห้องโดยสารให้เลือกติดตั้ง
ความคิดเห็น