เชฟโรเลต ขนทัพรถใหม่สู่งานปารีส มอเตอร์โชว์ 2012
• เผยโฉมครั้งแรกในโลก เชฟโรเลต แทรกซ์ รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก
• เชฟโรเลต สปาร์ก มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันกว่าเดิม
• ออร์แลนโด ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน เทอร์โบ 1.4 ลิตร
• ครูซ สเตชั่นวากอน ควงคู่มาพร้อม มาลิบู หัวใจขับเคลื่อนดีเซล
• รถต้นแบบยูธ คอนเซพท์เพื่อคนรุ่นใหม่ โค๊ด 130อาร์ และ ทรู 140เอส โชว์ตัวในบูธเชฟโรเลต
บูธเชฟโรเลต ในงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2012 น่าตื่นตาตื่นใจด้วยการเผยโฉมครั้งแรกในโลกของเชฟโรเลต แทรกซ์ รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมาพร้อมกับเชฟโรเลต สปาร์ก รถขนาดเล็กยอดนิยมที่ได้รับการปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ ตลอดจนยนตรกรรมหลากหลายรุ่นและบรรยากาศอันน่าตื่นเต้นภายในงาน
สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เชฟโรเลต แทรกซ์ ที่จะได้รับการเผยโฉมครั้งแรกในโลก มีกำหนดการออกจำหน่ายในช่วงต้นปี 2556 เป็นการบุกเบิกตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวีขนาดเล็กที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วครั้งแรกของเชฟโรเลต เคียงข้างกับรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งอย่างแคปติวา ขณะเดียวกัน ผู้เข้าชมบูธของเชฟโรเลต ยังจะได้สัมผัสกับสปาร์ก รุ่นปรับโฉมปี 2013 และรถต้นแบบสำหรับคนรุ่นใหม่ โค๊ด 130อาร์ และ ทรู 140เอส
บูธเชฟโรเลต ซึ่งตั้งอยู่ภายในฮอลล์ 5.2 บนเนื้อที่ 2014 ตารางเมตร ยังดึงดูดแฟนฟุตบอลเป็นพิเศษด้วยการจัด ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แฟนโซน’ เปิดโอกาสให้แฟนบอลได้มีโอกาสนั่งและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกบนเบาะในซุ้มม้านั่งสำรองที่จำลองมาจากสนามโอลด์แทรฟฟอร์ดของทีมปีศาจแดง พร้อมโลโก้โบว์ไทของเชฟโรเลต นอกจากนี้ เชฟโรเลต แทรกซ์ยังได้รับการตกแต่งในธีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนทีมฟุตบอลของเชฟโรเลต
เชฟโรเลต แทรกซ์
แทรกซ์ เป็นรถอเนกประสงค์เอสยูวีขนาดเล็กที่มาพร้อมความทันสมัย ตอบสนองการใช้งานได้ดีเยี่ยม และประหยัดเชื้อเพลิง มีสมรรถนะดุจดังรถยนต์นั่ง ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมยกระดับมาตรฐานรถในเซกเมนท์นี้ด้วยรูปลักษณ์อันมีสไตล์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3 รุ่น พร้อมบุคลิกการขับขี่แบบสปอร์ต ตอบสนองต่อการควบคุมอย่างรวดเร็วทันใจ
เครื่องยนต์มีทั้งบล็อกเบนซินเทอร์โบ 1.4 ลิตร เบนซิน 1.6 ลิตร และดีเซลเทอร์โบ 1.7 ลิตร โดยรุ่นเบนซินเทอร์โบ 1.4 ลิตร มีพละกำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ขณะที่ขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 1.7 ลิตร ให้พละกำลัง 130 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร
ทุกขุมพลังมาพร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเพื่อความประหยัดเชื้อเพลิง ทั้งนี้ ในรุ่นเบนซินเทอร์โบ 1.4 ลิตรและดีเซลเทอร์โบ 1.7 ลิตร มีระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกใช้
เนื้อที่เก็บสัมภาระของแทรกซ์รองรับได้สูงสุด 1,370 ลิตร เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 ขณะที่เบาะหน้าข้างคนขับสามารถพับให้แบนราบได้เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกติดตั้งโครงสร้างห้องโดยสารแบบ 8 ที่นั่งได้อีกด้วย
เชฟโรเลต มายลิงค์ ระบบอินโฟเทนเมนท์ที่รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน แสดงผลผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วความละเอียดสูงเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในแทรกซ์ รุ่นย่อยระดับบน สำหรับแอพพลิเคชั่นระบบนำทางเนวิเกเตอร์จะพร้อมให้ดาวน์โหลดใช้งานในช่วงต้นปีหน้า โดยจะทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน ด้วยการดึงข้อมูลเส้นทางจากมือถือขึ้นแสดงผลบนหน้าจอทัชสกรีน *
ปรับโฉม สปาร์ก เพิ่มความสดใหม่ จุดประกายแรงบันดาลใจ
สปาร์ก รุ่นปรับโฉมมาพร้อมกระจังหน้าดูอัลพอร์ทดีไซน์ใหม่ รวมถึงกันชน กรอบไฟหน้า และไฟตัดหมอกก็ได้รับการปรับเปลี่ยนเพิ่มความสดเช่นกัน สปาร์ก ยังมาพร้อมล้ออัลลอยลวดลายใหม่ขนาด 14 นิ้ว และ 15 นิ้ว เติมความสปอร์ตและแฝงด้วยความเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น
ด้านท้ายรถติดตั้งไฟเบรกแอลอีดีดวงที่สามฝังในสปอยเลอร์ซึ่งติดตั้งอยู่ด้านบนกระจก เพิ่มทัศนวิสัยด้านหลังให้แก่ผู้ขับขี่ ในห้องโดยสารผ่านการโมดิฟายด์ตกแต่งเพิ่มเติม พร้อมกับปรับดีไซน์คอนโซลกลางเพื่อเพิ่มช่องเก็บของออร์แลนโด พ่วงเทอร์โบชาร์จ ลูกค้าออร์แลนโด จะได้สัมผัสความร้อนแรงยิ่งขึ้นของขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 1.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตรที่ 1,850 – 4,900 รอบ/นาที เพิ่มจากไลน์เครื่องยนต์เดิมที่มีทั้งเบนซิน 1.8 ลิตร และดีเซล 2.0 ลิตร
เครื่องยนต์ 1.4 ลิตรรุ่นใหม่มาพร้อมกับระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดา 6 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยทั้งการใช้งานในเมืองและนอกเมืองอยู่ที่ 16.1 กม./ลิตร ขณะเดียวกัน รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรยังมีความประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 11 เปอร์เซ็นต์จากการติดตั้งเทคโนโลยีเพิ่มเติม ทั้งระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) และระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ติดตั้งในออร์แลนโด รุ่นปี 2013 ยังประกอบด้วยกล้องมองหลัง และเบาะหน้าข้างคนขับที่พับได้แบนราบ
เปิดตัว ครูซ สเตชั่นวากอน และมาลิบู ดีเซล
ด้วยการส่งครูซ สเตชั่นวากอน ออกทำตลาดสู่โชว์รูมทั่วยุโรป ทำให้เชฟโรเลต มีรถคอมแพ็กต์ที่สามารถดึงดูดลูกค้า ทั้งกลุ่มครอบครัวและกลุ่มคนโสดที่มีไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยได้อย่างครอบคลุม โดยรุ่นสเตชั่นวากอน ซึ่งโดดเด่นด้วยเนื้อที่เก็บสัมภาระสูงถึง 1,478 ลิตร เป็นการแตกไลน์จากเวอร์ชั่นซีดานและแฮทช์แบ็กที่กำลังได้รับความนิยมต่อเนื่อง
ขุมพลังขับเคลื่อนของครูซ สเตชั่นวากอน มีทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.4 ลิตร และดีเซล 1.7 ลิตร รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพิ่มเติมจากรุ่นเบนซิน 1.6 ลิตรและ 1.8 ลิตรซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้ รุ่นเครื่องยนต์ 1.7 ลิตรมีอัตราบริโภคน้ำมันประหยัดที่สุด ด้วยตัวเลข 22.2 กม./ลิตร
สำหรับมาลิบู เป็นรถรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่นสูงสุดของเชฟโรเลต ในภูมิภาคยุโรป ด้วยสไตล์แบบอเมริกันขนานแท้ มีความกว้างขวางเหลือเฟือและความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจากการทดสอบของ EuroNCAP โดยปัจจุบันรถมิดไซส์ซีดานขุมพลังดีเซลรุ่นนี้เปิดให้ลูกค้าจับจองแล้วในโชว์รูมเชฟโรเลตทั่วยุโรป
มาลิบู ขุมพลังดีเซล ผลิตพละกำลังสูงสุดที่ 160 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,750 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 9.75 วินาทีในรุ่นเกียร์ธรรมดา ความเร็วสูงสุด 213 กม./ชม.
รถต้นแบบ ยูธ คอนเซพท์ สำหรับคนรุ่นใหม่
หลังจากเผยโฉมครั้งแรกที่งานดีทรอยท์ ออโตโชว์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สองรถต้นแบบยูธคอนเซพท์ โค๊ด 130อาร์ และ ทรู 140เอส ออกโชว์ตัวเรียกเสียงฮือฮาจากผู้เข้าชมงานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นวอชิงตัน ชิคาโก เจนีวา นิวยอร์ก และปักกิ่ง กระทั่งล่าสุดคือที่ปารีส มอเตอร์โชว์ ซึ่งแฟนเชฟโรเลตชาวยุโรปจะได้สัมผัสรถต้นแบบทั้งสองรุ่นอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง
โค๊ด 130อาร์ และ ทรู 140เอส ได้รับการออกแบบโดยนิโคลัส เดวิด และโจ เบเกอร์ ดีไซเนอร์จากศูนย์การออกแบบยานยนต์นอร์ธ ฮอลลีวูดของจีเอ็ม สร้างสรรค์จากความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีทั่วสหรัฐอเมริกา ออกมาเป็นรถต้นแบบที่โชว์รูปลักษณ์ภายนอกและการใช้งานอย่างที่คนรุ่นใหม่ต้องการ
ที่ผ่านมา มีผู้สนใจจากงานแสดงเทคโนโลยียานยนต์หลายแห่ง ได้ตอบแบบสอบถามและแสดงความคิดเห็นต่อรถต้นแบบสองคันนี้ราว 16,000 คน
* ข้อมูลเบื้องต้น
LINE
ความคิดเห็น