State Farm Mutual Automobile Insurance บริษัทประกันภัยทางรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยผลวิจัยชิ้นล่าสุดระบุว่า ราว 48% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 30 ปีใช้อินเตอร์เน็ตขณะขับขี่รถยนต์
ตัวเลขอันน่าสะพรึงกลัวดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเติบโตของอุปกรณ์ไฮเทค โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอดขาย iPhone มีมากถึง 72 ล้านเครื่องในปี 2011 เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2010 ถึง 81% ส่งผลให้ผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีอายุไม่มากนักมักใช้อุปกรณ์ไฮเทคดังกล่าวพร้อมกับการขับขี่รถยนต์ไปด้วย
ผลวิจัยของ State Farm ซึ่งดำเนินการสำรวจเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาชี้ด้วยว่า การเข้าถึงเวบไซต์โซเชียลมีเดียอย่าง facebook และ twitter ขณะขับรถของผู้ขับขี่ที่มีอายุระหว่าง 18 – 29 ปี เพิ่มขึ้นจาก 21% ในปี 2011 เป็น 36% ในปีนี้ ส่วนการเช็คอีเมล์เพิ่มขึ้นจาก 32% เป็น 43% และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้กฎหมายใน 35 รัฐของสหรัฐอเมริการวมถึงกรุงวอชิงตัน ดีซี จะห้ามไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ฝ่าฝืนมากมาย ทำให้กรมการขนส่งทางบกกำลังเดินหน้าพัฒนาซอฟท์แวร์ที่จะยับยั้งการใช้มือถือขณะขับรถ ส่วนคณะกรรมการความปลอดภัยคมนาคมแห่งชาติสหรัฐฯ ก็กำลังผลักดันกฎหมายห้ามใช้มือถือให้มีผลบังคับใช้ทั้ง 50 รัฐ
“การใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเข้าอินเตอร์เน็ตนั้นทำให้ผู้ขับขี่ขาดสมาธิอย่างมาก” Chris Mullen ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีของ State Farm กล่าว “ทั้งกฎหมาย การบังคับใช้ การให้ความรู้และเทคโนโลยี ล้วนมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหานี้”
ในปี 2010 อุบัติเหตุที่เกิดจากการขาดสมาธิขณะขับขี่ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 3,092 ราย บาดเจ็บกว่า 400,000 รายในสหรัฐฯ
LINE
ความคิดเห็น