กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 13 พฤศจิกายน 2555 – ฟอร์ด ประเทศไทย จัดกิจกรรมทดสอบฟอร์ด โฟกัส ใหม่ เพื่อพิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านอัตราการประหยัดน้ำมัน ด้วยการทดสอบในระยะทางไกลโดยใช้น้ำมันเพียงหนึ่งถังจากจังหวัดกรุงเทพฯ สู่จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในการทดสอบครั้งนี้บริษัทฯ ได้นำฟอร์ด โฟกัส ใหม่ มาใช้ในการทดสอบทั้งหมด 12 คัน และได้รับเกียรติจากผู้สื่อข่าวสายยานยนต์ทั้งหมด 12 ท่าน เป็นผู้ขับเพื่อทำการทดสอบ โดยฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ทั้ง 12 คันนี้ได้แบ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค ขนาด 2.0 ลิตร Ti-VCT GDi ใหม่ จำนวน 6 คัน และเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค ขนาด 1.6 ลิตร Ti-VCT จำนวน 6 คัน โดยฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ที่นำมาทดสอบนั้นติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด
การทดสอบการประหยัดน้ำมันของฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ในครั้งนี้ได้รับการติดตามและประเมินผลอย่างเป็นอิสระโดยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิจากบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
หลังสิ้นสุดการทดสอบพบว่า ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ รุ่นสปอร์ต พลัส แฮทช์แบค 5 ประตู เครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค ขนาด 2.0 ลิตร Ti-VCT GDi ที่ได้ติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 18.84 กิโลเมตร/ลิตร โดยใช้น้ำมันเพียงหนึ่งถังสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 1,048 กิโลเมตร
“ผลการทดสอบอัตราการประหยัดน้ำมันของฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ที่เกิดขึ้นจากการขับด้วยความเร็วแบบการใช้งานจริง ตามสภาพการจราจรที่เกิดขึ้นจริงนั้น ชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ เป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันในรถเซกเม้นต์นี้” คุณยุคนธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย และบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว “การประหยัดน้ำมันได้อย่างเหนือชั้นนี้เอง คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้ขับรถฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของได้ดีเยี่ยมที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อนในรถระดับเดียวกัน”
ทั้งนี้ ตลอดการทดสอบ ฟอร์ดกำหนดให้ผู้ขับรักษาความเร็วเฉลี่ยที่ค่อนข้างสูงถึงแม้จะต้องเผชิญกับลมฝนที่ตกหนักตลอดเส้นทาง ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจากถนนสาทรใจกลางกรุงเทพฯ ผ่านเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 สู่หัวเมืองใหญ่ในจังหวัดภาคใต้
ในการทดสอบครั้งนี้ ฟอร์ด ประเทศไทย ยังได้กำหนดมาตรฐานในการทดสอบรถทุกคัน และกำหนดวิธีการขับขี่ให้เป็นไปตามการใช้งานจริง ทำให้ผู้ทดสอบต้องใช้ความเร็วเฉลี่ยตลอดระยะเวลาในการเดินทางไม่ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอยู่ภายใต้กฎจราจรอย่างเคร่งครัด อาทิ การขับผ่านเข้าเมืองใหญ่ต่างๆ ต้องใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด นั่นหมายความว่า บางช่วงเวลาเช่นการเร่งแซง ผู้ขับต้องทำความเร็วสูงกว่า 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อรักษาความเร็วเฉลี่ยให้เป็นไปตามข้อกำหนดในการทดสอบ
นอกจากนี้ ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ทุกคันจะต้องเปิดระบบปรับอากาศ ตั้งค่าความเย็นไว้ที่ระดับกึ่งกลาง และตั้งค่าพัดลมที่หมายเลข 2 สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค 1.6 ลิตร Ti-VCT และค่าพัดลมที่ระดับ 3 สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค 2.0 ลิตร Ti-VCT GDi รวมทั้งต้องใช้แรงดันลมยางตามมาตรฐานการใช้งานที่กำหนดจากโรงงาน ซึ่งกำหนดในคู่มือประจำรถทุกคันคือ 33 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
รายงานผลการทดสอบจากบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน มีรายละเอียดดังนี้
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Ti-VCT GDi พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด (รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส ซีดาน 4 ประตู )
ระยะทางรวม: 1,024 กิโลเมตร
ความเร็วเฉลี่ย: 79.79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อัตราสิ้นเปลือง: 18.40 กิโลเมตรต่อลิตร
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Ti-VCT GDi พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด (รุ่นสปอร์ต พลัส แฮทช์แบค 5 ประตู)
ระยะทางรวม: 1,048 กิโลเมตร
ความเร็วเฉลี่ย: 79.80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อัตราสิ้นเปลือง: 18.83 กิโลเมตรต่อลิตร
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร Ti-VCT พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด แบบซีดาน 4 ประตู
ระยะทางรวม: 1,044 กิโลเมตร.
ความเร็วเฉลี่ย: 78.79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.
อัตราสิ้นเปลือง: 18.76 กิโลเมตรต่อลิตร
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร Ti-VCT พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด แบบแฮทช์แบค 5 ประตู
ระยะทางรวม: 989 กิโลเมตร
ความเร็วเฉลี่ย: 80.30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อัตราสิ้นเปลือง: 17.77 กิโลเมตรต่อลิตร
ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ เปิดตัวสู่ตลาดด้วยรูปลักษณ์ใหม่โดยแบ่งออกเป็น 4 รุ่นด้วยกัน โดยรุ่นเริ่มต้นคือ แอมเบี้ยนต์ รุ่นกลางคือ เทรนด์ สปอร์ต และไทเทเนี่ยม ตลอดจนถึงรุ่นท็อปที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและล้ำสมัยคือ รุ่นสปอร์ต พลัส และไทเทเนี่ยม พลัส
รูปโฉมด้านหน้าที่โดดเด่น ตัวถังด้านข้างที่สะท้อนความหรูหรา เส้นด้านข้างตัวถังที่ตวัดสูงขึ้น และท่วงท่าประหนึ่งนักกีฬาที่พร้อมทะยานไปข้างหน้าคือองค์ประกอบด้านการออกแบบสไตล์สปอร์ตภายใต้แนวทางการออกแบบเคเนอติก ดีไซน์ อันเลื่องชื่อที่มีอยู่ในฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ทั้งรุ่น 4 และ 5 ประตู
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ เปิดตัวพร้อมอุปกรณ์อันชาญฉลาดและเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายในราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถระดับเดียวกัน
สุดยอดเทคโนโลยีอันโดดเด่นของโฟกัส ใหม่ นั่นคือ ระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร ฟอร์ด ซิงค์ โดยไมโครซอฟท์ ซึ่งได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ระบบดังกล่าวช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือเล่นเพลงโปรดในรถได้ด้วยการใช้คำสั่งเสียง เทคโนโลยีอันทันสมัยที่มอบการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ มากมายแบบ Hands-free ผ่านการใช้คำสั่งเสียงนี้จะติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถรุ่นเทรนด์และรุ่นที่สูงขึ้นไป
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เทียบจอดข้างทางได้แบบ Hands-free เป็นเทคโนโลยีอันทันสมัยที่วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในอาเซียน ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นสปอร์ต พลัส และไทเทเนียม พลัส
เทคโนโลยีอื่นๆ อาทิ ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำที่ช่วยลดโอกาสในการชนเมื่อขับที่ความเร็วต่ำ และระบบตรวจจับรถในจุดบอดที่ช่วยเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถวิ่งเข้ามายังส่วนที่เป็นจุดบอดของรถ เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการติดตั้งในรถเซกเม้นต์นี้เป็นครั้งแรก โดยระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นสปอร์ต พลัส และไทเทเนียม พลัส ส่วนระบบตรวจจับรถในจุดบอด ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นไทเทเนียม พลัส
อุปกรณ์อันชาญฉลาดอื่นๆ ประกอบด้วย กุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติที่จะติดตั้งในฟอร์ด โฟกัส ใหม่ รุ่นสปอร์ตและไทเทเนียมรวมทั้งรุ่นที่สูงขึ้นไป
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทคใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร Ti-VCT GDi ที่ผสานการทำงานของระบบเบนซินไดเร็กอินเจ็กชั่น (GDi) เข้ากับระบบแปรผันแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ (Ti-VCT) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และการประหยัดน้ำมัน และเครื่องยนต์ดูราเทค 1.6 ลิตร Ti-VCT
เมื่อผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด และพวงมาลัยแบบไฟฟ้า พวงมาลัยพาวเวอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (EPAS) จะสามารถช่วยเพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 3 เปอร์เซนต์ และเมื่อรวมกับระบบกระจังหน้าแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ และในขณะเดียวกันสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ซึ่งใช้การจ่ายน้ำมันด้วยระบบเบนซินไดเร็กอินเจ็กชั่น หรือ GDi นั้นมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 156 กรัมต่อกิโลเมตร
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ทั้งรุ่น 2.0 ลิตร และ 1.6 ลิตร ได้ติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด อันทันสมัย ซึ่งมอบประสิทธิภาพการตอบสนองได้แบบเดียวกับเกียร์ธรรมดา และมอบความสะดวกสบาย ความนุ่มนวลได้เช่นเดียวกันกับระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วไป
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ มียอดจองสูงกว่า 4,500 คันในประเทศไทย หลังบริษัทประกาศการจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้เพียง 3 เดือน นอกจากนี้ ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ยังพร้อมจำหน่ายทั้งในรุ่นแฮทช์แบค 5 ประตู และแบบซีดาน 4 ประตู ในราคา 759,000 – 1,079,000 บาท
LINE
ความคิดเห็น