สิ้นสุดการรอคอย Chevrolet Corvette C7 Stingray มัสเซิลคาร์อเมริกันเจนเนอเรชั่นที่ 7 Share this

สิ้นสุดการรอคอย Chevrolet Corvette C7 Stingray มัสเซิลคาร์อเมริกันเจนเนอเรชั่นที่ 7

Admin
โดย Admin
โพสต์เมื่อ 14 January 2556

รถอเมริกันมัสเซิลคาร์ที่ขายดีที่สุดและเป็นที่กล่าวถึงมากที่สุดบนแผ่นดินอเมริกาเหนืออย่าง Chevrolet Corvette C7 Stingray เจนเนอเรชั่นที่เจ็ดได้ฤกษ์เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว นับเป็นการใช้ชื่อพ่วงท้าย “Stingray” เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ หลังจากเคยใช้มาแล้วใน Corvette รุ่นที่สอง (ปี 1963 – 1967) และเจนเนอเรชั่นที่สาม (ปี 1969 – 1976)

Chevrolet Corvette C7 Stingray เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานดีทรอยท์ ออโต้โชว์ ก่อนออกจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้

สัดส่วนทรวดทรวงและดีไซน์รอบคันของ Corvette C7 Stingray ยังคงเอกลักษณ์ที่สืบสานมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ แต่ C7 ฉีกกรอบเดิมออกไปเล็กน้อยที่กรอบไฟท้ายซึ่งเปลี่ยนจากไฟดวงกลมหรือเหลี่ยมกลมคู่มาเป็นกรอบไฟชุดเดียว ขณะที่กระจกบังลมด้านข้างที่เยื้องมาทางท้ายรถนั้นเป็นการหยิบยืมสไตล์มาจากเจนเนอเรชั่นแรก

หลายส่วนของการออกแบบภายนอกถูกถ่ายทอดมาจากรถคอนเซ็พท์ 2009 Stingray ที่เคยปรากฏโฉมในบทบาท Sidewipe ในภาพยนตร์ฮอลลีวูดทรานส์ฟอร์เมอร์สมาแล้ว

ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า Corvette C7 Stingray จะโดดเด่นสะดุดลูกค้าและจะขึ้นแท่นเป็นรถคลาสสิกหรือไม่ แต่สามารถพูดได้ว่า Chevrolet เน้นการออกแบบเพื่อเอาใจทั้งกลุ่มลูกค้ารุ่นเก่าและลูกค้าคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักหันไปนิยมชมชอบรถสปอร์ตญี่ปุ่นอย่าง Nissan GT-R มากขึ้น

ภายในห้องโดยสารของ Corvette C7 Stingray เน้นให้โอบล้อมผู้ขับขี่มากเป็นพิเศษ ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่มาตรวัดซึ่งใช้หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 8 นิ้วแทนเข็มอนาล็อกแบบเดิมๆ พร้อมกับมีจอขนาดใหญ่แสดงผลอินโฟเทนเมนท์และระบบนำทางอยู่บนกลางคอนโซลหน้าอีกหนึ่งตัว

Chevrolet ระบุว่าได้ทำการปรับปรุงคุณภาพวัสดุเช่นกัน เพียบพร้อมทั้งคาร์บอนไฟเบอร์ อลูมิเนียมและหนังตัดเย็บด้วยมือ ลูกค้าสามารถเลือกเบาะที่นั่งได้สองรูปแบบซึ่งทำจากเฟรมแม็กนีเซียมน้ำหนักเบาทั้งคู่ ขณะที่ตัวถังเน้นรีดน้ำหนักเป็นพิเศษ ทั้งฝากระโปรงและหลังคาทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซุ้มล้อ ประตูและด้านท้ายรถทำจากวัสดุผสมคอมโพสิต พื้นรถทำจากคาร์บอน-นาโนและใช้โครงสร้างตัวถังอลูมิเนียม โดยยักษ์อเมริกันไม่ได้บอกตัวเลขน้ำหนักตัวรถ แต่ระบุว่า “มีการรักษาสมดุลน้ำหนักหน้า-หลังอยู่ที่ 50-50”

Corvette C7 Stingray จะขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง V8 รุ่นใหม่ล่าสุดรหัส LT1 ความจุกระบอกสูบ 6.2 ลิตร หัวฉีดตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ใช้ระบบจัดการเชื้อเพลิง Active Fuel Management และวาล์วแปรผัน ตลอดจนระบบเผาไหม้ที่ล้ำสมัย

เครื่องยนต์ V8 รุ่นนี้ให้พละกำลังสูงสุดที่ 450 แรงม้า แรงบิด 610 นิวตันเมตร ทำให้ Corvette C7 ทรงพลังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ Chevrolet เคลมด้วยว่ามัสเซิลคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะมีอัตราบริโภคน้ำมันที่เหนือกว่ารุ่นเดิมซึ่งอยู่ที่ 11 กม./ลิตร

Corvette C7 ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลาต่ำกว่า 4 วินาที จิกเข้าโค้งได้อย่างเหนียวแน่นหนึบโดยสามารถสร้างแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางได้มากถึง 1G ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและระบบเกียร์ธรรมดา 7 สปีดพร้อมระบบ Active Rev Matching ควบคุมรอบเครื่องยนต์ให้สมดุล

Chevrolet ระบุว่า ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับได้ 5 โหมดซึ่งจะปรับสภาวะตัวรถให้แตกต่างกันถึง 12 รูปแบบให้เข้ากับสไตล์การขับขี่มากที่สุด

ยักษ์ใหญ่จากดีทรอยท์ยังจะนำเสนอรถสมรรถนะสูง Z51 Performance Package ที่มาพร้อมลิมิเต็ดสลิปอิเลกทรอนิก ระบบอ่างน้ำมันเครื่องแห้ง เบรกประสิทธิภาพสูง ระบบระบายความร้อนเฟืองท้ายและเกียร์ รวมถึงชุดแอโรพาร์ทเพิ่มความลู่ลม


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ