AutoSpinn Channel ในสัปดาห์นี้ เราจะพาทุกท่านไปพบกับวีดีโอทดสอบรถยนต์ Proton Exora Turbo ที่กลับมาพร้อมหน้าตาที่สปอร์ตขึ้นพร้อมหัวใจใหม่แบบ 1.6 ลิตร เทอร์โบ ในช่วง Motor Drive
Motor Drive Esp.2 : Test Drive Proton Exora Turbo
Test Drive Proton Exora Turbo
สำหรับช่วง Motor Drive ในวันนี้เราจะพาทุุกท่านไปสัมผัสกับรถยนต์อเนกประสงค์ในแบบ Compact MPV ซึ่งเป็นฝีมือการผลิตของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย กับเจ้า Proton Exora Turbo ใหม่ ที่ปรับรูปโฉมให้ดูสปอร์ตเร้าใจมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มพิษสงให้กับขุมพลังด้วยเทคโนโลยีของระบบอัดอากาศที่ช่วยรีดพละกำลังได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสมรรถนะจะเป็นอย่างไรเดี๋ยวเราไปดูกัน
Exora Story
Proton Exora ถือเป็นยานยนต์ในแบบ MPV ขนาด 6 ที่นั่งคันแรกที่ผลิตขึ้นเองในมาเลเชียภายใต้แบรนด์ Proton ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี 2009 ที่มาพร้อมกับขุมพลังขนาด 1.6 ลิตร Campro CPS ซึ่งมีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด , เกียร์ออโต้ 4 สปีด และแบบ CVT 6 สปีด ซึ่งทำตลาดต่อเนื่องมาจนถึงปี 2011 จึงได้ฤกษ์เปิดตัวรุ่น Minor change ช่วงเดือนธันวาคมที่มาเลเซียเอง ก่อนจะเปิดตัวที่เมืองไทยในช่วงกลางปี 2012 ที่ผ่านมา พร้อมค่าตัวเพียง 879,000 บาท ในรุ่น High-line และรุ่น Prime ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษ ในราคา 919,000 บาท
Design&Interior
ถึงแม้ว่า Exora Turbo ใหม่คันนี้จะเป็นแค่รุ่น Minor change ซึ่งยังคงใช้แพลทฟอร์มตัวถังเดียวกับรุ่นก่อนก็ตาม แต่มันกลับดูดีขึ้นจนผิดหูผิดตา ต่างกับรถจากบางค่ายที่ดูแทบไม่ออกมาปรับโฉมแล้ว แต่ Exora Turbo นั้นได้เสริมหล่อจนแทบไม่เหลือคราบของรถครอบครัวหน้าตาติ๋มๆไว้เลย ตั้งแต่ด้านหน้าที่เปลี่ยนใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟหน้าแบบรมดำ พร้อมด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมไฟตัดหมอกทรงกลม ที่เพิ่มช่องดักลมแนวตั้งเข้าไปทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้มันดูดุดันมากขึ้น บนเส้นสายที่เฉียบคมรับกับชุดสเกิร์ตข้างและกันชนหลังดีไซน์สปอร์ตแบบทูโทนซึ่งช่วยทำให้มันดูสปอร์ตลงตัวกับไฟท้ายแบบ LED ที่เปลี่ยนเป็นโคมใสแบบรมดำสไตล์เดียวกับไฟหน้า พร้อมด้วยกระจกมองข้างพร้อมไฟแบบ LED ที่เพิ่มฟังชั่นพับไฟฟ้ามาให้ ก่อนจะปิดท้ายด้วยล้อแม็กชุดใหม่ที่ดูดีทั้งดีไซน์และขนาดไซด์ที่ลงตัวมากขึ้นที่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/55R16 และโลโก้บอกความแรง เป็นตัวย่อ CFE แทน CPS ในรุ่นเดิมแบบไม่มีมีโบ
จากนั้นมาต่อกันที่ห้องโดยสารกันบ้าง ซึ่งเมื่อเทียบกับของเดิมใน Exora รุ่นก่อนนั้น คันนี้ถือว่าจัดเต็มด้วยออฟชั่นจนเกินราคา พร้อมปรับบรรยากาศภายในให้ดูสปอร์ตขึ้น จากการเพิ่มสีสันด้วยเบาะหนังแบบทูโทน ที่ตกแต่งด้วยหนังสีน้ำตาลอ่อน แบบเดียวกับที่บริเวณแผงประตูทั้ง 4 บาน ตัดกับวัสดุโครเมี่ยมและวัสดุสีเข้มลายคล้ายเคฟล่าที่ตัวครอบคอนโชลกลาง รวมถึงมาตรวัดดีไซน์พื้นๆแบบเรืองแสงสีแดงขาวเข้ากับแสงสีภายในที่ใช้โทนสีเดียวกัน พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบชุดเล็กที่บอกแค่ระยะทาง Trip A และ B กับตัวเลขบอกระยะทางที่สามารถวิ่งได้โดยคำนวนจากน้ำมันที่เหลือในถังเท่านั้นไม่มีอะไรพิเศษ
เพราะส่วนที่พิเศษนั้นคือฟังชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆแบบ Combo Set ซึ่งถือเป็นงานถนัดของ Proton อยู่แล้วในการจัดชุดสุดคุ้มในราคาที่แสนประหยัด ซึ่งยกชุดมาจากรุ่นก่อนตัว H-Line ที่มีให้ตั้งแต่ พวงมาลัย 3 ก้านหุ้มหนังแท้แบบมัลติฟังชั่นที่ใช้ควบคุมเครื่องเสียงกับโทรศัพท์มือถือได้ พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ Cruise Control แบบก้านที่ซ่อนอยู่หลังพวงมาลัยฝั่งขวา ซึ่งงานได้ไม่ยากแต่ดูไม่สวยงามนัก ส่วนระบบเอนเทอร์เทนเมนท์นั้น Exora Turbo จัดวิทยุ CD MP3 และ Bluetooth จากจ้าวประจำ Clarion กับเครื่องเล่น DVD พร้อมจอ LCD ขนาด 8.5 นิ้ว ที่มีช่องเสียบ SD/MMC การ์ด และ USB port มาให้เพื่อเพิ่มความบันเทิงให้กับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมของแถมพิเศษเฉพาะ Exora ใหม่ นั่นคือกล้องมองภาพด้านหลังพร้อมจอแสดงภาพที่กระจกมองหลัง ซึงถือเป็นฟังชั่นที่หาดูได้ยากในรถครอบครัวราคาประหยัด แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ดีทั้งภาพที่คมชัด จากจอขนาดกำลังดี อีกทั้งยังมีเส้นกะระยะมาให้กับเซ็นเซอร์ถอยหลัง เรียกว่าเตือนกันทั้งภาพและเสียงเลยทีเดียว
Engine & Performance
สำหรับขุมพลังใต้ฝากระโปรงเจ้า Exora Turbo ใหม่คันนี้นั้น ได้เปลี่ยนจากเครื่องยนต์เดิมแบบ CamPro CPS 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ความจุ 1.6 ลิตร 125 แรงม้า 150 นิวตันเมตร ในรุ่นก่อน เป็นขุมพลังใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมในบ้านของ Proton โดยมี Lotus เป็นที่ปรึกษา พร้อมตอกรหัสใหม่เป็น CFE ที่ย่อมาจากคำว่า (CamPro Charged Fuel Efficiency) ซึ่งตีความได้ว่าเป็นการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลือง จากพื้นฐานเครื่องยนต์แบบ CamPro 1.6 ลิตร ที่ใช้อยู่ใน Gen-2 และ Exora เดิม และอีกหลายโมเดล ที่นำมาผูกโบเป็นของขวัญเพื่อช่วยให้มันจัดจ้านและขับสนุกมากขึ้น ด้วยระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จ พร้อมระบายความร้อนด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ จนทำให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 138 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดที่เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 50% ที่ระดับ 205 นิวตันเมตร และเรียกใช้งานได้ตั้งแต่รอบต่ำที่ 2,000 ไปจนถึง 4,000 รอบบ/นาที
โดยส่งถ่ายกำลังผ่านเกียร์ลูกใหม่แบบ CVT ที่ช่วยรักษาระดับแรงบิดให้ต่อเนื่องในช่วงเปลี่ยนเกียร์ และรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลราบรื่นในการขับขี่แบบปกติที่ตำแหน่งเกียร์ D แต่จะมีรอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่าเครื่องยนต์ 1.6 แบบ NA เล็กน้อย เพื่อให้มีการตอบสนองที่เหมาะกับเครื่องยนต์เทอร์โบที่ต้องการอัตราเร่งที่จัดจ้านตั้งแต่ในช่วงต้น โดยที่ความเร็ว 80 รอบเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 1,800 รอบ ก่อนจะกระโดดไปถึง 2,200 และ 2,600 รอบ ที่ความเร็ว 100 และ 120 กม./ชม. ตามลำดับ
ซึ่งจากที่ได้ทดสอบอัตราเร่งพบว่า Exora Turbo นั้นโดดเด่นในช่วงสปีดต้น หลังกดคันเร่งที่มีช่วงหน่วงก่อนออกตัวราวครึ่งวิ ก่อนล้อจะหมุนฟรีอย่างรวดเร็วโดยที่มีรอบเครื่องยนต์ที่ดีดตัวมารอรับได้อย่างทันใจตั้งแต่ช่วงเกือบ 2,000 รอบ ซึ่งจะรู้สึกได้ถึงแรงดึงทันที ก่อนจะรักษาระดับและค่อยๆไต่ความเร็วอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 4,500 รอบ ไปจนถึง 5,500 รอบ/นาที โดยมีตัวเลขคอนเฟิร์มฝีเท้าจากการทดสอบที่ 11.77 วินาที ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. และที่พิกัดควอเตอร์ไมล์ด้วยเวลาเพียง 18.69 วินาที ก่อนจะทำความเร็วสูงสุดได้เกินกว่า 180 กม./ชม. พร้อมตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 10.83 กม./ลิตร บนระยะทางเกือบ 300 กม. ที่ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 90 กม./ชม. จากน้ำมัน E20 ที่อยู่ในถังขนาด 55 ลิตร
Handling & Ride & Break
จากนั้นมาดูกันต่อที่แฮนด์ลิ่งในการขับขี่ ซึ่ง Exora Turbo คันนี้ยังคงโชว์เหนือได้ไม่ต่างจากรถโปรตอนอีกหลายๆรุ่นที่เคยได้ทดสอบมา ด้วยช่วงล่างที่เฟิร์มกว่ารถประเภทเดียวกันชัดเจน บนพื้นฐานช่วงล่างแบบธรรมดาๆ คือด้านเป็นแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบคานบิด ทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง แต่มันกลับให้การยึดเกาะถนนที่มั่นใจได้จนเกินตัว รวมถึงการบังคับควบคุมแบบ P&H หรือ Proton Ride & Handling ผ่านพวงมาลัยแบบไฮโดลิกที่ให้น้ำหนักและความมั่นคงที่ดีกว่าพวงมาลัยยอดฮิตแบบไฟฟ้าโดยเฉพาะตอนเข้าโค้งที่ความเร็วสูงเกิน 100 กม./ชม. ที่มันไม่แสดงอาการใดๆให้เห็น และสามารถเดินคันเร่งผ่านไปได้แบบเนียนๆ ต่างกับตอนขับที่ความเร็วต่ำ ซึ่งมันก็หนักเอาเรื่องจนต้องออกแรงสาวกันจนเมื่อยโดยเฉพาะตอนถอยจอด
ส่วนในด้านของความนุ่มนวลของช่วงล่างนั้น Exora Turbo ให้ความรู้สึกที่นั่งสบายสไตล์รถครอบครัวอยู่ในระดับกลาง ไม่ถึงกับนิ่มจนยวบยาบเหมือน MPV ทั่วๆไปและไม่แข็งกระด้างจนรับไม่ได้ สมกับที่เป็นลูกหม้อของรถสปอร์ตค่ายดังอย่าง Lotus ที่ทำให้มันขับดีเกินคาดเลยทีเดียว สุดท้ายคือระบบเบรกและความปลอดภัยที่ Proton ได้เพิ่มชุดดิสก์เบกหลังมาให้ กับระบบความปลอดภัยชุดเล็กที่มี ABS กับ EBD เพื่อให้อุ่นใจว่าน่าจะพอรับมือกับความแรงที่เพิ่มขึ้น เพียงแต่ต้องออกแรงกดมากหน่อยจึงจะเอาอยู่ได้ไม่ยาก
Tester Verdict
สรุปแล้ว Proton Exora Turbo ใหม่ คันนี้ มีจุดเด่นชัดเจนตั้งแต่รูปร่างหน้าตาที่สปอร์ตโดนใจกว่า MPV จ่ายกับข้าวหน้าตาจืดๆ ในโฉมที่แล้วอยู่หลายขุม รวมถึงออฟชั่นต่างๆที่ถึงแม้จะมีเพิ่มมาจากเดิมไม่มากนัก แต่มันก็จัดอยู่ในระดับหัวแถวถ้าวัดกันที่จำนวน เช่นเดียวกับขุมพลังที่จัดจ้านขึ้นจนทำให้มันขับสนุกกว่าเดิม ทั้งอัตราเร่งและช่วงล่างแน่นนหนึบ ทำคะแนนแซงหน้าคู่แข่งในคลาสเดียวกันได้สบายๆ เสียอย่างเดียวที่ความคุ้มค่าต่างๆเหล่านี้ จะต้องถูกบีบไว้ภายใต้ต้นทุนที่ต่ำ จนทำให้คุณภาพและมาตรฐานบางอย่างต้องหายไปตามราคาค่าตัว เท่านั้นเอง...
Specification : Proton Exora 1.6T CVT (H-Line)
รายละเอียดการผลิต
รุ่นปี: 2012
ประเทศผู้ผลิต: Malaysia
ผู้จำหน่ายในประเทศไทย: บริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด
ประเภทรถยนต์: MPV
ราคา (ล้านบาท) 0.879
Dimension: (มม.)
Length: 4,592
Width: 1,809
Height: 1,691
Wheelbase: 2,730
Weight 1,486
Engine
รุ่น CamPro CFE
แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Turbo Charged Intercooler
ความจุ (ซีซี) 1.6 ลิตร
กำลังสูงสุด(ps.@rpm.) 138@ 5,000
แรงบิดสูงสุด(Nm.@rpm.) 205@ 2,000 -4,000
เชื้อเพลิง เบนซิน 95,91 แก๊สโซฮอล์ 95,91 และ E20
ความจุถังน้ำมัน(ลิตร) 55
Drivertrain
ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า
เกียร์อัตโนมัติ CVT 6 สปีด
Steering
แบบ แร็คแอนด์พิเนียนพร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฮดรอลิก
วงเลี้ยวแคบสุด (ม.) 5.4
Suspension
หน้า อิสระแม็กเฟอร์สันสปริงตรัท
หลัง ทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง
หน้า ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน
หลัง ดิสก์เบรก
ระบบความปลอดภัย ABS/EBD / Dual SRS Airbag
Wheel+Tire
ล้ออัลลอย 16 ยาง 205/55R16
Test Result
รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็วต่างๆที่เกียร์ CVT
km./h rpm.
80 1,800
100 2,200
120 2,600
140 3,200
รอบเครื่องยนต์สูงสุด (Stop) 5,500
Acceleration (km./h) sec.
0-100 11.77
Quarter Mile 0-402 m. 18.69
Top Speed 180+
Consumption (km./l.)
AVR. 10.83
ขอบคุณ
บริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด
ความคิดเห็น