และแล้วการแข่งสุดหฤโหดที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับค่ายรถยนต์อย่าง Honda ที่บรรดานักข่าวต้องตะลึงกับหมายกำหนดการในการแข่งขันรายการ Honda Civic & CR-V Fuel Challenge 2013 เส้นทางกรุงเทพ - น่าน - หลวงพระบาง ซึ่งฟังดูอาจไม่ตื่นเต้น แต่มันคือเส้นทางประวัติศาสตร์ของ Honda Civic และ CR-V เลยทีเดียว ซึ่งมันจะตื่นเต้นเร้าใจแค่ไหนนั้น เดี๋ยวเราไปดูกันเลย
เริ่มต้นการแข่งขันในวันแรกจากจุดสตาร์ทซึ่งทางบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นัดเจอกับสื่อมวลชนสายยานยนต์กว่า 40 ชีวิตพร้อมกันที่ศูนย์ฝึกอบรมบางชันตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา "ขอย้ำว่าเช้ามากๆ" เพราะทางทีมงานกำหนดเวลาไว้ให้เริ่มล้อหมุนกันตอน 6 โมงเช้า..ซึ่งแน่นอนว่านักข่าวทุกท่านต้องเบิ่งตากันไม่ต่ำกว่าตี 4 ครึ่งแน่นนอน ก่อนจะมาถึงและออกสตาร์ทกันแบบงัวเงียเล็กน้อยกับ Honda Civic ใหม่ โฉม FB ทั้งหมด 10 คันซึ่งมีใช้แข่งขันกันแบบครบทั้ง 2 รุ่น คือ 1.8 และ 2.0 โดยแบ่งน้ำมันเชื้อเพลิงออกเป็น 2 แบบ คือครึ่งนึงใช้แก๊สโซฮอล์ 95 ส่วนที่เหลือจะเติมน้ำมัน E85 เพื่อพิสูจน์ว่า จากกรุงเทพฯ ถึง จังหวะดน่าน คันไหนจะประหยัดน้ำมันได้มากที่สุด
โดยมีการกำหนดจุดแวะพักต่างๆเพื่อทำกิจกรรมเพื่อเพิ่มคะแนนสำหรับคันที่เข้าจุดได้ตามเวลาที่กำหนด พร้อมพักผ่อนดื่มน้ำดื่มท่ากันให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางกันต่อไปโดยแต่ละครั้งในการแวะพักจะมีการเปลี่ยนคนขับเพื่อให้ทุกคนในรถได้มีโอกาสได้ใช้ความสามารถในการแข่งขันครั้งนี้ทกๆคน ซึ่งเส้นทางในช่วงแรกก่อนแวะพักรับประทานอาหารกลางนั้นจะเป็นเส้นทางไฮเวย์ปกติ 4 เลนที่ให้ผู้ขับขี่ขับกันแบบ ชิล ชิล ก่อนจะเริ่มโยกย้ายซ้าย/ขวาตามโค้งต่างๆบนทางขึ้นเขาในช่วงสุดท้าย ก่อนจะสิ้นสุดการแข่งขันตรงเส้นชัยที่โชว์รูมฮอนด้า จ.น่าน ซึ่งรถคันที่ผมและสมาชิกอีก 3 ท่าน ใช้ในการแข่งขันครั้งเป็นรุ่น 1.8 ลิตร ที่เติมน้ำมัน E85 มาเต็มถังพร้อมติดสติกเกอร์เบอร์ 8 ซึ่งผมบัดดี้อีก 3 ท่านตกลงกันว่าเราจะขับกันแบบใช้งานจริงโดยไม่หวังผลในเรื่งของชัยชนะ โดยใช้ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 100 - 120 กม./ชม. ตลอดระยะทางกว่า 670 กม. ที่ส่งผลให้เราเข้าเส้นชัยกันไปแบบน้ำมันเกลี้ยงถังพอดีที่โชว์รูม Honda จังหวัดน่าน โดยคิดออกมาเป็นตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองได้ 13.80 กม./ลิตร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ใช้ได้เลยทีเดียวสำหรับการขับแบบใช้งานจริงของ Honda Civic 1.8 ใหม่ ที่ใช้ความเร็วในการขับเฉลี่ยกว่า 100 กม./ชม.แถมยังเปิดแอร์เย็นฉ่ำตลอดการเดินทางอีกด้วย ส่วนคันที่วิ่งได้ประหยัดที่สุดนั้นเป็นรุ่น 1.8 ลิตร เช่นกันและเติมน้ำมัน E85 เหมือนกันแต่ทำตัวเลขอัตรสิ้นเปลืองได้สูงถึง 19.77 กม./ลิตร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ประหยัดมากๆ และที่สำคัญคือตัวเลขการการเติมน้ำมันเพื่ิคำนวณอัตราบริโภคน้ำมันนั้นใกล้เคียงกับตัวเลขที่โชว์บน On-Borad ด้วย..ก่อนปิดท้ายการเดินทางด้วยการพักผ่อนชมวัดวาอารามและสถาปัตยกรรมที่สวยงามในเมืองน่าน และรับประทานอาหารค่ำกันในแบบล้านนาด้วยชุดขันโตกสำรับใหญ่ ก่อนจะเดินทางกลับสู่ที่พักเพื่อแยกย้ายกันพักผ่อนให้เติมที่เพื่อชาร์ตพลังก่อนจะถึงรุ่งเช้าที่คาดว่าน่าจะโหดกว่าเดิมแน่นนอนกับการเดินทางสูหลวงพระบางในสปป.ลาว
เช้ามืดวันที่ 31 เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมคำกว่า Morning Call เหมือนเป็นสัญญาณสตาร์ทการแข่งขันที่ผิดเวลาไปนิด ตั้งแต่ตี 5 ก่อนจะออกสตาร์ทจริงร่วมๆ 6 โมงครึ่ง และในวันนี้จะเป็นวันแรกของการแข่งขันประหยัดน้ำมันโดยใช้ Honda CR-V ทุกรุ่นทั้งหมด 10 คัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 2.0 , 2.4 ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อออกเดินทางจากจังหวัดน่านสู่ ประเทศลาว ผ่านทางด่านห้วยโก๋นโดยทีมเราจับฉลากได้ CR-V รุ่น 2.0 ขับเคลื่อน 4 ล้อโดยยังใช้หมายเลข 8 เหมือนเดิมเพื่อให้ง่ายต่อการสรุปผลการแข่งขันรวมซึ่งจะประกาศผลวันนี้หลังจากที่เราเดินทางกันถึงเส้นชัยที่ หลวงพระบาง
ในวันนี้ทุกคันขับตามกันเป็นขบวนท่ามกลางสายหมอกเหมือนเดิม เพียงแต่เส้นทางดูคดเคี้ยวและลาดชันและลัดเลาะตามหุบเขามากขึ้นตั้งแต่ออกสตาร์ทซึ่งทาง Honda บอกว่านี่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เมื่อข้ามไปฝั่งลาวรับรองโหดกว่านี้เยอะ ซึ่งเราก็ใช้เวลากว่าครึ่งวันในการเดินทางจนถึงท่าเรือขนานรถยนต์ หรือที่ทางฝั่งลาวเรียกว่า "บัก" ซึ่งในช่วงแรกจะมีเพียงแค่ช่วงสั้นๆที่ค่อนข้างโหดก่อนลงสู่ท่าเรือเท่านั้นที่ทำให้เราต้องอึ้งว่า CR-V ที่เราว่าติ๋มๆวิ่งหล่อโชว์หรูแค่ในเมืองนั้นเค้าสามารถลุยได้ไม่แพ้ SUV พันธ์แท้ค่ายอื่นเลย และแอบคิดในใจว่าทางฝั่งลาวที่ทาง Honda บอกว่าโหดกว่านี้อีกมันจะซักแค่ไหนกัน และหลังจากลงเรือข้ามแม่น้ำโขงสู่ สปป.ลาว ครบทั้งหมด 10 คันที่เข้าทำการแข่งขันรวม Staff ของทีมงาน Honda ที่คอยตาม Service แบบครบๆไม่มีคันไหนตกหล่น ก่อนออกเดินทางสู่ร้านอาหารโดยใช้เส้นทางผ่านโรงงานไฟฟ้าที่ขนาดใหญ่มากๆ ประกอบกับถนนที่คดเดคี้ยวแบบโค้งต่อโค้งบวกกับฝนี่ตกลงมาทำให้ถนนที่เดิมเคลือบด้วยฝุ่นกลายเป็นโคลนลื่นๆ เพื่อพิสูจน์สมรรถนะในการยึุดเกาะถนนของ CR-V ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อได้เป็นอย่างดี และในการเดินทางบนถนนของประเทศลาวช่วงแรกนั้นก็ถือว่า Honda CR-V สอบผ่านได้อย่างฉลุยทุกรุ่นทั้งกำลังของเครื่องยนต์ที่สามารถไต่ความชันของขุนเขาน้อยใหญ่โหดๆกับช่วงล่างที่ยึดเกาะได้ไม่แสดงอาการให้ได้หวาดเสียวกันอย่างที่คิดไว้ ไม่เพียงเท่านั้น CR-V ยังต้องผจญกับเส้นทางสุดโหดจริงๆในช่วงบ่ายกับถนนที่เต็มไปด้วยดินโคลนตามไหล่เขาและถนนชำรุดพร้อมหินกรวดที่ค่อนข้างลื่นสลับกันไปตลอดระยะทางราว 300 กม. ซึ่งงานนี้ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าต่อไปนี้ใครจะมาดูถูก Honda CR-V ว่าเป็นรถ Compact SUV ติ๋มๆอีกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว..เพราะ CR-V ได้โชว์ให้เห็นแล้วว่าเส้นทางในลาวที่มีเพียงรถกระบะกับรถ King Size SUV อย่าง Prado สัญจรไปมานั้น CR-V ก็หล่อเข้มและลุยได้ไม่แพ้กัน
ซึ่งพวกเราถึงเส้นได้ใช้เวลากว่าค่อนวันจึงเดินทางถึงเส้นชัยที่สถานีบริการน้ำมันเมืองหลวงพระบางเพื่อเติมน้ำมันวัดอัตราสิ้นเปลืองของแต่ละคัน ก่อนเดินทางกลับสู่ที่พักที่โรงแรง Le Parais Juliana เพื่อพักผ่อนและเตรียมตัวฟังผลการแข่งขันว่าใครคือยอดเซียนประหยัดน้ำมันตัวจริงใน Trip นี้ ซึ่งผลที่ออกมาสำหรับ Honda CR-V นั้นคันที่ประหยัดน้ำมันได้มากที่สุดสำหรับเส้นทางที่ไม่น่าจะประหยัดได้ที่ 11.30 กม./ลิตร โดยรถ CR-V รุ่น 2.4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ เบอร์ 9 แล้วก็เป็นคันเดียวกับที่ทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองของ Civic มาเป็นอัดับที่ 2 จึงทำให้คะแนนรวมทีมนี้พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 ในคะแนนรวมทั้ง 2 รุ่นไปได้เป็นที่เรียบร้อย และรับรางวัลแห่งความสำเร็จในครั้งนี้ไป พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศมื้อค่าที่ห้องอาหารโรงแรมกันต่อก่อนแยกย้ายกันพักผ่อนเพื่อที่รุ่งเช้าที่ต้องตื่นเช้าเหมือนเดิมเพียงแต่ไม่มีการแข่งขันแล้ว
วันที่ 3 กับกิจกรรมผ่อนคลายและท่องเที่ยว ชมวัฒนธรรมของเมืองหลวงพระบางกันอย่างเต็มอิ่ม ก่อนจะเดินทางต่อสู่เมืองหลวงน้ำทา ซึ่งถึงแม้จะไม่มีการแข่งขันแล้วก็ตามแต่เส้นทางในวันนี้ก็ไม่ได้ผ่านฉลุยอย่างที่คิด เพราะยังคงต้องวิ่งผ่านเส้นทางบนขุนเขาซึ่งด้านซ้ายก็หน้าผาด้านขวาก็เป็นเหวเหมือนเดิมจนถึงที่พักเกือบ 22:00 น.
วันสุดท้ายใน สปป.ลาว หลังจากที่พักผ่อนกันเต็มอิ่มกว่าทุกๆวัน วันนี้ทีมงาน Honda ก็จะพาเราเดินทางกลับบ้านเกิดทาง อ.เชียงของ และแวะทานกลางวันกันที่ร้านน้ำโขง ริเวอร์ไซด์จนอิ่ม ตามด้วยกิจกรรมของขาช็อปกันต่อที่ด่านท่าขี้เหล็ก อ.แม่สาย ก่อนจะเดินทางกลับจากสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย สู่สนามบินดอนเมืองและแยกย้ายกันกลับบ้านแบบบ้านใครบ้านมัน
ชมภาพเพิ่มเติมที่ http://photos.autospinn.com/2013-Trip-Civic-Lao/ สำหรับใน่ช่วงขับทดสอบ Civic
และ http://photos.autospinn.com/2013-Trip-CR-V-Lao/ สำหรับในช่วงขับทดสอบ CR-V
ความคิดเห็น