Test Drive Nissan Sylphy 1.8V/CVT : Motor Drive Eps.4 Share this

Test Drive Nissan Sylphy 1.8V/CVT : Motor Drive Eps.4

Admin
โดย Admin
โพสต์เมื่อ 13 February 2556

สำหรับช่วง Motor Drive ในสัปดาห์นี้เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสสมรรถนะของ Nissan Sylphy 1.8V/CVT ที่มาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่หรูหราดูมีรสนิยม ซึ่งสมรรถนะจะเป็นอย่างไรนั้นเราไปชมกันเลย

ผลงานล่าสุดจากค่าย Nissan กับ All-New Nissan Sylphy ที่มาพร้อมกับสโลแกน “ความสุนทรีย์ของการใช้ชีวิต" ซึ่งเปิดตัวในบ้านเราเป็นประเทศที่ 2 ของโลกต่อจากประเทศจีน โดยเน้นจุดขายทั้งในด้านภาพลักษณ์ภายนอก, ความสบายของห้องโดยสาร ซึ่งเดี๋ยวเราไปดูกันว่า Nissan  Sylphy จะโดดเด่นตามอย่างที่ว่าไว้หรือปล่าว แล้วเจ้า Sylphy นี้จะช่วยเรียกคะแนนในตลาดรถกลุ่ม C-Segment ที่เงียบหายไปนานให้กลับมาเหมือนในอดีตยุค Dutsun หรือไม่..ไปดูกันเลย

Design & Interior

รูปโฉมกายภายนอก ในด้านของดีไซน์ภายนอกนั้น ดูจากรูปทรงแล้ว คล้ายกับว่า ทาง Nissan จับเอา Almera มาขยายช่วงตัว ซึ่งทำให้เป็นรถที่มีตัวถังใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน และได้รับการออกแบบด้านอากาศพลศาสตร์ให้มีสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (cd) เพียง 0.29 ทำให้ได้ความสวยงามรวมถึงสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น จุดเด่นเอกลักษณ์ของเจ้า Sylphy นี้เลย เห็นจะเป็นโคมไฟหน้าแบบ Multi-reflector พร้อมไฟ LED ซึ่งแสดงถึงความหรูหรา เหมือนขอบตาของชมพู่ อารยา ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์นั่นเอง ไฟท้ายที่เป็น LED ไฟเบรคดวงที่สาม และชุดไฟเลี้ยวตรงกระจกมองข้าง โดยนับรวมรอบคันแล้ว LED ทั้งหมดมากถึง 54 ดวง ล้ออัลลอยขอบ 16” และชุดโครเมียมบริเวณกระจังหน้า ที่เปิดประตูและด้านกระโปรงท้าย เสริมความเป็นซีดานระดับพรีเมี่ยม

รูปโฉมภายใน พื้นที่ห้องโดยสารภายในที่กว้างขวางเหนือระดับ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา รวมถึงมีเครื่องปรับอากาศตอนท้าย ความสะดวกสบายทั้งหมดนี้เทียบเท่ากับรถ D-Segment ถือเป็นอีกจุดขายที่สำคัญของ Nissan Sylphy วัสดุหุ้มเบาะภายในเป็นหนังสีเบจ ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายมากตรงที่ใช้วัสดุหนังบุนุ่ม (Soft pad) ทำให้รู้สึกได้ว่า นั่งแล้วนุ่มสบายมากทีเดียว โดยเฉพาะที่เท้าแขนตรงข้างประตูให้ความนุ่มนวลมากทุกสัมผัส แผงคอนโซลกลางตกแต่งด้วยลายไม้ เพิ่มความหรูหรา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน หุ้นหนังปรับได้ 4 ทิศทาง มาพร้อมกับสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงและหน้าจอ MID รวมถึงการเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย (Bluetooth) อีกด้วย ซึ่งในรุ่นนี้เป็นรุ่นรองท็อป จึงมีแค่จอเครื่องเสียงแต่ไม่มีระบบนำทาง Navigator system ขนาด 5.8” มาให้ แต่มีกล้องมองหลังเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการถอยจอดที่แสดงภาพบนกระจกมองหลังซึ่งดูค่อนข้างเล็กและไม่ชัดเจนนัก และที่ขาดไม่ได้คือกุญแจอัจฉริยะ Intelligent Key มาพร้อมกับระบบ Immobilizer และ Panic alarm กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ เพื่อลดความเสียหาย ปุ่ม Push start button เพิ่มความสะดวกสบาย ในการเดินทางและความดูดีมีระดับ

ซึ่งต้องยอมรับว่า Sylphy เป็นรถที่กว้างขวางและสะดวกสบายที่สุดคันหนึ่งในกลุ่ม C-Segment ทั้งความนุ่มเบาะ รวมถึงมุมมองทัศนวิสัยนั้นทำได้ค่อนข้างดี ให้ความรู้สึกโปร่งจากมุมกระจกหน้าที่ข้างกว้าง รวมถึงงานดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา กับวัสดุภายในสีเบจ ตัดด้วยลายไม้ เสียอย่างเดียวตรงแผงหน้าปัดที่ดูโบราณไปนิด ดีที่ Nissan ยังจัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ค่อนข้างเพียบไม่งั้นคงตกเป็นลองจ้าวอื่นอีกแน่นนอน

Engine & Performance

เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร รหัสใหม่ MRA8DE ได้รับการพัฒนาโดยเพิ่มช่วงชักกระบอกสูบให้ยาวขึ้น ทั้งฝั่งไอดี-ไอเสีย ผสานการทำงานของระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC เพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเคลือบแข็งระบบสปริงวาล์ว Diamond-like carbon coating ช่วยลดน้ำหนัก แรงเสียดทานและแรงเฉื่อยของวาล์ว เสริมประสิทธิภาพการทำงานเครื่องยนต์ เงียบขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้น ซึ่งทาง Nissan เคลมไว้ว่าประหยัดขึ้นกว่าเดิม 12% สำหรับเครื่องขนาดความจุ 1,798 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 131 แรงม้า ที่ 6000rpm กับแรงบิดสูงสุด 174 นิวตันเมตร ที่ 3600 รอบ/นาที ตัวนี้

พร้อมระบบส่งกำลังแบบแปรผัน X-TRONIC CVT ซึ่งให้การขับขี่ที่นุ่มนวล จากการพัฒนาเกียร์ให้มีขนาดเล็กลง น้ำหนักจึงเบาลง แต่ให้อัตราทดเกียร์ที่กว้างขึ้น จึงทำให้ตอบสนองการขับขี่ได้ดี และประหยัดน้ำมัน ด้านการควบคุมพวงมาลัยเป็นแบบแร็ค แอนด์ พีเนียน พร้อมระบบเพาเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ให้การตอบสนองที่เบาและบังคับได้ดีแม่นยำ

ซึ่งในส่วนสมรรถนะด้านการขับขี่นั้นจากการทดสอบ จะรู้สึกได้ว่า Sylphy  ทำได้ค่อนข้างดีในจังหวะออกตัวกับช่วงความเร็วไม่สูงนัก มีการตอบสนองที่ถือว่าใช้ได้ และมีการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล รวมถึงจังหวะเร่งแซงก็แค่เพิ่มน้ำหนักเท้าเข้าไป ก็จะกลายเป็นการ Kick Down โดยไม่ต้องออกแรงมาก รอบเครื่องยนต์ก็มาให้ใช้ได้อย่างทันใจ แต่จะไม่รู้สึกถึงแรงดึงมากนัก เรียกว่ามานุ่มๆสไตล์รถหรู

ส่วนในเรื่องของรอบเครื่องนั้น Sylphy ที่บริหารโดยเกียร์ X-TRONIC CVT   นั้นใช้รอบค่อนข้างต่ำและต่อเนื่อง โดยที่ความเร็ว 80 กม./ชม.รอบจะอยู่ 1250 รอบ/นาที ส่วนที่ 100กม./ชม.เขยิบขึ้นมาที่ 1800  รอบ/นาที และที่ 120 กม./ชม.ก็แค่ 2000 รอบเท่านั้น ซึ่งจากตัวเลขนี้ถือว่าทำได้ค่อนข้างต่ำมาก ซึ่งน่าจะช่วยส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันได้ดี ซึ่งทดสอบจากการวิ่งทั้งในเมืองและนอกเมืองจะประหยัดน้ำมันที่ระดับ 13.4 กม./ลิตร เลยทีเดียว

Handling & Ride & Brake

ในด้านของ Handling นั้นเซ็ทมาให้ขับง่ายจริงๆ กับพวงมาลัยที่เบามาก ตั้งแต่ความเร็วต่ำยันความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้น ก็ยังคงความรู้สึกเบาอย่างไรอย่างนั้น และระยะฟรีของพวงมาลัยยังถือว่ามากไป ซึ่งถ้าขับรถด้วยความเร็วสูง อาจจะต้องใช้ 2มือในการควบคุม และคงต้องมีสมาธิกันหน่อย เพราะถ้าเผลอหักพวงมาลัยกระทันหันในความเร็วสูง รถกระชากอย่างแน่นอน เพราะพวงมาลัยเบามี Free Area มาก พวงมาลัยดึงไปไวตามมือเอาง่ายๆแน่นอน อาจทำให้เสียการควบคุมได้ ซึ่งจุดนี้คงต้องระวังให้ดีสักหน่อย ตั้งใจนิดกับการขับที่ความเร็วสูง

ระบบกันสะเทือนช่วงล่างนั้น เจ้า Sylphy นี้ยังคงให้เป็น หน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง ทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง  ซึ่งให้การดูดซับแรงกระแทรกจากพื้นผิวถนนที่ขรุขระได้ดี บวกกับการยึดเกาะถนนนั้นทำได้ในระดับกลางพอขับใช้งานสไตล์ผู้ดีได้ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากพวงมาลัยที่เบามากจึงทำให้รู้สึกว่ามีอาการโยนตัวมากในช่วงโค้ง รวมถึงทางตรงที่ความเร็วสูงที่มีอาการหวิวๆจนสัมผัสได้

ส่วนระบบเบรคนั้นเป็นแบบดิสก์เบรค 4 ล้อ ด้านหน้าเป็นแบบช่องระบายความร้อน ในแบบรถยนต์ทั่วไป แต่ถือว่าเบรกหยุดได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับรถในคลาสเดียวกัน ไม่รู้สึกหน่วงๆ หรือต้องลงน้ำหนักลึกมากนัก ถึงแม้มันอาจจะไม่ได้หนึบมากมายนัก แต่ว่าฟีลลิ่งที่ได้นั้นนุ่มนวลเกินคาด

สุดท้ายคือระบบความปลอดภัย ในด้านระบบช่วยในการเบรคมีครบทั้ง ABS, EBD, BA ถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual SRS  เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR ดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ โครงสร้าง Zone Body Concept เอกสิทธิ์เฉพาะ Nissan แข็งแกร่ง ทนทาน รองรับ น้ำหนักและลดแรงกระแทกได้อย่างดี ซึ่งถือว่าเป็นชุดความปลอดภัยที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลกับราคาค่าตัว

Tester Verdict

สรุป Nissan Sylphy ใหม่ ถือเป็นรถยนต์ในกลุ่ม C-Segment ที่เพียบพร้อมด้วยจุดขาย ทั้งในด้านการออกแบบที่ดูดีมีระดับ และความสะดวกสบายที่ได้รับจากภายใน รวมถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่ทำได้ดีสมราคาทั้งในเรื่องความนุ่มนวลของเบรก, ช่วงล่าง รวมถึงเกียร์ X-TRONIC ที่ใช้งานได้อย่างลงตัว ถึงแม้ว่าพวงมาลัยนั้นจะเบาไปหน่อย การตอบสนองของคันเร่งในจังหวะลากรอบอาจไม่ถูกใจขาซัดนัก แต่อย่าลืมว่ารถคันนี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนวัยทำงานที่เน้นความสบาย และความดูดีมีระดับ ไม่ใช่ฟีลลิ่งแบบสปอร์ต ดังนั้น Sylphy จึงถือว่าตอบโจทย์ได้ครบถ้วนและน่าจะกลับมาแข่งขันในตลาดของรถกลุ่มนี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีเลยทีเดียว


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ