เชฟโรเลต จับมือแอล แฟชั่นวีค 2013
เปิดตัวครูซ โฉมใหม่
• ครูซ โฉมใหม่เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85
• ครูซ คลอเซ็ทดีไซน์ เวอร์ชั่นพิเศษเฉิดฉายบนรันเวย์ในงานแอล แฟชั่นวีค 2013
• เน้นจุดเด่นด้าน ‘การออกแบบ’ ซึ่งเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของแบรนด์เชฟโรเลต
กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต ประเทศไทย ร่วมแต่งเติมความร้อนแรงภายในแสดงแฟชั่นที่น่าจับตามองที่สุดของปีนี้ ด้วยการจับมือกับแอล แฟชั่นวีค 2013 เปิดตัวครูซ โฉมใหม่ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและการปรับดีไซน์เพิ่มความสดใหม่หลายจุด
เชฟโรเลต ครูซ โฉมใหม่ ยังโดดเด่นด้วยกันชนหน้าแบบสปอร์ต กระจังหน้า กรอบไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่ ส่วนในห้องโดยสาร ได้รับการตกแต่งด้วยวัสดุใหม่เช่นกัน พร้อมกับการปรับรายละเอียดที่แผงคอนโซล ขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร สามารถรองรับเชื้อเพลิง E85 จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม
ครูซ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ด้วยดีไซน์แบบร่วมสมัยและการขับขี่อันปราดเปรียว ครูซ จึงเป็นรถซีดานที่เหมาะสมกับผู้บริหารรุ่นใหม่หรือครอบครัวคนรุ่นใหม่ รถคอมแพ็คต์ซีดานคันนี้นำยอดขายทั่วโลกด้วยตัวเลขมากกว่า 755,000 คันในปี 2555 ทำให้ครูซ กลายเป็นรถที่มียอดขายสูงสุดของเชฟโรเลต ในระดับโลกโดยมีตัวเลขเกือบ 1.9 ล้านคันนับตั้งแต่เริ่มจำหน่ายครั้งแรกในปี 2552 สำหรับครูซ โฉมใหม่ จะได้รับการเปิดตัวสู่สื่อมวลชนไทยเป็นครั้งแรกภายในงานแอล แฟชั่นวีค 2013 ที่ลุมพินี ฮอลล์
นับเป็นครั้งที่สองที่เชฟโรเลต จับมือกับแอล แฟชั่นวีคและดีไซเนอร์ชั้นนำระดับนานาชาติในการสร้างสรรค์รถครูซ รุ่นพิเศษ ซึ่งครั้งนี้ได้รับการตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์โดยแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่างคลอเซ็ท
ครูซ คลอเซ็ทดีไซน์ รุ่นตกแต่งพิเศษทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและห้องโดยสารภายใน มาพร้อมกับสไตล์แบบร่วมสมัย สวยเก๋ เปี่ยมด้วยความงามสง่าและน่าค้นหา อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ
คลอเซ็ท
คุณชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การออกแบบเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของแบรนด์เชฟโรเลต ในขณะที่แฟชั่นก็เป็นหนึ่งในรูปแบบการแสดงออกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของคนไทย เรามีความยินดีที่ได้ร่วมงานกับแอล หนึ่งในสถาบันแฟชั่นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย”
“ถือเป็นการผนึกกำลังกันของสองแบรนด์ดังที่เปี่ยมด้วยความทรงพลังภายใต้คำจำกัดความหนึ่งเดียว นั่นคือ ‘งามสง่าอย่างมีสไตล์ร่วมสมัย ตอบสนองคนรุ่นใหม่ที่รักแฟชั่น’” คุณชาญวิทย์ กล่าว “การตกแต่งของคลอเซ็ท ยังเน้นย้ำถึงความโดดเด่นของครูซ นั่นคือการออกแบบที่สะดุดทุกสายตา”
คุณมลลิกา เรืองกฤตยา ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของแบรนด์คลอเซ็ท กล่าวว่า “เรามีความตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับเชฟโรเลต ความท้าทายของการออกแบบครูซ คลอเซ็ท คือการเติมแต่งเอกลักษณ์ของเราไว้บนรถยนต์ที่มีดีไซน์อันโดดเด่นอยู่แล้ว แบรนด์เชฟโรเลต เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ติดตามแฟชั่นซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับคลอเซ็ท ดังนั้นเราจึงสามารถออกแบบให้ครูซ มีความสะดุดตายิ่งขึ้นพร้อมกับเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มเป้าหมายของเราได้”
การออกแบบอันมีเอกลักษณ์ของคลอเซ็ท ถูกแต่งเติมไว้ที่กระจกข้างและด้านข้างของตัวรถครูซ โฉมใหม่ ขณะที่ในห้องโดยสาร คลอเซ็ท เพิ่มความสะดุดตาด้วยการตกแต่งด้านหลังเบาะที่นั่งคู่หน้าและแผงข้างประตู
คลอเซ็ท ซึงก่อตั้งในปี 2544 ได้รับการยอมรับในสไตล์แฟชั่นสวยเก๋ นำเสนอความหลงใหลอย่างแรงกล้าผ่านงานแฟชั่นที่ผนวกรวมสไตล์เป็นตัวของตัวเองและมีชีวิตชีวาเข้าไว้ด้วยกัน คลอเซ็ท ยังมี
แบรนด์คลอเซ็ท เรด คาร์เพ็ท (Kloset Red Carpet) ที่นำเสนอความประณีตและเป็นผู้ใหญ่ยิ่งขึ้น พร้อมความสง่างามและซับซ้อนกว่า แต่ยังคงมุ่งเน้นรายละเอียดแบบงานฝืมือหัตถกรรมและเทคนิคการดีไซน์แบบดั้งเดิมไว้เช่นเดิม
• เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85 สอดคล้องกับแผนงานของเชฟโรเลต ในการขยายรถพลังงานทางเลือกให้แก่ลูกค้า
• ครูซ โฉมใหม่ ได้รับการปรับรูปลักษณ์ด้านหน้าและด้านท้าย พร้อมการตกแต่งในห้องโดยสารด้วยวัสดุและสีสันเพิ่มความสดใหม่
• ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด GF6 เจนเนอเรชั่นใหม่ ให้ความแม่นยำและนุ่มนวล ในการเปลี่ยนเกียร์ พร้อมตอบสนองอัตราเร่งได้ดียิ่งขึ้น
กรุงเทพฯ – บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะทำการเปิดตัวครูซ เวอร์ชั่นเฟล็กซ์ฟิวโฉมใหม่ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ยกระดับความโดดเด่นด้วยการปรับรูปลักษณ์ให้สะดุดตายิ่งขึ้น พร้อมเสริมสมรรถนะและรองรับเชื้อเพลิงได้หลากหลายรูปแบบ ตอกย้ำความเป็นยนตรกรรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเชฟโรเลต
ครูซ ซึ่งเปิดตัวออกสู่ตลาดประเทศไทยครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 สร้างความประทับใจให้ลูกค้าชาวไทยด้วยยอดขายมากกว่า 20,000 คัน มาพร้อมการออกแบบที่ร่วมสมัยและสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ครูซ จึงเป็นรถยนต์สำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่และสำหรับครอบครัว โดยคอมแพ็คต์ซีดานคันนี้นำยอดขายเชฟโรเลต ในระดับโลกในปี 2555 ด้วยตัวเลขมากกว่า 755,00 คัน ครูซ ยังเป็นรถเชฟโรเลตที่มียอดขายสูงที่สุดในโลกโดยมีตัวเลขสะสมเกือบ 1.9 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2552
“ครูซ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในตลาดเมืองไทยเช่นกัน ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและการออกแบบอันหรูหรา ทำให้รถคอมแพ็คต์ซีดานคันนี้มีความโดดเด่นที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดรถซีดานเมืองไทย ครูซ โฉมใหม่รองรับเชื้อเพลิง E85 จึงเป็นรถเฟล็กซ์ฟิว (Flex-Fuel Vehicle – FFV) ที่สอดคล้องกับกลยุทธของเชฟโรเลต ในการขยายศักยภาพพลังงานทางเลือกให้ครอบคลุมรถทุกรุ่นที่เราจัดจำหน่าย” มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
“ปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมันที่มีเชื้อเพลิง E85 มากกว่า 100 แห่งในประเทศไทย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากลูกค้ารับรู้ถึงประโยชน์ของเชื้อเพลิงประเภทนี้ เอทานอลเป็นพลังงานหมุนเวียนและมีความสำคัญต่อประเทศที่ต้องนำเข้าน้ำมัน” มร. แอพเฟล กล่าวเพิ่มเติม
ปรับรูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสารเพิ่มความสดใหม่
ครูซ รุ่นปรับโฉมได้รับการยกระดับสุนทรียภาพขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกันชนด้านหน้าดีไซน์ใหม่คู่กับไฟตัดหมอกรูปทรงโฉบเฉี่ยว พร้อมกับการปรับการออกแบบทั้งกรอบไฟหน้ามุมโครเมียมและกระจังหน้าใหม่ที่ทำให้โลโก้เชฟวี่ โบว์ไท มีความสะดุดตายิ่งขึ้น ขณะที่กันชนหลังดีไซน์ใหม่ให้ความสปอร์ตกว่าเดิม เข้ากับกรอบไฟท้ายใหม่อย่างลงตัว ครูซ โฉมใหม่ ยังมาพร้อมล้ออัลลอยแบบห้าก้านที่แต่งเติมความหรูหราให้แก่ตัวรถมากยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารของครูซ LTZ รุ่นปรับโฉม ดึงดูดทุกสายตาด้วยการตกแต่งสีน้ำตาลแดง (brown stone) แบบใหม่ พร้อมการแต่งเติมรายละเอียดและพื้นผิวสัมผัสบริเวณคอนโซลกลางให้ความรู้สึกหรูหรายิ่งขึ้น สำหรับปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นทรงกลมเพื่อรองรับการใช้งานได้สะดวกสบายกว่าเดิม
เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร รองรับ E85 ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์รุ่นใหม่
การเปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญที่สุดของครูซ โฉมใหม่ คือเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85 ทำให้ครูซ เป็นรถเฟล็กซ์ฟิว หรือรถที่รองรับเชื้อเพลิงได้หลากหลายอีกหนึ่งรุ่นของเชฟโรเลต โดยสามารถเติมได้ทั้งน้ำมันเบนซินทั่วไปจนถึงน้ำมัน E85 ที่มีส่วนผสมของเอทานอล 85 เปอร์เซ็นต์ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ECOTEC บล็อก 4 สูบ เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) ของครูซ ยังมาพร้อมระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ (Multi-point Injection) และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double Continuous Variable Cam Phasing) ทำงานร่วมกับท่อร่วมไอดีแปรผัน (Variable Intake Manifold) ไอดีและไอเสียทำงานอย่างสัมพันธ์กันในทุกรอบเครื่องยนต์
ระบบอันทันสมัยดังกล่าวในเครื่องยนต์ของครูซ โฉมใหม่ช่วยเพิ่มสมรรถนะ ลดปริมาณไอเสียและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้พละกำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที
ครูซ ยังมาพร้อมกับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รหัส GF6 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ความแม่นยำยิ่งขึ้นและมอบความนุ่มนวลมากกว่าเดิมในการเปลี่ยนเกียร์ ขณะเดียวกันยังตอบสนองด้านอัตราเร่งได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย ครูซ ยังใช้ระบบการจัดการเครื่องยนต์แบบใหม่ที่ให้ความยืดหยุ่นในด้านการไหลเวียนเชื้อเพลิง ระยะเวลาการจุดระเบิดและการเร่งไฟจุดระเบิดล่วงหน้า ขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันทั้งเบนซินทั่วไป E10 E20 หรือ E85 ตามมาตรฐานของรถเฟล็กซ์ฟิว ขณะเดียวกัน รถที่รองรับเชื้อเพลิง E85 ยังมีชิ้นส่วนภายในที่แตกต่างเพื่อรองรับคุณสมบัติพิเศษของเชื้อเพลิง E85
มร. คิม ชานจู ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายพัฒนาวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รถที่มีศักยภาพรองรับเชื้อเพลิง E85 ทำให้ค่าใช้จ่ายของลูกค้าลดลง เอทานอลเป็นเชื้อเพลิงหมุนเวียนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานอันยั่งยืน”
“เชื้อเพลิง E85 ผลิตจากพืชหมุนเวียน ช่วยลดแก๊สเรือนกระจกและลดการบริโภคเชื้อเพลิงปิโตรเลียมลงได้ หากพิจารณาในด้านความมั่นคงด้านพลังงานแล้ว เชื้อเพลิง E85 สามารถผลิตได้ในประเทศ เป็นพลังงานหมุนเวียนและมีความยั่งยืน รวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถ้าใช้กันอย่างแพร่หลายจะช่วยประหยัดงบประมาณของประเทศในด้านพลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงฟอสซิลลงได้”
ศักยภาพการรองรับ E85 ของครูซ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธสำคัญของเชฟโรเลต ในการขยายยานยนต์พลังงานทางเลือกให้แก่ลูกค้า โดยก่อนหน้านี้ เชฟโรเลต ได้เปิดตัวแคปติวา รถเอสยูวีเฟล็กซ์ฟิวที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร E85 ไปแล้ว รวมถึงการเปิดตัวโซนิค ขุมพลัง 1.4 ลิตรที่รองรับ E20 เมื่อไม่นานมานี้
ครูซ โฉมใหม่ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ผลิตพละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว ให้พละกำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร
ความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย
เทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยอัดแน่นอยู่ในครูซ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Passive Entry Passive Start เข้าออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นควบคุมครูสคอนโทรลและเครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อครบครันทั้ง Auxiliary USB และ Bluetooth ครูซ ยังติดตั้งระบบปรับน้ำฝนอัตโนมัติและไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
เชฟโรเลต ครูซ ไม่ได้มีแต่รูปลักษณ์และการขับขี่ที่โดดเด่นเท่านั้น หากยังเพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยทั้งแบบป้องกันและเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก (EBD) ระบบรักษาเสภียรภาพการทรงตัว (ESP) ระบบป้องกันการลื่นไถล (Traction Control) และกุญแจนิรภัย (Key Immobilizer) ขณะที่ระบบความปลอดภัยแบบเตรียมพร้อมประกอบด้วยโครงเหล็กนิรภัยและคานกันกระแทกด้านข้างที่ทนทานต่อแรงอัดสูง
เชฟโรเลต ครูซ พร้อมให้ลูกค้าได้ทดลองขับที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคมถึง 7 เมษายนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชฟโรเลต ครูซและกิจกรรมภายในงานสามารถเข้าชมได้ที่ www.chevrolet.co.th หรือโทร. 1734
ชมภาพเพิ่มคลิก http://photos.autospinn.com/2013-Chevrolet-Cruze-Th-Launch
ความคิดเห็น