การเป็นเจ้าของซูเปอร์คาร์อย่าง Ferrari สักคันเป็นความฝันสูงสุดของหลายคน แต่หากได้ชมผลวิจัยที่จัดทำโดย AXA Group ของประเทศอังกฤษ บางคนอาจเปลี่ยนใจไปตั้งความฝันในการครอบครอง BMW หรือ Aston Martin แทน
ผลวิจัยชิ้นนี้ทำการสำรวจผู้ขับขี่รถยนต์ 2,000 รายในประเทศอังกฤษเพื่อวัดระดับความสุขเมื่อนั่งหลังพวงมาลัยขับขี่รถยนต์หลายรุ่น โดยอิงปัจจัยหลายประการอย่างความสะดวกสบาย ค่าบำรุงรักษาและในด้านอื่นๆ พบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ทั่วไป 69% มีความสุขในการขับขี่ ขณะที่อีก 20% บอกว่าไม่มีความสุขเลย แต่ต้องขับเพราะมีความจำเป็นในการเดินทาง
สำหรับแบรนด์รถยนต์ที่ผู้ขับขี่มีความสุขมากที่สุดได้แก่ BMW คิดเป็นสัดส่วน 82% รองลงมาคือ Aston Martin 78% ซึ่งเท่ากับ Lexus ที่ 78% ส่วน Seat อยู่ที่ 76% Peugeot 75% และ MINI ตามมาติดๆที่ 73%
สำหรับผลวิจัยที่เซอร์ไพรส์หลายคนคือผู้ขับขี่ Ferrari มีความสุขต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป โดยอยู่ที่เพียง 57% เท่านั้น ปัจจัยสำคัญคือค่าบำรุงรักษาที่สูงลิบ กฎระเบียบการจราจรที่ไม่เอื้อต่อรถซูเปอร์คาร์และความคับคั่งบนท้องถนนที่ยากต่อการขับขี่
ด้านเจ้าของ Land Rover ก็ไม่มีความสุขเช่นกันโดยอยู่ที่เพียง 59% ขณะที่ผู้ขับขี่ Volvo ที่แม้จะอัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยแต่ก็มีความสุขเพียงแค่ 46% เท่านั้น
ผลวิจัยชิ้นนี้สอนให้รู้ว่า การขับขี่รถธรรมดาด้วยความเร็ว ยังให้ความสุขมากกว่าการขับรถที่ทรงพลังแต่ไม่สามารถใช้ความเร็วได้
ความคิดเห็น