รีวิวทดสอบขับ 2013 Volkswagen Golf 1.4 TSI รถคอมแพกต์แฮทช์แบ็กที่ดีที่สุดในโลก? Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิวทดสอบขับ 2013 Volkswagen Golf 1.4 TSI รถคอมแพกต์แฮทช์แบ็กที่ดีที่สุดในโลก?

Admin
โดย Admin
โพสต์เมื่อ 02 April 2556

หลังจาก 2013 Volkswagen Golf รุ่นใหม่ล่าสุดเปิดตัวออกสู่ตลาดมาเลเซียได้ไม่นาน Volkswagen Malaysia เชิญเราไปร่วมทดสอบลองขับทริปสั้นๆ จากกรุงกัวลาลัมเปอร์สู่ปีนัง

ก่อนอื่นต้องเรียนให้ทราบก่อนว่า Volkswagen Golf เป็นรถที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกยานยนต์ มียอดขายมากถึง 29 ล้านคันนับตั้งแต่เปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 1974

ก่อนที่เราจะได้ลองขับ Golf Mk7 คันนี้ เราได้อ่านบททดสอบจากสื่อมวลชนในยุโรปมาแล้วมากมาย ซึ่งล้วนให้ฟีดแบ็กในแง่บวกทั้งสิ้น ยังไม่รวมถึงการคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งยุโรปและรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมโลกประจำปี 2013 มาครองได้สดๆร้อนๆอีกด้วย นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เราต้องการทดสอบสมรรถนะของ Golf เจนเนอเรชั่นที่เจ็ดรุ่นล่าสุดนี้อย่างมาก

แต่เราก็ต้องทำใจไว้ในระดับหนึ่ง เนื่องจาก Golf เวอร์ชั่นมาเลเซียรุ่นล่าสุดมีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในยุโรปและทั่วโลก โดยเฉพาะการปราศจากระบบ Active Cylinder Technology อันล้ำสมัย สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะมาตรฐานน้ำมันในมาเลเซียยังสู้ภูมิภาคอื่นไม่ได้

อย่างไรก็ตาม VW Golf ก็ยังคงเป็น Golf ที่คนทั่วโลกนิยม รวมถึงตลาดมาเลเซียที่ขายดิบขายดีเช่นกันและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนยอดขายของรถคอมแพกต์รุ่นนี้ให้เติบโตในระดับโลก

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/2013-volkswagen-golf-mk-7-test-drive-1.jpg

คำถามแรก: Golf มีความเร็วมากเพียงใด

Volkswagen Malaysia เตรียม Golf Mk7 ไว้มากถึง 19 คัน เมื่อคณะพร้อมเราก็ออกเดินทางจากใจกลางเมืองหลวงของมาเลเซียเพื่อพิสูจน์ว่ารถคอมแพกต์แฮทช์แบ็กรุ่นนี้มีดีอย่างไร

นักเลงรถที่ติดตาม Golf มาหลายเจนเนอเรชั่นคงเกิดความสงสัยว่าทำไม Golf Mk7 รุ่นปัจจุบันถึงมีแรงม้าน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 20 ตัว โดยมีแรงม้าลดลงจาก 160 แรงม้าเหลือ 140 แรงม้า กรรมการบริหารของ Volkswagen Malaysia รู้ดีว่าสื่อมวลชนย่อมมีคำถามถึงตัวเลขดังกล่าวจึงออกตัวทันทีว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุป

“มันไม่ใช่เรื่องของแรงม้าแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูแรงบิดด้วย” Dr Zeno Kerschbaumer กรรมการบริหาร Volkswagen Malaysia บอกกับเรา โดยเขาเน้นย้ำว่า Golf รุ่นใหม่มีแรงบิดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของไลน์ Golf และเขาพูดถูก หลังจากเราได้ลองขับมัน

Volkswagen Golf รุ่นใหม่ไม่ใช่รถที่เชื่องช้าอืดอาดแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้าม มันสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ภายในเวลาเพียง 8.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 212 กม./ชม. ตัวเลขอาจไม่หวือหวา แต่เราพูดได้อย่างมั่นใจว่ามันให้ความรู้สึกเร็วกว่าเดิมมาก สามารถทะยานไปถึง 211 กม./ชม.อย่างไม่ลำบากแม้แต่น้อย

สมรรถนะการควบคุม: เต็มที่ในแบบฉบับ Golf

Volkswagen Golf Mk7 มาพร้อมมิติตัวถังที่กว้างขึ้น ยาวขึ้น และเตี้ยลงกว่าเดิม ทำให้พื้นที่ในห้องโดยสารมีเพิ่มมากขึ้นและช่วยให้ตัวรถมีความหล่อเนี๊ยบกว่ารุ่นก่อนหน้า ไม่เพียงเท่านั้น ตัวถังที่กว้างกว่ายังช่วยเพิ่มการควบคุมในโค้งได้ดีอีกด้วย

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/2013-volkswagen-golf-mk-7-test-drive-12.jpg

ต้องยอมรับว่า VW Golf เป็นรถที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยมและใช้ในชีวิตประจำวันได้สบาย หากเข้าโค้งเร็วเกินไปจะพบอาการเลี้ยวไม่เข้าหรืออันเดอร์สเตียร์ แต่ผู้ขับสามารถแก้ไขอาการได้อย่างง่ายดายก่อนที่จะรู้ตัวด้วยซ้ำไป รถรุ่นนี้รองรับการขับขี่แบบหนักหน่วง ถึงแม้จะถูกออกแบบให้รถแฮทช์แบ็กสำหรับครอบครัว แต่เมื่อนั่งหลังพวงมาลัยเราก็หลงลืมกลุ่มเป้าหมายของรถคันนี้ไปในทันที

สำหรับคนที่ใช้งานปกติเป็นประจำทุกวัน Golf พร้อมมอบการขับขี่ที่นุ่มนวลเช่นกัน การขับผ่านเนินหลังเต่าให้ความสะดวกสบายโดยแทบไม่รู้สึกอาการกระเด้งกระดอน ช่วงล่างถูกเซ็ทอัพมาเพื่อมอบความสบายอย่างมาก ขณะเดียวกันขุมพลังก็พร้อมตอบสนองได้อย่างทันท่วงที

เรียกว่าการใช้งานทั้งบนถนนต่างจังหวัดและการขับไปทำงานที่ออฟฟิศในตัวเมืองก็ทำได้อย่างง่ายดายไม่แตกต่างกัน แม้จะไม่มีฟีเจอร์สำคัญอย่าง Dynamic Chassis Control แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียดายเท่าใดนัก

ความสะดวกสบาย

มิติตัวถังที่กว้างขวางขึ้น ส่งผลอย่างชัดเจนในห้องโดยสาร เพียงก้าวเข้าสู่ภายในค็อกพิทคุณก็จะลืมไปเลยว่ากำลังนั่งอยู่ในรถแฮทช์แบ็ก เพราะมีความโอ่โถงและสะดวกสบายอย่างมาก ตัวเบาะที่นั่งนุ่มนวลและทุกชิ้นส่วนให้ผิวสัมผัสที่ดีเยี่ยม

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/2013-volkswagen-golf-mk-7-test-drive-8.jpg

ระบบเกียร์ดับเบิลคลัตช์มีส่วนสำคัญในการเพิ่มสมรรถนะให้ตัวรถอย่างมาก แต่เราคิดว่าระบบที่ช่วยให้การขับขี่มีความยอดเยี่ยมและสะดวกสบายไม่แพ้กันคือเกียร์ DSG ที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายดายยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เกียร์ DSG ปรับเปลี่ยนอย่างนุ่มนวลไหลลื่น ไม่เฉพาะการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรคับคั่งเท่านั้น แต่ยังตอบสนองได้รวดเร็วในสนามแข่งเช่นกัน (ผู้ขับขี่สามารถกดแป้น paddle shift เพื่อเปลี่ยนโหมดเป็นระบบเกียร์ธรรมดาได้)

ความประหยัด: ระบบสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ ระบบคืนกำลังขณะเบรกและอัตราบริโภคน้ำมันที่ต่ำมาก

ถือเป็นฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ในรถระดับพรีเมียมเลยทีเดียว สำหรับระบบสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ Golf มีอัตราความประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ระบบคืนกำลังขณะเบรกก็ช่วยเก็บรักษาพลังงานไว้ในแบตเตอรี่เพื่อช่วยให้ตัวรถทำงานขณะหยุดนิ่ง

ตัวเลขอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยที่เราคำนวณได้คือ 20 กม./ลิตร ปล่อยไอเสียที่ 116 กรัม/กม. แต่ตัวเลขบนหน้าปัดที่โชว์ให้เราเห็นขณะขับขี่ที่ความเร็วคงที่ 130 กม./ชม.อยู่ระหว่าง 25 – 33 กม./ลิตรเลยทีเดียว เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจยิ่ง

สรุป: น่าจับจองหรือไม่?

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/2013-volkswagen-golf-mk-7-test-drive-19.jpg

Volkswagen Golf Mk7 เป็นรถที่มีความสมบูรณ์พร้อม เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานและความสะดวกสบายที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ด้วยราคาจำหน่ายเคาะที่ 157,888 ริงกิตมาเลเซียหรือราว 1.49 ล้านบาท Golf แทบจะไม่มีคู่แข่งในรถระดับเดียวกันเลย

Golf Mk7 เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างรูปลักษณ์และประโยชน์ใช้สอย อย่าให้ตัวเลขแรงม้าและแรงบิดมาบดบังบุคลิกที่แท้จริงของตัวรถ Dr Zeno เน้นย้ำหลายครั้งว่าขอให้ทดลองขับรถคันนี้ก่อนเพื่อสัมผัสถึงสมรรถนะและเข้าใจในความสมบูรณ์แบบของมันอย่างแท้จริง

โดยส่วนตัวแล้ว เราคิดว่า 2013 Volkswagen Golf 1.4 TSI พร้อมเทคโนโลยี BLUEMOTION เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของรถระดับคอมแพกต์เลยทีเดียว มันพร้อมตอบสนองความเร้าใจในสนามแข่ง ขณะเดียวกันยังรองรับการใช้งานร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงความปลอดภัยเต็มพิกัด

ขอขอบคุณเวบไซต์ LiveLifeDrive เอื้อเฟื้อข้อมูลและภาพประกอบ

ภาพเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ http://photos.autospinn.com/Volkswagen-Golf-Test-Drive/


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ