เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สำหรับ 2014 Toyota Corolla รถคอมแพกต์ที่มียอดขายสูงที่สุดในโลก โดยโฉมใหม่ล่าสุดนี้นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 11 แล้ว ถือเป็นยนตรกรรมระดับยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญที่สุดของ Toyota เลยก็ว่าได้
สำหรับในตลาดสหรัฐอเมริกา Corolla ไม่มีการเปลี่ยนโฉมเลยนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา โดยเมื่อปีที่แล้ว Corolla มียอดขายรวม 290,947 คัน เหนือกว่าคู่แข่ง Hyundai Elantra, Volkswagen Jetta และ Chevy Cruze รวมถึง Ford Focus ด้วย เรียกว่าคู่แข่งเปิดตัวทั้งใหม่หรือเก่าอย่างไร Corolla กินขาดทั้งหมด
ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก 2014 Corolla มีความโดดเด่นขึ้นอย่างชัดเจน ถ่ายทอดดีไซน์จากรถซีดานรุ่นใหญ่อย่าง Avalon พร้อมกับมีกลิ่นอายของรถต้นแบบ Furia Concept ที่เผยโฉมในงานดีทรอยท์ ออโต้โชว์อยู่เต็มคัน ล้ออัลลอยใช้สีดำสลับบรอนซ์เงินแนวโฉบเฉี่ยวคล้ายกับรถสปอร์ตคูเป้ Scion FR-S (ฝาแฝด Toyota GT 86) เหมือนตั้งใจดึงดูดลูกค้าที่มีอายุน้อย อย่างไรก็ดี สำหรับรุ่นเริ่มต้นใช้ขนาด 15 นิ้วไปจนถึงรุ่นท็อปไลน์ขนาด 17 นิ้ว
มิติตัวถังถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น โดยมีความยาว 4,639 มม.และกว้าง 1,776 มม. มากกว่าเดิม 99 มม. และ 16 มม.ตามลำดับ ทำให้มีเนื้อที่ภายในห้องโดยสารเพิ่มขึ้นโดยไม่ทำให้ตัวรถดูใหญ่โตเกินไป สำหรับส่วนสูงลดลงเหลือ 1,455 มม. ต่ำกว่าเดิม 10 มม. ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ความสปอร์ต ขณะที่ระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นมากกว่ารุ่นเดิม 100 มม. ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น
ตัวถังของ 2014 Corolla เน้นน้ำหนักเบาและใช้เหล็กความแข็งแกร่งสูง มีน้ำหนักตัวรถต่ำกว่า 2,900 ปอนด์หรือ 1,315 กก. แชสซีส์ได้รับการพัฒนาใหม่ให้มีความเหนียวแน่นและทนทาน เพิ่มประสบการณ์การขับขี่อันน่าประทับใจ
2014 Corolla เป็นรถคอมแพตก์รุ่นแรกที่มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยจะออกจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วย L, LE, LE Eco และ S ซึ่งทุกรุ่นมาพร้อมถุงลมนิรภัยถึงแปดลูก
ธีมการออกแบบภายในยังคงถ่ายทอดสไตล์ของ Avalon แผงแดชบอร์ดเน้นความหรูหรา เพียบพร้อมด้วยสวิทช์และฟังก์ชั่นใช้งานอย่างครบครัน หน้าจอทัชสกรีนบนคอนโซลรองรับระบบอินโฟเทนเมนท์ Entune มีระบบเชื่อมต่อบลูทูธรองรับโทรศัพท์และเครื่องเสียง รวมถึงฟังก์ชั่นปุ่มสตาร์ท
สำหรับขุมพลังขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์บล็อกอลูมิเนียม 4 สูบความจุ 1.8 ลิตร มีสองระดับพละกำลังให้เลือกใช้ เริ่มจาก 132 แรงม้าในรุ่นย่อย L, LE และ S ขณะที่รุ่น LE Eco มีพละกำลัง 140 แรงม้าโดยมาพร้อมกับระบบ Valvematic ครั้งแรกของ Toyota ในตลาดอเมริกา เป็นระบบวาล์วแปรผันและการยกตัวของวาล์วชนิดใหม่ที่จะช่วยเพิ่มพละกำลังและความประหยัดได้อีกอย่างน้อย 5%
สำหรับรุ่นเริ่มต้น L มีระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดหรือธรรมดาแบบ 6 สปีดให้เลือก ขณะที่อีกสามรุ่นย่อยที่เหลือจะเป็นระบบเกียร์ CVT แบบ 7 จังหวะซึ่งเน้นความนุ่มนวลไหลลื่นและประหยัดเชื้อเพลิงมากเป็นพิเศษ ลูกค้ายังสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตนเองที่คันเกียร์หรือสวิทช์บนพวงมาลัย
Toyota มีความภาคภูมิใจอย่างมากในการประกาศว่า Corolla “คือรถที่ขายดีที่สุดในโลก” ด้วยการออกจำหน่ายในกว่า 154 ประเทศ ผลิตจากโรงงานถึง 16 แห่งทั่วโลก ทำตลาดในอุตสาหกรรมยานยนต์มาแล้วครบ 47 ปีเต็ม
LINE
ความคิดเห็น