Bentley Continental GT Speed Convertible รถยนต์เปิดประทุน 4 ที่นั่งที่เร็วที่สุดในโลก Share this

Bentley Continental GT Speed Convertible รถยนต์เปิดประทุน 4 ที่นั่งที่เร็วที่สุดในโลก

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 19 June 2556

Bentley เปิดตัว Continental GT Speed Convertible รถยนต์ 4 ที่นั่ง เปิดประทุนที่เร็วที่สุดในโลกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในงานมหกรรมยานยนต์ North American International Auto Show ที่เมืองดีทรอย ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

Bentley Continental GT Speed Convertible รถที่ผสมผสานกันระหว่างรถเปิดประทุนที่หรูหรากับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ทรงพลังอย่างลงตัว เครื่องยนต์ Twin-Turbocharged 6.0 ลิตร W12 มีกำลังสูงสุดถึง 616 แรงม้า และประหยัดน้ำมันดีขึ้นอีก 15% ระบบส่งกำลังใช้เกียร์แบบ 8 สปีด ระบบช่วงล่างพัฒนาให้มีการยกระดับสูงและต่ำได้ ระบบพวงมาลัยมีความแม่นยำส่งผลให้รถมีการขับเคลื่อนและรักษาเสถียรภาพของได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้รถมีความสะดวกสบายสูงสุด ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถมีสมรรถนะในการเกาะถนนได้อย่างดี

Continental GT Speed Convertible ใหม่ล่าสุดคันนี้ทำความเร็วสูงสุดได้ 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมาะสมกับความเป็นที่สุดในรุ่นคอนติเนนทัลของเบนท์ลี่ย์ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังผสมผสานไว้ทั้งงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยม หรูหรา และมีพละกำลังเครื่องยนต์และประสิทธิภาพเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นกว่าใคร

ล้ออัลลอยด์ 21 นิ้วที่โดดเด่น ปลายท่อไอเสียในแบบ ‘rifled’ ได้รับการติดตั้งเสริมความเป็นสปอร์ตมากขึ้น ภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยงานฝีมือชั้นเยี่ยม และมีจุดเด่นด้วยการติดตั้งชุดแต่ง Mulliner Driving Specification มาเป็นอุปกรณ์ตกแต่งมาตรฐานให้กับรถ เสริมความเป็นเอกลักษณ์ของความหรูหราที่ร่วมสมัยเข้าไว้กับความเป็นสปอร์ตที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว

Sunburst_014_2 (1)_resize

Dr Wolfgang Schreiber ประธานกรรมการและประธานบริหารของเบนท์ลี่ย์ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ Continental GT Speed Convertible ว่า “หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากรุ่น GT Speed ในตอนนี้เราจึงขอแนะนำ Continental GT Speed Convertible ใหม่ล่าสุดที่ออกมาสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการสัมผัสถึงความเป็นที่สุดของรถยนต์ 4 ที่นั่งเปิดประทุนที่เร็วที่สุด มีประสิทธิภาพตามความเป็นรถยนต์แกรนด์ ทัวเร่อร์ ทุกประการ อีกทั้งยังมาพร้อมกับความหรูหรา ปราณีต และได้รับการออกแบบมาให้มีความสมบูรณ์แบบ”

ระบบขับเคลื่อน: 12 สูบ 616 แรงม้า และเกียร์ 8 จังหวะ

รายละเอียดของระบบขับเคลื่อน Continental GT Speed Convertible จะคล้ายกับรุ่น GT Speed coupé เครื่องยนต์ออกมาในรูปแบบ W12 48 วาล์ว twin-turbocharged และให้พละกำลังสูงสุดถึง 616 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ใน 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่งจาก 0-100 ไมล์ต่อชั่วโมง ในเวลาเพียงแค่ 9.7 วินาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 800 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 2,000-5,000 รอบต่อนาที

ระบบ ME17 engine management system สามารถคำนวนการทำงานได้อย่างรวดเร็วอีกทั้งยังทำการควบคุม turbocharger และการจัดการแรงบิด และเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม Continental GT Speed Convertible ได้รับการเสริมทัพด้วยระบบหมุนเวียนพลังงาน Energy recuperation system เหมือนกับเครื่องยนต์ W12 รุ่นอื่น มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้มีความสามารถในการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว ส่งผลให้รถสามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงอีก 15% หากเทียบกับรุ่นเดิม

Continental GT Speed Convertible ใหม่ล่าสุดมีระบบขับเคลื่อนที่ดีขึ้นกว่ารุ่นสปีดเดิม และมีอัตราการบริโภคน้ำมันเทียบเท่ากับรุ่น Continental GT W12 ใหม่ หากทำการเปลี่ยนเกียร์เข้าสู่โหมดสปอร์ตจะทำให้ได้มาซึ่งการตอบสนองต่อเครื่องยนต์ที่รวดเร็วขึ้น และระบบส่งผ่านกำลังจะเปลี่ยนเกียร์เมื่อความเร็วของเครื่องยนต์สูงขึ้น และทำการ ‘block shifting’ ได้เร็วขึ้น (เช่น เปลี่ยนจากระดับเกียร์ 8 เข้าสู่เกียร์ 4 โดยตรงเป็นต้น) ส่งผลให้ได้อัตราเร่งที่สมบูรณ์แบบ

71135bm_2_resize

ตัวถัง; ต่ำลง เฉียบคมขึ้น และมีส่วนร่วมมากขึ้น

ด้วยดีกรีของความแกร่งเชิงบิดที่ยอดเยี่ยมที่ 22,500 นิวตันเมตรต่อดีกรี ทำให้ตัวถังของ Continental GT Speed Convertible มีความแข็งแกร่ง และเป็นพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างประสบการณ์การขับที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการตั้งค่าช่วงล่างด้านหน้าแบบปีกนกคู่ (Double wishbone) และช่วงล่างด้านหลังแบบ trapezoidal multi-link นี้เองที่เป็นจุดเด่นทำให้สปริงของช่วงล่างแบบถุงลมและเครื่องลดกันสะเทือนได้รับการปรับเปลี่ยน และพัฒนาให้เกิดการเกาะถนน การทรงตัว และการควบคุมรถได้ดีขึ้น อีกทั้งอำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยเช่นกัน

ระบบการลดระดับ self-levelling system ได้รับการตั้งค่าให้ลดลง 10 มิลลิเมตร จากรุ่น Continental GT convertible ช่วงล่างมีความแน่นหนาและแข็งแกร่ง รักษาเสถียรภาพของรถได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมี Anti-roll bars เข้ามาช่วยในการทรงตัวและรักษาเสถียรภาพของรถให้ดียิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือประสิทธิภาพในการควบคุมตัวรถที่ยอดเยี่ยม เกาะถนนได้ดีขึ้นแม้จะอยู่ภายใต้สภาวะการเข้าโค้งที่หนักหน่วง

ระบบ Electronic Stability Control (ESC) ได้รับการปรับค่าให้เหมาะสมกับระบบจัดการเครื่องยนต์ (engine management system) ใหม่ล่าสุดเพื่อให้ได้ความปลอดภัยสูงสุดและสร้างความมีส่วนร่วมในการขับขี่มากขึ้น ระบบ ESC รักษาการตั้งค่า “Dynamic Mode” ไว้เพื่อเพิ่มการ slip ของล้อที่ความเร็วสูง รวมไปถึงการเรียกแรงบิดของเครื่องยนต์คืนได้อย่างรวดเร็ว ระบบเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้ค้นหาการตั้งค่าของตัวถังใหม่พร้อมด้วยกำลังขับจากเครื่องยนต์ที่สูงมากขึ้นอีกด้วย

รูปลักษณ์ภายนอก – ความเข้มข้นจากการออกแบบของเบนท์ลี่ย์

หากมอง Continental GT Speed Convertible จะพบกับความแตกต่างที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบเมทริกซ์ และช่องดักอากาศที่กันชนออกมาในรูปแบบ Dark-tint chrome หรือโครเมี่ยมเคลือบสีเข้ม ล้อมีขนาด 21 นิ้วในลาย Speed alloy wheels สร้างความโดดเด่น ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งสีเงินหรือสี Dark tint ปลายท่อไอเสียขนาดใหญ่ออกมาในรูปทรงไข่ หากเปิดฝากระโปรงรถจะพบกับท่อรวมไอดีสีดำที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีโลโก้ “B” พื้นหลังสีดำตกแต่งอยู่บนฝาครอบหมอน้ำเพิ่มความโดดเด่นเช่นเดียวกัน

ปีกหน้าของ Continental GT Speed Convertible ทำจากอลูมิเนียมแบบ superformed aluminium ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสร้างชิ้นส่วนของรถโดยไม่มีรอยต่อและราบเรียบเป็นส่วนเดียวกัน สามารถสร้างความแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี ช่วงล่างได้รับการปรับให้ต่ำลง 10 มิลลิเมตร เติมเต็มด้วยล้อ 21 นิ้ว และเพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพของรถตามแบบฉบับรถซูเปอร์คาร์ รถคันนี้จึงได้รับการประดับด้วยสปอยเลอร์เพิ่มเติม และเสริมด้วยลิ้นบนฝากระโปรง double-horseshoe เพื่อสร้างแรงกดตามหลักอากาศพลศาสตร์ให้กับ Continental GT Speed Convertible เมื่ออยู่ที่ความเร็วเกินกว่า 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกด้วย

JL4_5277_2 (1)_resize

ภายในห้องโดยสาร: หรูหรา โดดเด่นอย่างสง่างาม และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ

ท่านจะได้สัมผัสกับตำนานความเป็นสปีด และความโดดเด่นที่เฉพาะจากภายในห้องโดยสารของรถ 4 ที่นั่งคันนี้ อีกทั้งยังมีจุดเด่นด้วยงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยมด้วยชุดตกแต่งภายใน Mulliner Driving Specification เบนท์ลี่ย์ได้นำเสนออุปกรณ์พิเศษสำหรับ Continental GT Speed Convertible คันนี้โดยเฉพาะนั่นคือ แผงหน้าปัดในรูปแบบใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถ Le Mans ที่คว้าชัยชนะและสร้างตำนานมาอย่างโด่งดังในปี 1920s อีกทั้งยังมีแผงเนื้อไม้ชั้นดี และตกแต่งคอนโซลกลางด้วยอุปกรณ์ตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์ในรูปแบบสี ซาติน (อุปกรณ์เสริมที่สามารถเลือกติดตั้งได้) เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ให้กับห้องโดยสารได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ระบบ Infotainment ได้รับการอัพเกรดซอฟแวร์ด้วยเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของแต่ละภูมิภาค ถูกรวบรวมไว้ซึ่งอุปกรณ์ที่ให้ความสะดวกสบายและข้อมูลที่สำคัญ เช่น แผนที่สำหรับจุดต่างๆ ที่น่าสนใจ ภาพภูมิทัศน์จากดาวเทียม ข้อมูลการจราจร และ digital radio ระบบ Infotainment มีหน่วยความจำถึง 15 กิกาไบท์เพื่อใช้ในการเก็บเพลง และยังสามารถเล่นเพลงจากเครื่อง iPod, MP3 Player หรือเครื่องเล่น CD 6 แผ่นของรถ หรือการ์ด SD ได้เช่นกัน

ลำโพงเครื่องเสียงออกมาในรูปแบบ Balanced Mode Radiator (BMR) ซึ่งผสมผสานฟังก์ชั่นของลำโพงที่แยกเสียงแหลมและเสียงกลางไว้ในลำโพงตัวเดียว เพื่อให้ได้มาซึ่งการส่งตรงของเสียงที่ชัดเจนและให้สเปกตรัมของเสียงที่ดียิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้เบนท์ลี่ย์ยังขอนำเสนอชุดเครื่องเสียง Naim ให้สามารถเลือกติดตั้งได้ ความโดดเด่นของระบบนี้คือการทำงานของลำโพงที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีและยังมีโหมด Digital Sound Processing modes หากทำการเปิดหลังคาลงนั้นผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าความสมดุลของเสียงให้เหมาะสมได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น

วิ่งไปบนถนนด้วยความเร้าใจ 356 วันต่อปี

Continental GT Speed Convertible ใหม่ล่าสุดจะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความปราณีตตามแบบฉบับความเป็นคูเป้ หากแต่สามารถเปิดประทุนได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น หลังคามีระดับชั้น 4 ชั้นเพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถมีความสะดวกสบายในระดับสูง หลังคาได้รับการทดสอบเพื่อพัฒนาในทุกๆ สภาวะจาก -30 องศาเซลเซียส จนถึง +50 องศาเซลเซียส ผลลัพธ์ที่ได้คือหลังคามีความแข็งแกร่งและทนต่อฝน อีกทั้งยังรักษาความสะดวกสบายของห้องโดยสารไว้อย่างดีเยี่ยม ให้ความอบอุ่นกับห้องโดยสารได้แม้ต้องอยู่ในวันที่หนาวที่สุด

อีกหนึ่งจุดเด่นของรถยนต์เปิดประทุนคันนี้คือระบบให้ความอบอุ่นต่อคอ (Neck warmer) ซึ่งจะทำงานและให้ความสะดวกสบายแด่ผู้โดยสารได้เป็นอย่างดีเมื่อเปิดประทุนวิ่งในวันที่มีอุณหภูมิต่ำของช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงได้

Continental GT Speed Convertible มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเหมือนกับเบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล รุ่นอื่นๆ โดยแน้นการกระจายแรงบิดไปทางด้านหลังในสัดส่วน 60:40 เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอาการ understeer ระหว่างเข้าโค้งที่หนักหน่วง และระบบจะปรับเปลี่ยนการกระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลังตามความเหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพการเกาะถนนบนทุกๆ สภาวะอากาศ

ผลลัพธ์ที่ได้คือการผสมผสานของประสิทธิภาพเครื่องยนต์และความสามารถในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังกลายมาเป็นเบนท์ลี่ย์ที่สามารถวิ่งไปบนถนนที่ปกคลุมด้วยน้ำหรือผ่านเทือกเขาแอลป์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะด้วยความมั่นใจได้

ข้อมูลเฉพาะทางเทคนิค

 

GT Speed Convertible

GT Speed

เครื่องยนต์
ชนิด

6 ลิตร twin-turbocharged W12

พละกำลังสูงสุด

616 แรงม้า / 460 กิโลวัตต์ / 625 PS ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด

800 นิวตันเมตร / 590 lb.ft ที่รอบเครื่องยนต์ 2,000 รอบต่อนาที

ระบบส่งผ่านกำลัง
ชนิด

ZF 8 สปีดอัตโนมัติมาพร้อมกับการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและแม่นยำ (QuickShift) รวมถึงพวงมาลัยที่ติดตั้งก้านเกียร์มาด้วย

ระบบขับเคลื่อน

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Continuous all-wheel drive (40:60 เน้นทางด้านหลัง)

อัตราการทดเกียร์

1st : 4.71; 2nd: 3.14; 3rd: 2.1; 4th: 1.67; 5th: 1.29; 6th: 1.00; 7th: 0.839; 8th: 0.667

Final Drive

2.85

เบรก
ด้านหน้า

จานเบรกระบายความร้อน 405 มิลลิเมตร (หรือ 420 มิลลิเมตร Carbon Silicon Carbide, cross drilled)

ด้านหลัง

จานเบรกระบายความร้อน 335 มิลลิเมตร (หรือ 356 มิลลิเมตร Carbon Silicon Carbide, cross drilled)

ล้อและยาง
ล้อ

9.5J x 21”

ยาง

275/35 ZR21

ระบบพวงมาลัย
ชนิด

Rack & pinion, power assisted, speed-sensitive ZF servotronic

หมุนจาก lock to lock

2.6 รอบ

หมุนรอบวง

11.3 m

ระบบกันสะเทือน (SUSPENSION)
ด้านหน้า

ช่วงล่างแบบปีกนกแบบ Four link double wishbones, ควบคุมการลดระดับของช่วงล่างแบบถุงลมโดยระบบคอมพิวเตอร์, anti-roll-bar.

ด้านหลัง

ช่วงล่าง Trapezoidal multi-link, ควบคุมการลดระดับของช่วงล่างแบบถุงลมโดยระบบคอมพิวเตอร์, anti-roll-bar.

ขนาด
ฐานล้อ

2,746 มิลลิเมตร / 108.1 นิ้ว

ความยาวโดยรวม

4,806 มิลลิเมตร / 189.2 นิ้ว

ความกว้าง

1,944 มิลลิเมตร / 76.5 นิ้ว

ความกว้างรวมกระจกข้าง

2,227 มิลลิเมตร / 87.7 นิ้ว

ความสูงโดยรวม

1,393 มิลลิเมตร / 54.8 นิ้ว

1,394 มิลลิเมตร / 54.9 นิ้ว

ความจุถังน้ำมัน

90 ลิตร / 20 แกลลอน / 24 US แกลลอน

ความจุของที่เก็บสัมภาระ

260 / 9.18 cu ft

358 ลิตร / 12.6 cu ft

น้ำหนักรถเปล่า (EU)

2,495 กิโลกรัม / 5500 lb

2,320 กิโลกรัม / 5115 lb

น้ำหนักรถรวม

2,900 กิโลกรัม / 6393 lb

2,750 กิโลกรัม / 6063 lb

ประสิทธิภาพ
ความเร็วสูงสุด

325 กิโลเมตร/ชั่วโมง

330 กิโลเมตร/ชั่วโมง

0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง

4.1 วินาที

4.0 วินาที

0-100 ไมล์ต่อชั่วโมง

9.7 วินาที

9.0 วินาที

0-100 ไมล์ต่อชั่วโมง

4.4 วินาที

4.2 วินาที

0-160 ไมล์ต่อชั่วโมง

9.7 วินาที

9.0 วินาที

อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามรูปแบบวงจรการขับขี่ EU*
ในเมือง

22.7 ลิตร/100 กิโลเมตร

22.2 ลิตร/100 กิโลเมตร

นอกเมือง

10.4 ลิตร/100 กิโลเมตร

10.1 ลิตร/100 กิโลเมตร

ในเมืองผสมกับนอกเมือง

14.9 ลิตร/100 กิโลเมตร

14.5 ลิตร/100 กิโลเมตร

อัตราการปล่อย CO2

347 กรัม/กิโลเมตร

338 กรัม/กิโลเมตร

อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามรูปแบบวงจรการขับขี่ EPA **
ขับขี่ในเมือง (ไมล์ต่อกรัม (US))

12

13

ขับขี่บนทางหลวง (ไมล์ต่อกรัม (US))

20

20

ผสมผสานทั้งสองรูปแบบ (ไมล์ต่อกรัม (US))

15

15

ระบบควบคุมมลพิษ

EU 5 and US LEV II


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ