ฟังแค่ชื่อเรื่องในวันนี้ที่มาพูดถึงก็เรียกว่าเสียว วาบกันเลยทีเดียว กับสุดยอดภารกิจในวันนี้ ที่เรียกว่า ใครก็น่าจะต้องร้อง ว้าว!!!!! กับ การที่เราได้ไปพบกับว่าที่รถยนต์รุ่นใหม่ในกลุ่มอีโค่คาร์ ที่เริ่มเปิดรับจองกันไปบ้างแล้วกับเรือนร่าง 4 ประตู ร่างทรงของ Mirage ที่ไม่รู้จะทำชื่อให้มันเรียกยาก ทำไม ว่า Attrage
ชื่อเสียงเรียงนามของรถ Mitsubishi Attrage ที่ฟังดูเหมือนจะเสนาะหู แต่ก็ยังไม่โดนเสียทีเดียว เป็นสิ่งที่สร้างให้เรารู้สึกประหลาดใจที่ค่ายทรีไดมอนด์ ตัดใจใช้ชื่อนี้ ทั้งที่ จริงๆ ชื่อที่เรียกกันขำๆ บนโลกอินเตอร์เน็ตยังฟังดูโดนกว่าอย่าง Mirage หรือ บางอย่างที่ดูดีมากกว่า ATTRAGE ชื่อที่พูดทีไร แล้วก็นึกถึง tart ไข่ที่ KFC ทุกที
การสเตรนจ์เสียงที่ดูแปลกไม่ว่าจะกระแดะแค่ไหน Attrage ก็ดูแล้วแข็งทื่อ แต่ความหมายที่แฝงภายในคือ attractive หรือ เสน่ห์เย้ายวนที่ดึงดูดใจ แต่เอาเข้าจริง Mitsubishi Attrage เหมือนผู้หญิงอารมณ์คลาสสิค มองทีแรกไม่โดนเฉยๆ แต่พอมองบ่อยๆ อย่างในวันนี้ ก็แบบว่าเออ..มันก็ดีเหมือนกัน
หน้าตาของ Mitsubishi Attrage หลายคนอาจจะพบพานเห็นรูปจากข่าวคราวที่ปล่อยมาหมดก๊อกก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งด้านหน้า ข้างหลัง แต่พอพบตัวจริง เจ้า Mitsubishi Attrage ใหม่ กลับทำให้เรานึกถึง Mitsubishi Lancer Cedia จนสาวกตัวจริง Mitsubishi หนึ่งในน้องทีมงาน Auto Spin เอ่ยปากว่า พี่ ไอตราโครเมี่ยม ทรง 5 เหลี่ยมนี่ ถ้าไม่เอาโลโก้มิตซูฯ แล้วเปลี่ยนเป็นตัว S ชัดๆ นี่มันรถ Super Man ชัดๆ.. .
พระเจ้ายิ่งดูยิ่งคิดตามขอบอกเลยว่า น้องมันไม่ผิด....เพราะจะมองท่าไหน ตีลังกา เอาขาก่ายหน้าผาก เรื่องกระจังหน้าโครเมี่ยม นี่ยิ่งทำให้เรานึกถึง Cedia แต่มันก็ดูสอดรับเข้ากับหน้าตา โดยเฉพาะโคมไฟหน้าที่ออกสปอร์ตขึ้น แต่มองบางมุมก็ดูเศร้าไปเล็กน้อยเช่นกัน
บั้นท้าย Mitsubishi Attrage ใหม่มาพร้อมกับการปรับบั้นท้ายใหม่ ลืมทุกสิ่งใน Mirage ทิ้งไป เพราะในเจ้า Attarge เน้นในความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร บั้นท้ายกลมงอน ดูมีความสปอร์ตอยู่ในตัว ยิ่งดูโคมไฟท้ายที่ออกแบบมาไว้เลิศมาก เช่นเดียวกับ ฝากระโปรงและเส้นสายทางด้านข้างที่มาบรรจบลากตรงต่อเนื่องแอบขยักขึ้นมาเป็นสปอร์ตเลอร์ทรงตูดเป็ดในตัว
ด้านข้างในรุ่นธรรมดาล้อกระทะสวมครอบแบบเดียวยังไงยังงั้นกับ Mitsubishi mirage แต่ที่ถูกใจ และหลายคนน่าจะชอบ ยิ่งสาวกเจ้าตัวเล็กมิราจ แล้วคือล้ออัลลอย ที่เป็นทรงเดียวกันคล้ายๆกับที่อยู่ใน Mitsubishi Lancer จนพี่จิมมี่ แห่ง headlightmag เผยว่า …. ทำไมไม่เอาแบบนี้ในมิราจแต่แรก ... ว่าแล้ว พี่เติ้ง จาก Product Plan ของ Mitsubishi ก็หัวเราะคิคิ ...แล้วสวนว่า มันก็ต้องมีอะไรที่แตกต่างบ้าง
อ้าประตูสู่ห้องโดยสารไม่ค่อยมีอะไรหวือหวามากมายนักในตัวธรรมดา ทุกอย่างแทบจะเหมือนมิราจที่ขายในปัจจุบัน ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัย คอนโซล จะมีก็เพียงเบาะนั่งที่นั่งแล้วดูใหญ่ขึ้น ออกแบบตัดเย็บใหม่ที่ทำให้ดูดีขึ้น แม้ในรุ่นนี้ที่เป็นเกียร์ธรรมดา และเมื่อลองไปนั่งด้านหลัง พระเจ้านี่มันสวรรค์ของสาวกซีดาน เพรา เจ้า Mitsubishi Attrage สามารถยัดคนตัวสูง 182 อย่างผมไปได้สบาย หัวไม่ติดหลังคา และนั่งวางขาได้สบายพอตัวเลยทีเดียว
ในรุ่นท๊อปที่วันนี้มีมาให้ชมสองคัน ดูโลกสวยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เบาะนั่งที่มาพร้อมกลิ่นหนัง จากการหุ้มหนังสังเคราะห์สีเบจที่จะมีมาในตัวท๊อป ซึ่งช่วยให้ห้องโดยสารดูสดใสขึ้นพอสมควร พวงมาลัยแอบคล้ายที่เคยใส่มาคุ้นหน้าค่าตาจากรุ่น bloom edition แต่ครั้งนี้เพิ่มปุ่มปรับเครื่องเสียงมาที่พวงมาลัย เช่นเดียวกับเครื่องเสียงใหม่ที่มาพร้อมระบบนำทางในตัว และ แอร์ออโต้ เบ็ดเสร็จพร้อมสรรพ
เปิดฝากระโปรงทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมกับเครื่อง 3A92 ขุมพลัง 3 สูบแถวเรียงที่คุ้นหน้าตา ขนาด 1.2 ลิตร มาพร้อมให้ขับขี่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบควบคุมเกียร์อัจฉริยะ Invect III ที่ให้ความชาญฉลาดในการใช้งาน ส่วนในรุ่นเกียร์ธรรดมาก็ยังเน้นมันส์ที่ 5 สปีด
จะว่าไปถ้ามองรวมนี่คือ Mirage sedan นั่นเอง ซึ่งจะพูดนั่นก็คือความจริงวันนี้ใน Mitsubishi Attrage ที่วันนี้จับเริ่มต้นกับเกียร์ธรรมดา มาลองกดให้สนุกสนานกัน
เมื่อขยับปรับตัวครั้งแรกที่เบาะนั่งคนขับ ต้องยอมรับว่า ทัศนวิสัยของ Mitsubishi Attrage ใหม่ดูดีกว่าเจ้าพี่ใหญ่ 5 ประตูของมันมาก ส่วนหนึ่งเราเชื่อว่าหารวางตำแหน่งเบาะนั่งที่สูงขึ้นจากมิราจ ซ้ำยังเพิ่มในส่วนของที่รองนั่งไม่ให้มีความเล็กเกินไป หลังจากที่มีหลายเสียงจากนักทดสอบบ่นไปทางเดียวกันว่า เบาะนั่งสั้นไปหน่อย
เมื่อขับออกมาสู่โลกภายนอก วันนี้บททดสอบระยะสั้นกับการเข้าเมืองไปเดินสวนเบญจสิริ ข้างเอมโพเรี่ยม สิ่งที่โดดเด่นจนรู้สึกได้ทันทีก็ไม่พ้นพวงมาลัยที่รู้สึกหนืดและมีความตึงมือขึ้นอย่างชัดเจน มากกว่าที่เราเคยสัมผัสมา ในขณะที่เครื่องยนต์เองในรุ่นนี้เรียกว่าไม่ค่อยแตกต่างกันมากมายนัก โดยเฉพาะบุคลิกสปอร์ตของมันที่ยังคงมาถึงรุ่นนี้
ด้านช่วงล่างมีบุคลิกที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะโช๊คที่มีความนุ่มมากขึ้นกว่าเดิม มาเจอกับสปริงที่ที่มีความหนึบแน่นอนยิ่งขึ้น ซับแรงกระแทกได้ดีกว่า ที่สำคัญ ใครที่เคยคิดว่ามันจะนุ่มเหมือนที่มิราจเคยเป็นมา งานนี้น่าจะถูกใจ เพราะเซทให้แข็งพอสมควร แต่ไม่ได้ให้ความกระด้างแบบสปอร์ต ที่จิรงมันดีเทียบเท่ารถยนต์ B car บางรุ่นอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ ยิ่งเมื่อได้ยางที่ขยับขยายจากขนาดเดิมที่ใช้ใน mirage ก็ยิ่งเพิ่มอำนาจการเกาะถนน รวมถึง อาจในการเบรกที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
หลังจากที่ขับเจ้าเกียร์ธรรมดามาถึงที่นัดหมาย ในขากลับเรามีโอกาส ที่จะได้สัมผัสรุ่นท๊อปที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งถือว่านี่คือรถคันที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของที่สุด ในรุ่นนี้
ล้อที่ใหญ่ขึ้นเป็นขอบ 15 นิ้ว ทำให้ได้ยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ช่วยให้มั่นใจยิ่งขึ้น ...พอสมควร อย่างที่กล่าวไปแล้วว่ายางที่มีหน้ากว่างใหญ่ขึ้นทำให้มีหน้าสัมผัสของล้อรถที่มากขึ้นกว่าเดิม และนั่นมีส่วนสำคัญต่อพวงมาลัยที่หนืดขึ้นกว่ารุ่นเกียร์ธรรมดาที่ขับไปแล้ว
ความจริงมันดูงุ่นง่านไปหน่อย จากเรื่องของน้ำหนักของพวงมาลัย แต่ด้วยยางใหญ่เอง ก็ทำให้การบังคับเลี้ยวมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รถดูเฉียบคม พอสมควรในการขับคันนี้ ซึ่งสำหรับสุภาพสตรีน่าจะกำลังพอดีๆ ไม่มากหรือน้อยเกินไปจนน่าหวาดเสียว
การบังคับเลี้ยวให้ความคล่องตัวในเมืองพอสมควรแม้จะหนืดๆ หนึบๆ แต้ยังคล่องตัวเหมือนเคย ซึ่งบางจังหวะตัวรถที่ยาว ส่งปัญหาออกมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากนัก ยิ่งตรงไหนที่ต้องช่วงชิงกับเพื่อนร่วมทางที่ใจแคบ อาจจะต้องเดาใจบ้างเล็กน้อย
ส่วนที่น่าชื่นชมสุดใน Mitsubishi Attrage ใหม่ ไม่น่าเชื่อว่ามันคือเบาะนั่ง เพราะวันนี้ฝนตกรถติดตามแบบฉบับ Thailand only เบาะนั่งในเจ้า Mitsubishi Attarge ใหม่ ก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ความนั่งสบายของมันไม่ได้ทำให้เราปวดหลังเมื่อยตูดแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งน่าจะขอบคุณเจ้าหนังเทียมทำหน้าที่มากกว่าแค่เป็นตัวหุ้มฟองน้ำ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้รถดูสบายมากขึ้นและที่สำคัญมันใช้งานได้จริง
ในที่สุดใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการหลุดออกมาจากย่านสุขุมวิท ก่อนนี่จะต่อเนื่องสู่ทางด่วน รามอินทรา-อาจณรงค์ และเจ้า Mitsubishi Attrage ใหม่ ก็สร้างความน่าประทับใจด้วยช่วงล่างที่เกาะถนนหนึบหนับไม่มีอาการโยนให้เห็น ส่วนหนึ่งจากอานิสงค์ของหน้ายางและขนาดล่อที่ใหญ่ขึ้นทำให้ แก้มยางลดลงช่วยให้หน้ากดมีมากขึ้น เมื่อบวกกับโช๊คและสปริง ที่โช๊คนิ่มขึ้น แต่สปริงกระด้างขึ้นเล็กน้อย มันก็ทำให้ในยามที่คุณใช้ความเร็วเดินทางมีความแตกต่างที่ชัดเจน
อีกเรื่องที่ว่าดีขึ้นก็คงเป็นเรื่องการเก็บเสียงในห้องโดยสาร แต่ที่ยังเป็นปัญหาแต่ก็เป็นปกติของรถเล็กคือการโคลงของตัวรถเมื่อเจอลมพัดสอบทางด้านข้างแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงมากแต่อย่างใด
เอาเป็นว่านี่คือหลากความน่าประทับใจเบื้องต้นใน All New! Mitsubishi Attarge ใหม่ ที่มันพร้อมจะวางจำหน่ายเต็มแก่แล้ว หลายคนอาจจะถามความเห็นเบื้องต้นของผมในรถรุ่นนี้ และผมจะตอบแบบเดียวกันที่ตอบให้ทีมงาน Mitsubishi ฟังไปแล้วว่า
“Mitsubishi Attarge เป็นซีดานที่คุ้มค่า ดีไซน์ต้องมองไปนานๆ ด้านหน้าดูโอเค เมื่อคุณมองมันบ่อยๆ มันจะสวยขึ้นๆ ด้านหลังดูสวยดีอยู่แล้ว การปรับปรุง ช่วงล่างและขนาดยางทำให้นี่คือความสมบูรณ์แบบที่พัฒนาขึ้นจาก Mitsubishi Mirage แถมออพชั่นที่มาครบครันจนเจ้าของ Mirage อย่างผม ยังต้องอิจฉา แล้วยิ่งมีโปรโมชั่น 9,000 คันแรก ลดราคาพิเศษสุด ...บอกตามตรงนี่ถ้าไม่รอเงินที่ได้จากรถคันแรกผม วางเงินจอง ณ บัดนาว ...เพราะมันคือซีดานที่คุ้มค่าที่สุดในกลุ่ม แถมยังปีนเกลียวไปรวบบางรุ่นในซิตี้คาร์บางรุ่นที่ยังรอเวลาปรับโฉมหนีตายเรื่องออพชั่น ...”
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง (บอล)
ชมภาพอีกมากมายได้ที่ http://photos.autospinn.com/2013-Mitsubishi-Attrage-1st-impresion/
ความคิดเห็น