ตั้งแต่เมื่อช่วงปี 2010 ที่ผ่านมา รถยนต์ Nissan March ก็กลายเป็นขวัญใจของใครหลายๆคน ด้วยส่วนหนึ่งรถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์คันแรกที่เข้ามาสู่ตลาดในฐานะรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ต่ำกว่า รถยนต์ที่เคยรู้จักกันมานานอย่าง city car และจากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นระยะเวลานานกว่า 3 ปี แล้ว ที่รถยนต์ Nissan March ใหม่ครองใจคนไทย
ในรอบทุกๆ 3 ปี รถยนต์แต่ละรุ่นจะต้องมีการปรับโฉม หน้าตาให้ดูทันสมัยและน่าคบหามากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้ Nissan March ได้ฤกษ์เสียที การปรับโฉมหลังจากที่ ค่ายรถยนต์หลาเจ้าเริ่มขอตบปะส่งรถยนต์อีโค่คาร์ใหม่ๆลงตลาด รวมถึงค่ายรถยนต์เจ้าตลาดที่เตรียมจะวางตลาดรถยนต์อีโค่คาร์ใหม่รุ่นสุดท้ายในแผงรถยนต์กลุ่มนี้ ในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ และการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเรียกกลุ่มลูกค้าให้ยังสนใจได้
ภายนอกสดใส สปอร์ตเร้าใจยิ่งขึ้น
เริ่มแรกเดิมทีใครที่ชอบรถยนต์ Nissan March ใหม่ คงจะพอจำเค้าโครงกันได้ กับเรือนร่างที่เล็กน่ารักของมัน ที่มาพร้อมหน้าตาจิ้มลิ้มดูแล้ว เหมาะกับผู้หญิง แต่ผู้ชายส่วนใหญ่ก็บอว่ามันลงตัวไม่แพ้กันในเรื่องการออกแบบ
การกลับมาคราวนี้ Nissan March 2013 เริ่มต้น ด้วยการขลับความน่ารักออกใหม่ทั้งหมด แล้วเปลี่ยนตัวตนที่ดูสดใสวัยจี๊ด เป็นตัวตนแบบสปอร์ตที่สาวกหลายคนอาจจะโดนใจ โดยเฉพาะนี่แหละคือสิ่งที่ต้องการสำหรับบรรดาวัยรุ่นทั้งหลาย
หน้าใหม่ของ Nissan March เริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่หมดจดขลับความเป็นตัวตนเดิมออกแล้วไม่ลืมที่จะเติมกระจังหน้าแบบ V strut เข้ามา เพื่อบ่งบอกความเป็นรถยนต์จากค่าย Nissan จากนั้นต่อเติมด้วยโคมไฟหน้าใหม่ที่ยังคงความเป็นรถตากบ แต่ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
ด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งสองอย่างที่กล่าวมา ทำให้ใบหน้าที่ดูเปลี่ยนแปลงไม่มาก ต้องปรับใหม่แบบยกเครื่องทั้ง เซท โดยเฉพาะใครที่ชอบดัดแปลง โฉม งานนี้ Nissan กระซิบมาว่า จะเปลี่ยนต้องจัดไปทั้งหมด นั่นรวมถึงแก้มข้าง ฝากระโปรงหน้า และ ที่หลายคนอาจจะเห็นอยู่แล้วคือกันชนหน้า ที่ทั้งหมดนั้นดูสปอร์ตลงตัวมากกว่าที่เคย
ด้านข้างไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก นอกจากล้ออัลลอยใหม่เปลี่ยนลายให้เร้าใจมากยิ่งขึ้น ในขณะที่บั้นท้ายมีการปรับรายละเอียดอีกนิดหน่อย ได้แก่ไฟท้ายใหม่ที่ยังคงสไตล์แก้มบุ๋มเฉกเช่นเดิม แต่มาในสไตล์ LED และกันชนท้ายที่ดูมีเส้นสายมากขึ้นในสไตล์สปอร์ต
เมื่อมององค์รวมของ Nissan March ใหม่แล้วค่อนข้างที่จะชัดเจนว่า Nissan March ใหม่ เน้นที่ความเป็นสปอร์ต แต่ที่ดูแล้วขัดใจมาก ก็ไม่พ้นความเป็นสปอร์ตที่มาพร้อมกับสีใหม่ 2 สี ที่ดูแล้วแปลกใจ ว่ามันขัดตาไปนิด
สีแรกที่หลายคนจะชอบ โดยเฉพาะสาวๆ แทบอยากจะกระโดดกอด Nissan ยิ่งกับใครที่ชอบ Hello Kitty เป็นชีวิตจิตใจ ก็ไม่พ้น สีชมพู สวีทพิงค์ ที่ดูหว้าน....หวาน (ต้องออกเสียงกระแดะเมื่ออ่าน) จนเราชายชาตรีไม่กล้าที่จะเฉียดใกล้
สีเขียว โอลีฟ กรีน ... สีนี้สิน่าแปลกใจ เพราะนี่มันสีที่ชายชาตรีชาติทหารจะต้องชอบ จน “กลาโหม” อาจจะอยากได้ Nissan March ไว้ในสำนักก็ได้ สีที่ดูเหมือนเขียวแก่ใบไม้นี้ ดูแล้วเคร่งขรึมไปสักนิดจนต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ยังไงเสียย่อมขายได้กับพวกบ้าทหารอย่างไม่ต้องสงสัย
ความจริงเราแอบหวังลึกๆว่าจะเห็นสีที่สดใสกว่านี่มาทำตลาด เช่น สีแดง สีเหลือง สีม่วง สีฟ้า อะไรราวๆ นั้น ซึ่งคู่แข่งมีสีเหล่านี้เพิ่มเติมมากขึ้นทุกที และที่สำคัญกลุ่มเป้าหมายที่โดยมากเป็นวัยรุ่นก็ชอบโทนสีเจ็บแสบโดนใจ
ห้องโดยสารเปลี่ยนไป สัมผัสแห่งความแตกต่าง
เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร ทุกอย่างในครั้งนี้ของ New! Nissan March มีความเปลี่ยนไปพอสมควร ตัวตนที่เราเคยเห็นในโทนสีดำของห้องโดยสาร ที่หลายเสียงบ่นว่า มันดูทึมๆ และเล็กไปเลย เมื่อนับขนาดของรถยนต์ Nissan March ก็แปลกตาไป
การกลับมาของ Nissan Marh ใหม่ เน้นความสดใส น่าเสียดายที่ความสดใสนี่จะมีเพียงในรุ่นท๊อป อย่างที่เราได้ขับขี่กับ Nissan March VL และรุ่นรองท๊อป โทนสีเบจเน้นความสว่าง ช่วยให้รถเล็กๆ ดูมีความกว้างขวางขึ้นทั้งที่ทั้งหมดยังเท่าเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
แม้จะได้รับการยืนยันว่า Nissan march ใหม่ใช้โครงเบาะเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ เมื่อนั่งปรับตำแหน่งกระชับพร้อมขับขี่ไปตามเส้นทาง New! Nissan March ใหม่ ก็มาพร้อมตอบโจทย์เรื่องการนั่งได้เป็นอย่างดี ตัวเบาะที่เคยถูกบ่นว่าดูเล็กไปหน่อย มีการปรับช่วงกระชับให้พอดี แม้จะนั่งนานไปหน่อยก็ไม่ทำร้ายให้เมื่อยหลังในยามขับขี่
ช่วงที่รองนั่งก็ทำออกมาได้ดีไม่สั้นไปเหมือนที่ผ่านมา ความสบายทั้งหมดเราประเมินว่า ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนไปของผ้าใหม่ที่เลือกใช้หนังกลับเทียมใหม่ เฉพาะในรุ่นที่เป็นสีเบจ และอาจจะเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนวัสดุในตัวเบาะเล็กน้อยที่ไม่ได้มีการเปิดเผย
ตรงหน้าคนขับพวงมาลัย 3 ก้าน ดูทันสมัยในทรงซาลาเปา ที่คล้ายกับที่มีในรถยนต์หรูจากยุโรป พวงมาลัยเล็กวงพอดีมือมาพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงให้ความง่ายในการใช้งาน ส่วนการตบแต่งห้องโดยสารตัดโทนเบจให้ดุมีความแตกต่างด้วย วัสดุสีดำ Piano Black จัดเอาไว้ตบแต่งพิเศษในส่วนของเครื่องเสียงและระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่มีเฉพาะรุ่น แต่ที่รับไม่ได้คือคันเกียร์ที่เหมือนที่ตักไอติม
การโดยสารตอนหลังเอง ไม่เปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพที่ยังทำออกมาได้คงเส้นคงวา อาจจะมีพื้นที่ยัดคนตัวใหญ่อย่างเรา ลงไปในเจ้าตัวจิ๋วคันนี้ แต่ที่ก็เรียกว่าพอดีเป๊ะ!! มีที่ให้ขยับเขยื้อนกันเมื่อย แต่ไม่ได้มากมาย ที่จะเต๊ะท่าหล่อ และเช่นเคยมันยังพับในอัตรา 60/40 ได้
ขับพิสูจน์ตัวเล็ก..ปฐมบทใหม่กับ ข้ามประเทศ
เคยคิดบ้างไหมครับ ว่า อีโค่คาร์จะขับไปไหนได้บ้าง ..และนั่นอาจจะทำให้คุณไม่นึกถึงว่ารถยนต์นั่งขนาดเล็กแบบนี้จะขับตะลุยข้ามประเทศได้...เส้นทางและปลายทางในครั้งนี้ Nissan เล่นหอบหิ้วเราตั้งแต่วันอาทิตย์มายังจังหวัดตราด เพื่อเตรียมท้าพิสูจน์ในเส้นทางไปยังกัมพูชา สู่ อุทยานแห่งชาติ พนมบอร์กอร์ ที่ลึกเข้าไปในดินแดนเพื่อนบ้านเรา
การเดินทางครั้งนี้เรามีคู่หูที่เป็นหญิงสาวมาด้วย กับ สาวแอม จาก Auto Vision ที่สำคัญได้เมาท์มอย เรื่อง Nissan March อย่างเมามันส์ นั่นเพราะ เธอใช้รถยนต์ Nissan March เป็นรถส่วนตัวในชีวิตประจำวัน จนเหกมือนมีกูรู Nissan March แนบมาเป็นคัมภีร์แถมาให้เพื่อให้เราได้รู้ว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างไร จากรุ่นเดิมที่เราไม่เคยได้ขับทดสอบในช่วงก่อนหน้านี้
หลังจากนั่งมาสักพักใหญ่สารภาพบาปว่าให้ หญิงสาวขับก่อน ก็ได้เวลาที่เราจะจับ New! Nissan March 2013 ใหม่อย่างเป็นทางการ เมื่อปรับขยับเบาะต่างๆ แล้วออกเดินทาง ก็เริ่มเห็นได้ชัดว่ามันแตกต่างออกไปจากอีโค่คาร์หลายๆ รุ่นที่เคยได้สัมผัสกันมา
การกลับมาอีกครั้งของ Nissan March ทุกอย่างลงตัวมากขึ้นและมันทำให้เราแปลกใจกับช่วงล่าง ซึ่งเป็นจุดอ่อนของรถยนต์อีโค่คาร์ ที่ไม่ได้มีการปรับขยายเรือนร่างจากเดิม
สิ่งที่รู้สึกได้ทันทีตั้งแต่เคลื่อนรถออกมา ก็ไม่พ้นช่วงล่างของ Nissan March ใหม่ เน้นไปในทางหนึบแน่น ตัวระบบมีการตอบสนองเร็ว โดยเฉพาะเส้นทางในเขมรที่อุดมด้วยหลุมบ่อมากมาย เช่นเดียวกับ ถนนสไตล์สองเลนส่วนที่มีสะพานอย่างต่อเนื่อง ก็น่าจะเป็นที่คุ้นเคยในสภาพเดียวกันนี้ตามต่างจังหวัดในไทย แถมเส้นทางสองเลนสวนที่ไร้รถยนต์ขับขี่ไปมา พร้อมช่วงโปรโมชั่นทดสอบช่วงล่างกับสภาพหลุมบ่อที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง บ้างเป็นเม็ดหินละเอียดบดปิดไว้ชั่วคราวเพื่อรอการซ่อมแซม ทำให้เรามั่นใจว่าช่วงล่างของ Nissan March ใหม่มีการปรับปรุงอย่างไร้ข้อสงสัย
แม้ต้องยอมรับว่าเราไม่เคยสัมผัสรถยนต์ Nissan March ใหม่มาก่อน แต่โชคดีที่สาวนั่งข้างเราในวันนี้จาก Auto Vision เธอเป็นเจ้าของรถยนต์ Nissan March ซึ่งเธอเองมั่นใจว่าช่วงล่างของ Nissan march ใหม่ที่เราขับขี่อยู่นี้มีการปรับปรุงมาใหม่หมดจดอย่างแน่นอน
ความสั่นสะเทือนที่นุ่มนิ่มในสไตล์รถยนต์ราคาถูกหายไป และ Nissan march ใหม่มาพร้อมบุคลิกที่ดูมีความสปอร์ต ช่วงล่างที่มีความนุ่มนิ่มโดยเฉพาะทางด้านหลัง ถูกปรับให้หนึบแน่น มีการยุบตัวที่น้อยมาก เราเห็นได้จากการกระโดดหลุมของตัวรถเอง หรือ คอสะพานเอง ที่รถจะซับแรงกระแทกไว้ที่ช่วงล่างได้ดี
นี่หมายถึง โช๊คมีการตอบสนองเร็วขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย และการเกาะโค้งที่ดีแม้จะใช้ความเร็ว 90-100 ก.ม./ช.ม. อาจจะออกแนวกระด้างเล็กน้อย หมายถึงสปริงใหม่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านหลัง
ช่วงระหว่างที่เราขับขี่ต้องวิ่งบนเส้นทาง สองเลนสวน ต้องยอมรับว่า ขุมพลังใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ 3 สูบแถวเรียง ขนาด 1.2 ลิตร คงความเก๋าเอาไว้ ด้วยกำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และ ให้แรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที คู่กันเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT สามรถตอบสนองการขับขี่ ทั้งสมรรถนะและความประหยัด
แม้จะเรียกว่าไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในเรื่องขุมพลัง แต่ระหว่างทางก็สามารถรู้สึกได้ว่าระบบเกียร์มีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ชุดเกียร์สามารถตอบสนองได้ดีกระชับรวดเร็วทันใจ แม้จะไม่เคยขับขี่รุ่นเดิมมา แต่เมื่อวัดที่อัตราเร่งจากชุดเกียร์ CVT ที่เคยผ่านมือมาในรถอีโค่คาร์หลายๆรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากผู้ผลิตเดียวกัน Jatco ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นเกียร์ที่ตอบสนองดีที่สุด
มองตามรายละเอียดทางเทคนิค เราพบว่ามันไม่มีความเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความถึงมันอาจจะได้รับการปรับแต่งหน่วยประมวลผลใหม่ ซึ่งสามารถรู้สึกได้ทุกครั้งที่ต้องรวบรวมกำลังของเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ในการเร่งแซง โดยเฉพาะในจังหวะที่คับขัน การปรับการประมวลผลใหม่ช่วยให้ง่ายมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจน คือระบบเกียร์มีการคิกดาวน์ใน 1 จังหวะอัตราทดเกียร์มากขึ้น ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการรีดกำลังจากเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ในทุกครั้งที่ต้องการความเร็วเพิ่มขึ้น แต่ไม่ถ้าคุณจับจังหวะไม่ถนัดนัก ปุ่ม O/D ที่ข้างคันเกียร์ก็ช่วยให้คุณขับขี่ได้สนุกสนานขึ้น และยังสามารถใช้งานร่วมกันได้กับการบดคันเร่งลงไปตามต้องการ ซึ่งแม้แต่เจ้าของ Nissan March คันเก่ายังบอกว่า การปรับแต่งเช่นนี้ช่วยให้มีความมั่นใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการเร่งแซง
ช่วงระหว่างทางสองเลนสวนกันในกัมพูชา เกือบตลอดการเดินทาง เครื่องยนต์1.2 ลิตร ก็โชว์สมรรถนะอย่างเต็มที่ แม้การนั่งสองคนอาจจะเพิ่มภาระให้กับเจ้า Nissan March ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เกินกำลังสำหรับขุมพลังบล็อกเล็กเน้นประหยัด ก็พิสูจน์แล้วกับความอึดและสมรรถนะของมันเ พียงแต่ข้อจำกัดเรื่องกำลัง ทำให้คุณจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์ให้ถูกต้อง และเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งเราเตือนทุกครั้งที่มีโอกาสในการทดสอบรถยนต์อีโค่คาร์
หลังจากเดินทางจนเกือบถึงที่หมาย ในที่สุด การเดินทางของเราก็มาถึงบททดสอบสุดท้าย การเดินทางสู่ พนมบอร์กอร์ ป็นปฏิบัติการณ์ไต่ระห่ำเพื่อพิสูจน์ความถึกและสมรรถนะ แก๊งค์ลูกกวาดขบวน Nissan March ใหม่ เส้นทางเริ่มปรับสู่ทางโค้งตามแบบฉบับทางเขา เรามีโอกาสในการเหวี่ยงพวงมาลัยอย่างจริงจัง
ความจริงแล้วตลอดการเดินทางพวงมาลัยของ Nissan March ใหม่เป็นอีกจุดที่เราชอบมาก ด้วยน้ำหนักที่ตอบสนองกำลังเหมาะมือ ไม่เบาหรือหนักเกินไป ผู้หญิงขับได้ ผู้ชายขับดี เป็นนิยามที่น่าจะไม่ได้โอเว่อไปสำหรับพวงมาลัยเจ้าตัวเล็กในรถคันนี้
จังหวะพวงมาลัยเองปรับให้ออกแนวสปอร์ตพอสมควร แม้มันจะไม่ได้เฉียบคมไปตามมือเสียทีเดียว แอบมีระยะฟรีให้ถือประคองอยู่พอตัว แต่การปรับหมุนที่ง่าย ก็ทำให้มันรู้สึกไม่ยุ่งยาก ยิ่งทางเขาโหดเช่นนี้ ที่ต้อนรับด้วยโค้งตัว S โค้งแฮร์พิน อย่างต่อเนื่องมาเป็นคอมโบเซท จัดหนักให้นักขับจากประเทศไทยทุกคันมือขยันยังสะบัดพวงมาลัยซ้ายขวา อย่างต่อเนื่อง.. เราว่า มันลงตัว
เมื่อผสานการทำงานเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร และชุดเกียร์ที่ทำงานดีขึ้นแบบรู้ใจคนขับมากขึ้น บวกกับช่วงล่างที่แน่นหนึบและลดอาการโคลงเคลงของรถเล็กไปได้มากจากชุดโช๊คและสปริงที่ปรับมาใหม่ยกเซท ก็แทบจะบอว่า นี่คือสิ่งที่เราฝันจะเห็นมานานในรถยนต์อีโค่คาร์ และอีกครั้งที่ผู้นำตลาดอีโค่คาร์ Nissan ไม่รีรอที่จะให้เราได้สัมผัสกันในราคาที่คุ้มค่าพอตัว
แม้ต้องยอมรับว่าในการเดินทางครั้งนี้มีความประทับใจอยู่มากมาย โดยเฉพาะสมรรถนะของ Nissan March เองที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะพาเราข้ามชายแดนไปเยือนเพื่อนบ้านได้ แต่มีเรื่องเดียวที่ Nissan March ยังต้องปรับปรุง นั่นคือเสียงแตรเบาเกินไป ...เสียงหงี่ๆ หวี่ๆ ออกแนวไม่เสนาะหูแล้ว ยังไม่ได้ช่วยในการเตือนเพื่อนร่วมทางให้ระวังภัย ซึ่งจุดนี้ต้องพิจารณา ยิ่งนี่คือรถยนต์ที่ใช้ในเมืองที่ไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้
ด้านตัวเลขประหยัดขับกันแบบกระทุ้งสุดๆ ตามทางเลนสวน จอดพักบ้างตามภาษาคนเดินทาง เราได้ตัวเลข 11.6 กิโลเมตร/ลิตร จากเครื่องยนต์1.2 ลิตร เติมน้ำมันออกเทน 97 ในกัมพูชา ตอนขากลับ(ไม่รู้ว่าตัวเลขออกเทนเชื่อได้ไหม) ในสภาวะแดดเปรี้ยง นั่งสองคนพร้อมสัมภาระบนถนน 2 เลนสวน ที่ขวักไขว่ด้วยรถ ที่ต้องใช้รอบเร่งแซงอย่างต่อเนื่องในการเดินทาง 100-130 ก.ม./ช.ม. ตามแต่สภาพการเดินทาง ซึ่งจะว่าไปก็ยังไม่สวยนัก แต่เอาเป็นว่าจะแปะโป้งไว้ ตอนมาขับทดสอบเองจริงจังอีกที
Nissan March 2013 ใหม่น่าจะเรียกว่าเป็นอีโค่คาร์ที่ครบครันในราคาที่คุ้มค่า ด้วยหน้าตาที่ดูดีเหมาะสำหรับคนรักความสปอร์ตตัวจริง สมรรถนะการขับขี่ที่ได้รับการปรับปรุงในหลายๆจุด โดยเฉพาะระบบกันสะเทือนที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการปรับการประมวลผลของชุดเกียร์ใหม่ .... ที่ยังไม่รวมออพชั่นภายในอีกมาก ...ก็คงพอจะพูดได้ว่ามันคือ อีโค่คาร์ที่น่าโดนมากๆ ถ้าคุณมองรถอีโค่คาร์ 5 ประตู ที่มีฟังชั่นครบครันไม่แพ้ B-Car
ผลการทดสอบรถยนต์ New! Nissan March 2013
รถยนต์ Nissan March 2013 VL CVT
ราคาจำหน่าย 555,000 บาท
สภาพการทดสอบ จำนวนผู้โดยสาร 2 คน พร้อมสัมภาระเป้ 3 ใบ
สภาพอากาศ ท้องฟ้าแจ่มใส
ระยะทางทดสอบทั้งสิ้น 340 ก.ม.
อัตราการทำงานของเครื่องยนต์
เครื่องยนต์รหัส HR 12DE แบบ 3 สูบแถวเรียง ขนาด 1.2 ลิตร
ระบบเกียร์ Xtronic CVT (jatco 7 Speed)
ความเร็ว (ก.ม./ช.ม.) | การทำงานของเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที) |
80 | 1500 |
90 | 1700 |
100 | 1900 |
110 | 2100 |
120 | 2300 |
อัตราประหยัดที่ได้ 11.6 ก.ม./ลิตร (ออกเทน 97 จากกัมพูชา ขับความเร็วเดินทางบนสภาพถนนสองเลนสวน ตลอดทาง 340 ก.ม.)
ขอบคุณคาราวานทดสอบ Nissan March 2013 เส้นทางคาราวาน ตราด-พนม บอร์กอร์ โดย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ภาพโดยบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด , ณัฐยศ ชูบรรรจง
เรื่องและขับทดสอบ โดย Bonn- ณัฐยศ ชูบรรจง
ความคิดเห็น