รถยนต์ Eco Car บ้านเราที่ยอดจองต่อคิวกันสุดยาวเหยียดตั้งแต่ปีก่อน แน่นอนว่า นั่นคือ Suzuki Swift ได้สร้างกระแส Swift Fever กันเป็นอย่างมากทั่วประเทศ โดยก่อนหน้านี้ทางเราได้เคยทำรีวิว ของ Suzuki Swift ในรุ่นเกียร์ CVT ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว และด้วยสาเหตุที่ว่า ตัวเกียร์ CVT นั้นคิวจองกันยาวนานมาก จากสาเหตุที่ว่า รถ Eco Car แทบทุกค่ายใช้เกียร์ CVT ลูกเดียวกัน นั่นคือ ของ Jatco ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้การผลิตรถนั้นล่าช้า เมื่อต้นปี 2013 นี้ทาง Suzuki จึงได้จัดส่งรุ่นที่ ใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา (MT) ออกมา รองรับตลาดชั่วคราวกันไปก่อน ซึ่ง ผู้ที่ไม่ต้องการรอ หรือคนที่ชอบขับรถเกียร์กระปุก เน้นสมรรถนะ ไม่ควรที่จะพลาดกับ Suzuki Swift ตัว MT ใหม่นี้
สำหรับการขับทดสอบในครั้งนี้ ขอขอบคุณ บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล ที่ได้ให้รถทดสอบมาในคราวนี้ ซึ่งเป็นรุ่น Suzuki Swift GL เกียร์ MT สีขาว Snow White Pearl คันนี้
Suzuki Swift ใหม่ นั้นได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว โดยปราศจากรุ่นเกียร์ธรรมดา ซึ่งต่างจากค่ายอื่นที่มีครบ โดยจับรุ่นเกียร์ธรรมดา เป็นรุ่นถูกสุดราคาต่ำ แต่ทาง Suzuki นั้นได้จัดส่งรุ่นเกียร์ธรรมดา ออกมา 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น GA ราคา 429,000 บาท และ GL 467,000 บาท ซึ่งรุ่น GL เกียร์ธรรมดาตัวท็อปนี้ มาพร้อมออปชั่นมาตรฐานเดียวกับรุ่น GL เกียร์ CVT แต่มีราคาที่ถูกกว่า 40,000 บาท ออปชั่นน่าสนใจของรุ่น GL ได้แก่ กุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมปุ่ม Request Switch ที่มือเปิดประตูด้านหน้าทั้ง 2 ฝั่งมาพร้อมปุ่ม Push Start (ซึ่งความแตกต่างในตอนกด Push Start นั้นคือ ในรุ่นเกียร์ CVT จะใช้เหยียบเบรก ก่อนกด Push Start แต่ในรุ่นเกียร์ MT นี้จะต้องเหยียบคลัช แทนแล้วจึง กด Push Start ได้) และกระจกมองข้างแบบปรับและพับไฟฟ้า แต่ที่ดูรกตาไปนิด ก็เห็นจะเป็นล้อฝาครอบกะทะเหล็กขนาด 15” แต่ก็คงไม่ใช่ประเด็นสักเท่าใด ถ้าหากคนที่เลือกเล่นเกียร์ MT เน้นขับสนุก จะไปหาเปลี่ยนแม็กเอาเองภายหลัง
ด้านสมรรถนะในการขับขี่
เครื่องยนต์บล๊อกเดิม K12B ความจุ 1.25 ลิตร 4 สูบ พร้อมระบบวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย VVT มอบกำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบพร้อมแรงบิด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที รองรับน้ำมัน E20 ได้เช่นเดิม แต่ฟีลลิ่งการขับคนละเรื่องกันเลยเลย การตอบสนองของแป้นคันเร่งไม่หน่วง ทำได้ดีกว่าตัวเกียร์ CVT ถึงไม่ได้แรงจี๊ดจ๊าด แต่ก็ขับได้สนุกไม่ใช่ย่อย แค่เหยียบคลัชเข้าเกียร์ 1 เพียงเติมคันเร่งไว้สัก 3000rpm แล้วยกเท้าปล่อยคลัช และกระแทกคันเร่งเต็ม สามารถขับออกตัวล้อฟรีได้อย่างสบาย ทำให้รถใหญ่หลายคันเกียร์ AT อายรถเล็กอย่าง Swift เพราะสามารถโชว์สมรรถนะได้ ไม่น้อยหน้ารถใหญ่ ยิ่งถ้าไปออกตัวในสนาม Drag ได้เกิดเลยทีเดียว ขับลากเกียร์ไปจนสุดที่ราว 6250 rpmช่วงเข้า Red Line จะมีการล๊อครอบ คือไม่สามารถลากให้ไปได้ไกลกว่านี้ จะต้องสับเกียร์ขึ้น
วัดทดสอบอัตราเร่งจาก ECU ผ่าน OBD ได้ 0-100 กม./ชม. ทำได้ 12.96 วินาที และ ¼ Miles ใน 18.93 วินาที Top Speed ได้ 173 กม./ชม. ตาม GPS และ ตามมาตรวัดที่ 176 กม./ ชม. แรง G-Force สูงสุดที่วัดได้ 0.6
หมายเหตุ น้ำมันที่ใช้เป็นแก๊สโซฮอล์ 95 เปิดแอร์นั่ง 2 คน ในช่วงทดสอบ 0-100 กม./ชม. ผู้ขับเลี้ยงคันเร่งออกตัวที่ 3000rpm สับเกียร์ที่ 6000rpm ทุกเกียร์ ซึ่งเป็นรอบที่ให้แรงม้าสูงสุด
ระบบส่งกำลัง เกียร์ Manual 5 Speed ที่มาพร้อมหัวเกียร์ และถุงกระปุกเกียร์หุ้มหนัง ทำให้ดู Look สปอร์ต และจับกระชับ แถมสวยงาม มอบอรรถรสในการขับขี่เหมือนขับอยู่ในรถสปอร์ตตัวแรง น้ำหนักคลัชก็ไม่ได้หนักมากจนเกินไป ออกจะเบาสบายเท้าด้วยซ้ำ ขับขี่ในการจราจรรถติด ก็ไม่ได้รู้สึกเมื่อยเท้าซ้ายมากสักเท่าไร คันเกียร์จับกระชับทำให้การสับเข้าเกียร์เป็นไปได้แม่นยำดี ลองดูความสัมพันธ์ความเร็วต่อรอบเครื่องยนต์ ที่เกียร์สูงสุด ได้วัดที่ 3 ค่าได้ดังนี้ 80 กม./ชม. = 2150rpm 100 กม./ชม. = 2650rpm 120 กม./ชม.= 3250rpm จะเห็นว่ากินรอบเครื่องสูงกว่าเกียร์ CVT พอสมควร จากอัตราทดเกียร์ที่เน้นออกมาในเชิงขับขี่แบบสนุกสนาน เสียมาก จนอาจทำให้ลืมความเป็นรถ Eco Car ซึ่งในจุดนี้ ถ้ามาเทียบกัน กับคนที่ขับเกียร์ CVT เป็น ในตัวเกียร์ CVT น่าจะทำออกมาได้ประหยัดกว่า แน่นอน
แฮนด์ลิ่งพวงมาลัย ผ่อนแรงแบบแร็คแอนด์พีเนียน มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.8 เมตร ให้น้ำหนักค่อนข้างเบามากในช่วงความเร็วต่ำ จนแอบรู้สึกว่ามันดูจะเบากว่าในรุ่นเกียร์ CVT เสียด้วยซ้ำ แถมพวงมาลัยมีระยะฟรีที่มากพอสมควร ความไวมีพอตัวจนอาจจะรู้สึกไวไปนิด ในการหักเลี้ยวเข้าโค้งซึ่งถ้าหักไวและมากไปนิด รถจะมีอาการหน้าไวส่ายไปเล็กน้อย แต่โดยรวมการเซ็ตพวงมาลัย ออกมาให้ขับแบบกระฉับกระเฉงตามสไตล์รถเล็กเน้นคล่องตัว ที่ความเร็วสูงขึ้น ยังรู้สึกว่าน้ำหนักยังเบาน้อยไปอยู่ดี จะเริ่มรู้สึกหนืดขึ้นในช่วงความเร็วสัก 120 กม./ชม. แต่เมื่อเทียบกับความเร็วที่ใช้ น่าจะให้หนักสูงกว่านี้อีกสักหน่อย เพื่อให้การควบคุมมีความมั่นคงที่ดีขึ้น
ระบบกันสะเทือนช่วงล่าง เน้นออกแนวนุ่มนวลนั่งสบาย กว่ารถ Sub-Compact หลายคัน แต่ไม่ใช่นุ่มนวลแบบนุ่มนิ่ม ยังมีความเฟิร์ม ดี ใช้ได้ การขับมุดการจราจรที่พอเคลื่อนที่ได้ โยนซ้าย หลบขวา แบบ Slalom ดู พบว่ารถคลอนตัวเล็กน้อย ซึ่งสอดคล้องไปกับน้ำหนักแฮนด์ลิ่งที่เบาและค่อนข้างไว และช่วงล่างที่เซ็ตออกนิ่มนั่งสบาย จึงมีอาการนี้โผล่ให้เห็น แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ เมื่อดึงพวงมาลัยกลับคืนมาอีกด้าน แต่จังหวะที่ขับมาเร็ว และได้มีโอกาสเบรกในโค้ง เรายังพบว่า รถออกจะส่าย ลำตัวรถไม่ตั้งในแนวตรง ท้ายจะออกอาการโยนออกเล็กน้อย ซึ่งอาจต้องใช้ความนระมัดระวัง หากต้องมีโอกาสเบรก ที่ความเร็วในโค้ง ซึ่งจุดนี้อาจส่งผลให้มีอาการท้ายปัดออกให้เห็น
ระบบห้ามล้อ เบรกคู่หน้าเป็นดิสก์เบรก แบบมีครีบระบายความร้อน คู่หลังเป็นดรัม เรายังคงยืนยันคำเดิมว่า เป็นรถที่เบรกดีที่สุดในกลุ่ม Eco Car การตอบสนองของเบรก ยังทำได้ดีเหมือนเดิม คือหนึบแน่น เชื่อใจได้ และยังคงให้ฟีลลิ่งที่นุ่ม ไม่แข็งทื่อแบบไร้น้ำหนักเบรก เหมือนอย่าง Eco Car คันอื่น
สรุป Suzuki Swift ในรุ่นเกียร์ธรรมดาคันนี้ เป็นรถยนต์ Eco Car ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่สนุกที่สุด คุ้มค่าราคา ทั้งสมรรถนะ และออปชั่น ความลงตัวสวยงาม ช่วงล่างและเบรกอันโดดเด่นเหมือนเดิม แต่ขับสนุกขึ้น และเรียกพละกำลังได้เต็มที่จากระบบส่งกำลัง แต่อัตราสิ้นเปลือง อาจจะสูงกว่าเกียร์ CVT อยู่เล็กน้อย จากรอบเครื่องที่ใช้สูงกว่าในการเดินทาง ถือว่าเป็นปกติ เพื่อแลกกับความแรง สมรรถนะการขับขี่ที่ได้ ถือว่าเป็นรถที่น่าสนใจคุ้มค่า คันหนึ่ง แต่ถ้าสำหรับการเป็น 1st car buyer กับคนที่ขับรถยังไม่คล่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้ในตัวเมือง เกียร์ MT ก็อาจสร้างความลำบากใจให้ได้ แต่สำหรับผู้ที่ขับรถเกียร์ MT เป็นคล่องแล้ว และชอบสมรรถนะการขับขี่ แบบขับใช้งานได้ประหยัดคุ้มค่าราคา Suzuki Swift เกียร์ธรรมดาคันนี้มอบ สิ่งนั้นให้คุณได้แน่นอน
ภณ เพียรทนงกิจ ผู้เขียน
ชมภาพเพิ่มคลิ๊ก http://photos.autospinn.com/2013-Suzuki-Swift-MT-TestDrive/
ความคิดเห็น