[VDO] ขับทดสอบ Chevrolet Cruze 1.8 LTZ ใหม่.."ตัวเต็ม" Share this
วิดีโอรถยนต์
โหมดการอ่าน

[VDO] ขับทดสอบ Chevrolet Cruze 1.8 LTZ ใหม่.."ตัวเต็ม"

Admin
โดย Admin
โพสต์เมื่อ 15 July 2556

สำหรับช่วง Motor Drive ในสัปดาห์นี้ เราจะพาคุณไปทดสอบสมรรถนะของ Chevrolet Cruze ใหม่ ขุมพลัง 1.8 ตัวท็อป รุ่น LTZ โมเดลปี 2013 ที่ดูๆไปแล้ว Cruze ใหม่ ก็เหมือนภาคต่อของหนังฟอร์มยักษ์ ซึ่งถ้าภาคแรกสร้างไว้ดีแค่ไหน การที่จะทำให้ภาค 2 นั้นดูดีกว่านั้นถือเป็นงานยาก และนั่นคือการบ้านที่ผู้สร้างอย่าง GM พร้อมพิสูจน์ใน Chevrolet Cruze ภาค 2 ว่ามีดีกว่าที่เห็นแค่ไหน

Cruze's Start

Chevrolet Cruze เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 ภายใต้รหัสตัวถัง J300 ก่อนจะพัฒนาเป็นโมเดลปัจจุบันบนตัวถังแบบ GM Delta II แฟลทฟอร์ม ที่เปิดตัวไปแล้วกว่า 75 ประเทศใน 5 ทวีป และสามารถโกยยอดขายไปแล้วกว่า 3.5 แสนคันทั่วโลก ซึ่งนอกจากทั้ง 3 รุ่น ที่มีจำหน่ายในบ้านเราแล้วในตลาดโลกยังมีตัวที่ใช้ขุมพลัง 1.4 Turbo กับรุ่น 5 ประตูแฮทแบ็คซ์ให้เลือกอีกด้วย

Chevrolet Cruze เปิดตัวครั้งแรกในบ้านเราไปเมื่อปลายปี 2010 พร้อมกันทีเดียว 3 รุ่น ตั้งแต่ รุ่นเล็กเครื่อง 1.6 ลิตร ราคาเริ่มต้นที่ 7.35 แสนบาท ตามด้วย รุ่นกลางขุมพลัง 1.8 ลิตร ซึ่งมีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อยที่มีค่าตัวตั้งแต่เจ็ดแสนกลางไปจนเฉียดล้าน สุดท้ายคือตัวท็อปที่ถือว่าปลุกกระแสรถคอมแพ็คซีดานด้วยการหันมาใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เป็นตัวขับเคลื่อนรถไซด์นี้เป็นเจ้าแรกในบ้านเรา

test-drive-chevrolet-cruze-resize-3

ก่อนจะทำการ Facelift และเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาอีกครั้ง พร้อมการปรับโฉมและเพิ่มลูกเล่นเข้าไปอีกเล็กน้อยแบบไม่มีการอัพราคาเพิ่ม โดยเฉพาะในรุ่น 1.8 ลิตร ที่เป็นดาวเด่นซึ่งมาพร้อมกับขุมพลังที่รองรับน้ำมัน E85 ได้ และถูกวางตำแหน่งทางการตลาดไว้ให้เป็นคู่ชกแบบตรงรุ่นกับ Honda Civic ,Toyota Altis และ Lancer EX ในรุ่น 1.8 ซึ่งทุกคันล้วนเติมน้ำมัน E85 ได้ไปก่อนหน้าแล้ว ทีนี้ก็อยู่ที่ว่า Cruze 1.8 ใหม่ จะงัดไม้เด็ดอะไรออกมาสู้รบกับคู่แข่งอีกบ้าง..เดี๋ยวเราไปดูกัน

Design&Interior

รูปลักษณ์ภายนอกของ Chevrolet Cruze ใหม่ นั้นมีการปรับโฉมเพิ่มเติมเล็กน้อยจากโมเดลก่อนในแบบ Facelift ที่ทำให้มันหล่อหรูดูดีมีรสนิยมมากขึ้น ตั้งแต่ด้านหน้าที่มีการเปลี่ยนกันชนใหม่ ที่เพิ่มความโค้งมนของเส้นสายพร้อมชายล่างแบบมีสปอยเลอร์ในตัว รับกับไฟหน้าใหม่ดีไซน์เข้ารูปพร้อมเพิ่มความหรูหราด้วยขอบโครเมี่ยม ซึ่งมีระบบเปิด/ปิดอัตโนมัติ และระบบไฟนำทาง (Auto Headlamp) มาให้ แต่ยังคงส่องสว่างด้วยหลอดไฟแบบฮาโลเจนไม่ใช่ HID ส่วนไฟตัดหมอกได้เปลี่ยนจากกรอบแนวนอนมาเป็นทรงตั้งดีไซน์ใหม่ รับกับกระจังหน้า "Dual-Port" ดีไซน์ใหม่แบบลายเส้นแทนรังผึ้งสีดำพร้อมกรอบโครเมี่ยมที่ทำให้โลโก้โบว์ไทด์ดูเด่นขึ้น ส่วนด้านข้างที่เห็นชัดเจนคือล้ออัลลอยใหม่ จากลาย 5 ก้านตรงๆเรียบๆมาเป็นก้านคู่ที่โค้งมนดูพริ้วไหว ขนาด 17 นิ้วเท่าเดิมในรุ่น LTZ พร้อมยาง Kumho Solus KH17 ไซด์ 215/50R17 นอกจากในเรื่องของความสวยงามแล้ว Cruze ใหม่ ยังเพิ่มปุ่มปลดล็อคที่มือจับประตูทุกบาน แต่ไม่ใช่แบบสัมผัสเหมือนรุ่นแรก ที่ทำงานคู่กับกุญแจ Keylees Entry ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้า/ออกห้องโดยสาร ก่อนจะปิดท้ายด้วยกันชนหลังที่เพิ่มความเหลี่ยมสันที่เข้ากับภาพลักษณ์โดยรวมพร้อมชายด้านล่างดีไซน์เล่นระดับสไตล์สปอร์ตให้กับ Cruze ใหม่ได้อย่างลงตัว

test-drive-chevrolet-cruze-1.8ltz-4-resize

ซึ่งถ้าคุณมอง Chevrolet Cruze ใหม่ แค่ภายนอกแน่นอนว่ามันดูหล่อและเฉียบขึ้นกว่าเดิมสำหรับผู้ที่รู้จัก Cruze เป็นอย่างดี แต่สำหรับคนทั่วๆไปมันอาจดูน่าสนใจไม่มากนักกับดีไซน์ที่ต่างจากเดิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนเรื่องออพชั่นภายนอกถือว่าคันนี้คุ้มค่าขึ้นจากรุ่นเดิมอีกนิดในราคาเท่าเดิม ด้วยสวิทซ์เปิด/ปิดประตูที่เพิ่มให้เป็น 4 บาน แต่ถ้าเทียบกับค่าตัวเหยียบล้านมันยังดูน้อยไปอยู่ดี ถ้าจะให้ดูคุ้มควรใส่ของเล่นมาให้อีกหน่อย อย่างไฟหน้า HID หรือ LED แบบปรับสูง/ต่ำอัตโนมัติ ไม่ต้องถึงขั้นปรับตามองศาการเลี้ยวก็ได้ ไม่ก็ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างสักคู่ หรือสปอยเลอร์สักชุดน่าจะดูสมน้ำสมเนื้อขึ้น เรียกคะแนนแซงหน้าคู่แข่งได้สบาย

test-drive-chevrolet-cruze-1.8ltz-20-resize

ห้องโดยสารของ Cruze ใหม่ ยังคงโดดเด่นด้วยดีไซน์และบรรยากาศของแสงไฟ ที่บ่งบอกถึงความล้ำสมัยแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจนมาตั้งแต่รุ่นแรก ด้วยการจัดวางองประกอบต่างๆแบบ Dual Cockpit เข้ากับคอนโซลกลางแบบ V-Shape เพื่อให้ผู้โดยสารตอนหลังได้สัมผัสบรรยากาศในเบื้องหน้าได้เต็มที่ ซึ่งในรุ่นนี้ได้เพิ่มความหรูหราด้วยวัสดุหุ้มคอนโซลหน้าและเบาะสีน้ำตาล (Brown Stone) สไตล์เดียวกับรถหรูจากฝั่งยุโรปแบบทูโทน เมื่อรวมกับวัสดุตกแต่งโทนดำตัดสลับกับสีเงินเมทัลลิก และแสงไฟ LED สีฟ้าเข้มจากมาตรวัดเรืองแสงแบบ (Crisp Ice Blue Illumination) ทรงกลม 3 วงซ้อนและตามจุดต่างๆ ยิ่งทำให้มันดูดีขึ้นชัดเจน นอกจากนี้ยังได้เปลี่ยนปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์จากทรงเหลี่ยมมาเป็นทรงกลมสไตล์คลาสิค ส่วนที่เหลือยังคงเป็นฟังชั่นที่ติดมาให้แบบเดียวกับโฉมก่อน ซึ่งมีให้แบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยสามก้านดีไซน์ล้ำอนาคตแบบ Multi-Function ที่มีสวิทซ์ควบคุมเครื่องเล่น วิทยุ-ซีดี 1 แผ่น พร้อมระบบนำทางแบบ Music Navigator กับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และหน้าจอแสดงผลข้อมูลต่างๆ (Infortainment Graphic Information Display) ขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน และปิดท้ายด้วยระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth ที่ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เอนเทอเทนเมนท์ได้แต่กลับใช้เป็นอุปกรณ์สื่อสารแทนโทรศัพท์ไม่ได้ซะอย่างนั้น

test-drive-chevrolet-cruze-1.8ltz-8-resize

ส่วนเรื่องความกว้างขวางนัั้น ถือว่ามีช่วงหลังคาด้านหน้า (Head Room) สูงพอสำหรับไซซ์ฝรั่ง กับพื้นที่ช่องวางขาด้านหลัง หรือ Leg Room ที่กว้างพอสมควร ระดับ 35-66 ซม.นั่งไกลๆไม่เมื่อยบนเบาะหลัง เช่นเดียวกับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่กว้างถึง 400 ลิตร พร้อมเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ด้วยการพับเบาะแบบ 60:40 ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาแสดงให้เห็นว่าภายในห้องโดยสาร Cruze แม้จะไม่กว้างขวางกว่าคู่แข่งมากนัก แต่มันก็สามารถรองรับผู้โดยสาร 4 - 5 คน ได้สบายๆ ตามมาตรฐานของรถคอมแพ็คซีดาน บนงานดีไซน์ที่โดดเด่นบวกกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันและแสงสีทั้งหมดที่เป็นตัวกระตุ้นให้รู้สึกตื่นเต้นได้เมื่อขึ้นไปนั่งอยู่ในห้องโดยสารของ Chevrolet Cruze

test-drive-chevrolet-cruze-1.8ltz-6-resize

Engine&Performance

จากนั้นมาต่อที่ขุมพลังที่ถือเป็นไฮไลท์ใน Chevrolet Cruze ใหม่ ที่หันมาตามกระแส ด้วยการนำเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว บล็อก 1.8 ECOTEC ใหม่ รหัส F18D4 มาพัฒนาให้กลายเป็น Flex Fuel เพื่อรองรับน้ำมัน E85 ได้ ด้วยการปรับจูน Map ECU ใหม่ รวมถึงการติดตั้งเซ็นเซอร์เพิ่มอีกหลายจุด พร้อมเปลี่ยนหัวฉีดใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรับมือกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงที่มีการไหลเวียนสูงกว่าเดิม รวมถึงการปรับปรุงชิ้นส่วนต่างๆภายในเครื่องยนต์ที่ต้องสัมผัสกับเชื้อเพลิง อาทิเช่น วาล์ว บ่าวาล์ว และวัสดุจำพวกท่อยางและสายเชื้อเพลิงต่างๆที่ทนการกัดกร่อนได้มากขึ้น

test-drive-chevrolet-cruze-1.8ltz-7

บวกกับเทคโนโลยีต่างๆที่มีอยู่เดิม อย่างระบบวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย ซึ่งเชฟฯจดลิขสิทธิ์ไว้ในชื่อ Double CVC (Double Continuous Variable Cam Phasing) และทำให้มันมีพละกำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แต่แรงบิดสูงสุดเท่าเดิม 177 นิวตันเมตร ตั้งแต่ในรอบต่ำ ที่ 3,800 รอบ/นาที และส่งถ่ายกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed Gen II ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่มีการพัฒนาเพิ่มเติมจากเกียร์ลูกเดิม พร้อมระบบ Driver Shift Control (DSC) เอาไว้เปลี่ยนเกียร์เองเมื่อต้องการเปลี่ยนอารมณ์มาขับให้สนุกสนานมากขึ้น

ซึ่งจากที่ได้ลองขับจะรู้สึกได้ว่ามันแม่นยำและนุ่มนวลเพิ่มมากกว่าขึ้นในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้ขับสบายพร้อมจังหวะการเร่งแซงที่ทำได้ดีกว่าเกียร์ลูกเดิมชัดเจน ทั้งตอบสนองไวขึ้นแถยังเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วและ Smooth ขึ้น อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการรอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่นที่ 100 กม./ชม. รอบจะอยู่ที่ 2,200 รอบ/นาที ก่อนจะขยับขึ้นเป็น 2,400 และ 2,600 รอบ/นาที ที่ความเร็ว 110 และ120 กม./ชม. ตามลำดับ และทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ดีที่สุด 12.78 กม./ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่พอรับได้และดีกว่ารุ่นเดิมอีกเล็กน้อย

test-drive-chevrolet-cruze-1.8ltz-14-resize

ส่วนในด้านอัตรานั้นถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้แรงขึ้นด้วยตัวแรกบอกพิกัดก็ตาม แต่การที่ Cruze ใหม่ มีเกียร์ที่ฉลาดขึ้นกว่าเดิม เท่านี้ก็ทำให้มันแสดงพลังได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่องมากขึ้นด้วย จนทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 12.27 วินาที ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับกลางๆ และไม่หวือหวานักสำหรับรถในระดับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แต่ถือเป็นตัวเลขที่ดีขึ้นในการแข่งกับตัวเอง และพร้อมแก้ตัวอีกครั้งด้วย Top Speed ที่ค่อยๆไต่ความเร็วไปเลื่อยๆจนเข็มไมล์ไปหยุดที่ 185 กม./ชม. ได้ไม่ยากเย็นนัก

test-drive-chevrolet-cruze-1.8ltz-12-resize

Handling&Ride&Break

สำหรับระบบช่วล่างใน Chevrolet Cruze ใหม่ ยังคงยกชุดมาจากรุ่นแรก ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านการยึดเกาะถนนอยู่เป็นทุนเดิม และถือว่าเจ๋งกว่ารถคลาสเดียวกันชัดเจน ด้วยระบบกันสะเทือนแบบ Euro Ride Tunig Suspension ที่หนึบแน่นขับแล้วมั่นใจได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อ เหมือนกับคู่แข่งอย่าง Civic และ Altis ด้วยพื้นฐานโครงสร้างของระบบกันสะเทือนแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัทที่ด้านหน้า และด้านหลังเป็นแบบคานบิดทอร์ชั่นบีม ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง Magnatic Arc ซึ่งมีความหนากว่ารถทั่วไป นอกจากนี้วิศวกรยังออกแบบและจัดวางตำแหน่งยึดของระบบช่วงล่างด้านหลังในแบบ Z-Link เพื่อให้ล้อหลังสามารถตั้งฉากอยู่กับพื้นถนนมากที่สุด โดยเฉพาะตอนเข้าโค้งเพื่อสมรรถนะในการยึดเกาะถนนที่เพิ่มขึ้นผนวกกับการปรับเซ็ทค่าของช็อกอัพและสปริงค์ที่ลงตัวพร้อมเหล็กกันโคลงที่ออกแบบและใช้วัสดุที่สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี และให้เสถียรภาพในการขับขี่ที่มั่นใจได้มากกว่าคู่แข่งที่ใช้ช่วงล่างแบบอิสระทั้ง 4 ล้อด้วยซ้ำ

test-drive-chevrolet-cruze-1.8ltz-11-resize

ส่วนพวงมาลัยก็เช่นกัน Cruze เปลี่ยนจากเทคโนโลยีแบบเฟืองตัวหนอนพร้อมตัวผ่อนแรงไฮดรอลิก มาเป็นแบบไฟฟ้าแบบเดียวกับคู่แข่งแล้วในเวอร์ชั่นนี้ ซึ่งให้ Handling โดยรวมที่ตอบสนองไวขึ้นแต่ยังไม่คมเท่าที่ควร ยังมีช่วงฟรีของพวงมาลัยให้รู้สึกอยู่เล็กน้อย พร้อมน้ำหนักหน่วงที่ค่อนข้างดีขึ้นไม่เบาจนเสียอาการที่ความเร็วสูง ส่วนการขับทั่วไปที่ความเร็วต่ำ ซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์ไว้ให้รู้สึกตึงมือเหมือนเดิม และต้องออกแรงสาวมากกว่าเมื่อเทรยบคู่แข่งในคลาสที่เบากว่าชัดเจน

ก่อนจะปิดท้ายด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ พร้อมด้วยระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD รวมถึงระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC และตบท้ายด้วยระบบป้องล้อหมุนฟรีขณะขับขี่บนถนนลื่น TCS (Traction Control System) และถุงลมนิรภัยแบบ Dual SRS ซึ่งทั้งหมดนี้ Chevrolet ได้ติดตั้งมาให้เป็นมาตรเดียวกับ รุ่นท็อป 2.0 ทั้งในตัว LS, LT และ LTZ รุ่น 1.8 เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น

test-drive-chevrolet-cruze-resize-1

Tester Verdict

สรุปแล้ว Chevrolet Cruze ใหม่ อาจไม่ประสบความสำเร็จจากการกระชับหน้าในคอร์ส Facelift ในครั้งนี้ก็ตาม แต่สำหรับภายในห้องโดยสารนั้นถือว่า Chevrolet เลือกโทนสีได้ลงตัว และดูดีแมทซ์กับภาพรวมจนทำให้มันดูหล่อหรูเพิ่มขึ้นได้ง่ายโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก ซึ่งส่วนที่ถือว่าคุ้มค่าที่สุดนั้นคือเทคโนโลยีต่างๆที่เพิ่มเข้ามา ทั้งในส่วนของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ที่ทำให้มันขับสนุกมากขึ้นและประหยัดมากขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ที่สำคัญคือสามารถเติมน้ำมันได้แบบสบายกระเป๋าด้วยแก๊สโซฮอล์ E85 ซึ่งถูกว่าเห็นๆ พร้อมราคาค่าตัวที่เซฟโรเลตใจดีจัดโปรโมชั่นทั้งหมดนี้มาให้ในราคาเดิมแบบไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด..

test-drive-chevrolet-cruze-1.8ltz-1-resize

Specification : Chevrolet Cruze 1.8LTZ

รุ่นปี: 2013

ประเทศผู้ผลิต: ประเทศไทย

ผู้จำหน่ายในประเทศไทย: บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ แอนด์ (ประเทศไทย) จํากัด

ประเภทรถยนต์: Compact Sedan

ราคา (ล้านบาท) 0.998

Dimension

Length: 4,600

Width: 1,790

Height: 1,475

Wheelbase: 2,685

Front/Rear track 1,545 /1,560

Engine

รหัส F18D4

แบบ เบนซิน ECOTEC 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว แบบ FFV พร้อม Double CVC

ปริมาตรกระบอกสูบ 1,796

อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง Multi-Point Injection

กำลังสูงสุด 141@6,200

แรงบิดสูงสุด 177@3,800

เชื้อเพลิง รองรับแก๊สโซฮสล์ E85

ความจุถังน้ำมัน 60

Drivertrain

ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า

ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 6 Speed GEN II + DSC

คลัทซ์ TorqueConvertor

Gear Ratio

1 4.449

2 2.908

3 1.893

4 1.446

5 1.000

6 0.742

อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 2.871

อัตราทดเฟืองท้าย 3.722

Steering Wheel

แบบ แร็คแอนด์พิเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า

Suspension

หน้า อิสระแม็กเฟอร์สันตรัท คอยล์สปริงค์ ช็อคอัพแก็สพร้อมเหล็กกันโคลง

หลัง กึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม ช็อคอัพแก็ส

Break

หน้า ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน

หลัง ดิสก์เบรก

Wheel+Tire

ล้ออัลลอย ขนาด 17"x7J

ยาง Kumho 215/50R17

Test Result

รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็วต่างๆที่เกียร์

km./h rpm.

90 2,000

100 2,200

110 2,400

120 2,600

Acceleration (km./h) sec./m.

0-100 12.27

0-120 17.41

0-140 23.76

Quarter Mile 0-402m. (sec.) 17.24

Top Speed (km./h) 185

Consumption (km./l.)

AVR. 12.78

ขอขอบคุณ

บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

เรื่อง : อาณัติ สุทธิบุตร


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ