มีรถยนต์ไม่กี่ยี่ห้อที่สามารถสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ของตนเองได้อย่างเหนียวแน่นไม่เปลี่ยนแปลงมาอย่างยาวนาน วอลโว่ รถยนต์สัญชาติสวีเดนที่เปลี่ยนมือเจ้าของมาหลายครั้งหลายคราก็เป็นหนึ่งในนั้น
ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของวอลโว่ ที่มาพร้อมคำพูดติดปากว่า "ทุกชีวิตปลอดภัยในวอลโว่" ก่อนที่จะกลายมาเป็น "Volvo for Life" ในยุคหลัง ๆ ก็แสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์ในการพัฒนารถยนต์ของทีมงานของวอลโว่ออกมาได้ประมาณหนึ่ง
ดีเอ็นเอาด้านความปลอดภัยของวอลโว่นั้น น่าจะถือเป็นความรู้สึกและภาพจำอันดับต้น ๆ ที่ผู้บริโภคทั่วโลกมีให้กับแบรนด์รถยนต์แบรนด์นี้ เพราะย้อนกลับไปในอดีต วอลโว่เองถือเป็นผู้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ติดตั้งกันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ทั่วโลกในปัจจุบันหลายชิ้น
พล่ามกันมานานเพื่อจะบอกว่า ผมมีโอกาสได้ลองนั่งอยู่หลังพวงมาลัยของรถยนต์รุ่นใหม่เกือบจะล่าสุดของวอลโว่ที่นำเข้ามาทำตลาด จะเป็นรองก็แค่วี40 เท่านั้น ซึ่งรถรุ่นที่ทำการทดสอบแม้จะไม่ใช่รุ่นโฉมใหม่หมดจด แต่ก็มีความน่าสนใจด้วยการเลือกเครื่องยนต์ใหม่เข้ามาจับคู่กับโมเดลเดิมที่ทำตลาดอยู่ก่อน
รถคันที่ว่าก็คือวอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ดี4 (Volvo XC60 D4) ครอสโอเวอร์ขนาดกลางที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ล่าสุด ที่แม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กลง แต่วอลโว่ก็เคลมว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ให้สมรรถนะดี ในขณะที่อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันจะอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจมากขึ้นจากรุ่นเครื่องยนต์เดิมที่ผ่านมา
รูปทรงของรถแบบครอสโอเวอร์ที่มีขนาดใหญ่โตพอสมควร มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยตัวถังมีขนาดกว้าง 2,120 มม. ยาว 4,627 มม. และสูง 1,713 มม. ห้องโดยสารมีขนาดกว้างขวางใหญ่โต รองรับผู้โดยสาร 5 คนแบบสบาย ๆ โดยที่ความสูงของพื้นรถไม่สูงเกินไปนัก และไม่ต้องเขย่งก้าวกระโดดหากต้องการขึ้นไปบนรถ
แม้จะเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ แต่วอลโว่ก็พยายามออกแบบให้รถคันนี้มีรูปทรงแบบสปอร์ต ด้วยเส้นสายแบบคูเป้ที่มาฝังอยู่ในโครงร่างของรถไซส์ใหญ่อย่างลงตัว กระจังหน้าทรงคางหมูคว่ำพร้อมโลโก้วอลโว่ขนาดใหญ่ ผสานกับการออกแบบโคมไฟหน้า ทำให้ตัวรถด้านหน้าดูอ่อนวัยลง และลบภาพของรถผู้ใหญ่ไปได้มากพอสมควร
ความพยายามในการเพิ่มมัดกล้ามและทรวดทรงองค์เองของทีมงานออกแบบ ทำให้กลายเป็นจุดเด่นบนท้องถนนได้มากพอสมควร และหลาย ๆ ครั้งที่จะได้ยินคำถามด้วยความสงสัยว่า "วอลโว่หรือ???" โดยเฉพาะการออกแบบทางด้านท้ายของตัวรถที่ดูแปลกตา ไฟท้ายทรงโค้งเว้าและกระจกบานหลังขนาดใหญ่ คือแนวทางการออกแบบที่น่าสนใจสำหรับวอลโว่ในยุคหลัง ๆ
ผมเองชอบหนังที่วอลโว่เลือกมาทำเบาะที่นั่งมาก แต่กลับรู้สึกแปลก ๆ กับสีเบาะที่เลือกมาใช้ ดูไม่ค่อยเข้ากับรถสีขาวเท่าไหร่ แต่คาดว่าออพชั่นพวกนี้น่าจะเลือกได้ตามใจของลูกค้าอยู่แล้ว เบาะที่ให้ผิวสัมผัสดีและมาในรูปทรงสปอร์ต เน้นการนั่งแบบสบาย ๆ รองรับน้ำหนักตัวได้ดี แต่เวลาขับเร็ว ๆ อาจจะต้องกดตัวเองกับเบาะมากหน่อย
เครื่องยนต์ดี4 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 5 สูบ ขนาด 1,984 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,750 รอบต่อนาทีเท่านั้น ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดลงสู่ล้อคู่หน้า ในการนำพารถยนต์ที่น้ำหนักเกือบ 2 ตันวิ่งไปมาบนท้องถนน โดยถังน้ำมันมีความจุ 70 ลิตร
บอกตรง ๆ ว่าตอนที่นั่งคุยกับทีมงานของวอลโว่เรื่องรถก่อนที่จะขับออกจากสนง.หัวหมากนั้น แวบแรกคิดว่ารถคันนี้น่าจะเป็นสไตล์เรื่อย ๆ เอื่อย ๆ เหนื่อย ๆ ชิลล์ ๆ แต่น่าจะเหมาะสมกับการเดินทางไกล ๆ ที่ไม่ได้เน้นเรื่องการทำความเร็วมากนัก แถมดูท่าทางจะบริโภคน้ำมันเอาเรื่องในเมืองหลวง...
พอได้ลองขับแล้ว ก็รู้ได้เลยว่ามีทั้งเรื่องที่คิดถูกและคิดผิด!!!
ในการนำพารถคันนี้ไปบนท้องถนนในเมืองหลวงนั้น คุณจะรู้สึกได้ว่าเครื่องยนต์ทำหน้าที่หนักหน่วงพอสมควรกับการพารถออกจากจุดหยุดนิ่ง แต่ก็จะเป็นแค่ความรู้สึกเพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะเมื่อเครื่องยนต์วิ่งผ่าน 1,500 รอบไปแล้ว แรงบิดมหาศาลก็จะเข้ามาชดเชย แถมยังมาแบบสุภาพเรียบร้อย ผู้ดีกว่ารถดีเซลหลาย ๆ คันในท้องตลาด
แม้รถจะมีขนาดและน้ำหนักที่ไม่ธรรมดา แต่ผมกลับพบว่าการขับเอ็กซ์ซี60 บนท้องถนนนั้น ให้ความบันเทิงเริงใจกว่าที่คาด คุณสามารถพารถซอกแซก เคลื่อนย้ายไปตามตำแหน่งที่ถนนว่าง หรือแม้แต่การเร่งแซงได้อย่างที่คิด เพียงแค่สัมผัสของรถที่ออกมาจะได้หวือหวาหรือฉุดกระชากมากพอที่ทำให้รู้สึกถึงคำว่าสนุกได้
แต่พลันที่ถนนด้านหน้าพอมีที่ว่าง และคุณก็นึกสนุกพอที่จะกดคันเร่งไปเรื่อย ๆ แบบไม่ต้องผ่อน พอถนนด้านหน้าเริ่มมีรถหนาแน่นอีกครั้งและคุณรู้สึกตัวว่าต้องผ่อนคันเร่ง เหลือบมองหน้าปัดความเร็ว รถของคุณอาจจะวิ่งที่ 150-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยที่ไม่รู้สึกตัว
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วงล่างของวอลโว่ที่พัฒนามาในแบบของวอลโว่ คือนิ่ง ๆ แต่อาจจะต้องออกแรงคุมสักนิดเมื่อเข้าโค้งหนัก ๆ เร็ว ๆ แต่รถก็จะวิ่งเกาะโค้งไปอย่างที่มันควรจะเป็น และที่สำคัญก็คือการเก็บเสียงในห้องโดยสารทำได้แบบไม่มีที่ติ โดยเฉพาะเสียงลมปะทะจากด้านหน้าที่ไม่ค่อยหลุดเข้ามาให้ได้ยิน
คุยกับเนวิเกเตอร์ส่วนตัวว่ารถคันนี้เหมือนคุณชายที่แอบซ่า วัน ๆ ปกติอยู่ในวังต้องทำตัวเรียบร้อย ไม่ดื้อ ไม่ซน แต่จริง ๆ แล้วแอบเฮี้ยวไม่น้อย ยิ่งถ้าได้อยู่ในกลุ่มเพื่อนแล้วไม่มีทางยอมใคร ถือว่าเป็นมนุษย์ที่ไม่ธรรมดา ใครได้สัมผัสในมุมที่แตกต่างกันออกไป อาจจะงงกันได้ว่าตกลงมันจะเป็นคนแบบไหนกันแน่
ในเรื่องของการตกแต่งภายในนั้น วอลโว่ก็ยังเป็นวอลโว่ ที่การตกแต่งภายในยังค่อนข้างเน้นความเรียบง่ายในด้านดีไซน์ แต่อัดออพชั่นมาแทบจะทุกปุ่มที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอของรถ แม้จะพยายามเพิ่มความทันสมัยด้วยจอควบคุมที่ติดตั้งมาตรงคอนโซลกลางแล้ว แต่ดูไปดูมามันก็ดูขัด ๆ กับดีไซต์ส่วนอื่น ๆ อยู่ดี
ผมเองเฉย ๆ กับแผงหน้าปัดของวอลโว่ จนกระทั่งเมื่อถึงยามกลางคืน ระบบไฟอัตโนมัติทำงาน และส่งผลให้ระบบไฟเรืองแสงในห้องโดยสารเริ่มทำงาน วอลโว่ก็ทำให้ผมตกหลุมรักกับแสงเรืองสีเขียวอ่อน และการตัดกันของระบบส่องสว่างที่แผงคอนโทรลได้ไม่ยาก เป็นห้องโดยสารที่เหมาะสมกับการขับขี่กลางคืนมากครับ ดูผ่อนคลายและอบอุ่นกว่ารถหรูหลายคัน เพียงแค่หัวเกียร์แบบเรืองแสงมันไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศโดยรวมสักเท่าไร
อย่างที่บอกมาแต่แรกว่าวอลโว่เองโดดเด่นในเรื่องของระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมาให้เพียบในรถทุกรุ่นจนกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานกันไปแล้ว และถือว่าเป็นระบบที่มีประโยชน์มากหากเรียนรู้ที่จะใช้ให้เป็นอย่างจริงจัง เพราะทุกระบบก็ทำงานสอดคล้องกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบที่ผมเปิดไว้ตลอดเวลาอย่างระบบเตือนจุดอับของตัวรถ (BLIS) หรือระบบเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า นอกจากนี้ก็ยังมีระบบเตือนเมื่อรถเปลี่ยนเลนและระบบเตือนผู้ขับขี่ ซึ่งที่รู้สึกไม่ค่อยชอบก็คงเป็นเสียงเตือนที่ดูดุเดือดและจริงจังมาก แต่ก็น่าจะเป็นความต้องการของระบบที่ต้องการให้ผู้ขับขี่กลับมาสนใจรถให้มากที่สุด
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ในระบบตื่นตะลึง ถ้าคิดว่าตัวรถน้ำหนักขนาดนั้น และวิ่งด้วยความเร็วที่สลับกันไปเจอทั้งรถติดในเมือง ออกไปวิ่งความเร็วสูงลัดเลาะไปตามไหล่เขา 4 วันของการทดสอบ มีหลายครั้งที่ความเร็วขึ้นไปแช่ที่ 160-170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่น้ำมัน 1 ถังที่ติดตัวมา ก็ยังวิ่งทำระยะเมื่อส่งคืนได้ 750 กิโลเมตร และคอมพิวเตอร์ในรถระบุว่าวิ่งได้อีก 100 กิโลเมตร
คิดแบบมองโลกในแง่ดี ถ้าขับกันดีดีตั้งใจขับ 1 ถัง 2,000 กว่าบาท น่าจะวิ่งได้หลักพันกิโลเมตร!!!
เอ็กซ์ซี60 ดี4 วางราคาจำหน่ายที่ 3.05 ล้านบาท โดยผู้ที่สนใจอยากได้อะไรที่แตกต่างสามารถเลือกรุ่นที่เพิ่มอุปกรณ์ตกแต่ง 6-Pack Accessories เพิ่มชุดแต่งรอบคันที่ทำให้รถดูดุเดือดขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อยได้ในราคา 3.149 ล้านบาท โดยในเวบของวอลโว่ระบุเพิ่มเติมว่าสนใจเป็นเจ้าของวันนี้ รับฟรีแมคบุ๊ค แอร์ ขยายระยะเวลารับประกันเป็น 5 ปีหรือ 1 แสนกิโลเมตร บริการบำรุงรักษา 5 ปีหรือ 1 แสนกิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงนาน 3 ปี
ถ้ากำลังมองหารถที่รักเราขนาดนี้ ไม่ว่าจะเรื่องความปลอดภัยที่อัดมาเต็มพิกัด รักกระเป๋าสตางค์ด้วยการประหยัดน้ำมันมหาศาล แถมยังรักษ์โลกด้วยการสามารถใช้น้ำมันดีเซล บี5 ที่รัฐบาลไม่เห็นค่าและหยุดจำหน่ายไปแล้วได้อีกต่างหาก รถคันนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
แล้วคุณจะหลงรักคุณชายแอบซ่าคันนี้อย่างแน่นอน!!!
ขอขอบคุณ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับรถทดสอบสภาพดี
ผู้เขียน กอล์ฟ ออโต้สปินน์ พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ http://photos.autospinn.com/2013-Volvo-XC60D4/
20 - 08 - 2013
LINE
ความคิดเห็น