นิสสันหวังรัฐเดินหน้าพิจารณาโครงสร้างภาษี เร่งสร้างสถานีชาร์ตไฟ ดันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเติบโตในประเทศไทย
นายประพัฒน์ เชยชม รองประธานอาวุโส ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าเริ่มได้รับความนิยมจากหลายตลาดทั่วโลก โดยนิสสันเองมียอดจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 1 แสนคันทั่วโลก ในจำนวนนี้เป็นรถยนต์นิสสัน ลีฟ มากกว่า 7 หมื่นคัน ซึ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าถือเป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่นิสสันเลือกที่จะพัฒนาเพื่อจำหน่ายจริงในตลาดโลก
สำหรับประเทศไทยนั้น ได้มีการนำเข้ามาเปิดตัวเพื่อทดลองตลาดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงมีการส่งมอบรถยนต์ให้การไฟฟ้านครหลวงเพื่อทำการทดลองอย่างเต็มรูปแบบเป็นระยะเวลา 1 ปีในปัจจุบัน เพื่อทำการศึกษาถึงข้อดีของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงเพื่อให้ทางการไฟฟ้านครหลวงประเมินความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ทั้งนี้ มองว่าหากต้องการผลักดันให้เกิดตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย รัฐบาลจะต้องเข้ามาพิจารณาในเรื่องของโครงสร้างภาษี ที่ปัจจุบันมีอัตราภาษีนำเข้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ 80% นอกจากนี้ จะต้องมีการเร่งสร้างสถานีชาร์ตไฟเพื่อรองรับ โดยมั่นใจว่าหากรัฐบาลเข้ามาดูแลในส่วนนี้ ก็จะทำให้ตลาดขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต
“ราคาจำหน่ายรถยนต์นิสสัน ลีฟ ที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท แพงกว่ารถยนต์ระดับกลางไม่มากนัก แต่หากเสียภาษีนำเข้าในปัจจุบัน ต้นทุนก็จะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาทในประเทศไทย หากเปรียบเทียบกับการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานอาจจะต้องพิจารณากันใหม่ ซึ่งทางนิสสันต้องการให้รัฐบาลเข้ามาพิจารณาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถตอบได้ว่าต้องการให้ลดภาษีนำเข้าเหลือเท่าใด เนื่องจากรัฐบาลจะต้องเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม แต่มองว่าหากไม่มีการนำเข้า รัฐบาลก็ไม่สามารถเก็บภาษีได้อยู่แล้ว และหากรัฐบาลจะเก็บภาษีนำเข้าได้น้อยลง แต่หากมองไปที่เรื่องการประหยัดพลังงานและการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าเช่นกัน
ความคิดเห็น