Toyota Corolla รถยอดนิยมระดับโลก ฉลองยอดขายกว่า 40 ล้านคัน Share this

Toyota Corolla รถยอดนิยมระดับโลก ฉลองยอดขายกว่า 40 ล้านคัน

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 09 September 2556

ย้อนกลับไปเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2509 Toyota ประกาศเปิดโรงงานแห่งใหม่ ที่เมืองทาคาโอกะ จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อประกอบรถโคโรลล่าโดยเฉพาะ สองปีต่อมา ได้เปิดโรงงานประกอบรถ Corolla ในประเทศออสเตรเลียและมาเลเซียเพื่อให้สอดคล้องกับการให้ความสำคัญด้านการพัฒนารถยนต์ให้มีความเหมาะสมกับแต่ละภูมิภาค และหากนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 ถึง พ.ศ.2511 โตโยต้ามีกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 480,000 คัน เป็น 1,100,000 คัน แสดงให้เห็นว่าโคโรลล่าเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญต่อการเติบโตของบริษัท

2014-Toyota-Corolla-8[2]

ปัจจุบัน Toyota มีสายการผลิตรถ Corolla ในโรงงานซึ่งตั้งอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 15 แห่ง โดยยอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกของรถรุ่นนี้ สูงติดอันดับ 1 ใน 5 ของรุ่นรถทั้งหมดที่จำหน่ายในประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 76 ปี ของโตโยต้า ประเทศญี่ปุ่น

2014-Toyota-Corolla-7[2]

การส่งออกรถโคโรลล่าไปยังทวีปอเมริกาเหนือเริ่มต้นในพ.ศ. 2511 และจากความสำเร็จอย่างงดงามของยอดจำหน่ายในทวีปดังกล่าวส่งผลให้ยอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกครบ 1 ล้านคัน ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 รถโคโรลล่ากลายเป็นรถที่มียอดจำหน่ายรวมสูงสุดของโลกด้วยยอดจำหน่ายรวมมากกว่า 22,650,000 คัน และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา โคโรลล่ามียอดขายมากกว่า 1 ล้านคันในทุกๆปี และจากยอดจำหน่ายรวมในปี 2555 แสดงให้เห็นว่า ในแต่ละวันจะมีผู้ซื้อรถโคโรลล่าราว 3,180 คันทั่วโลก

New-Toyota-Corolla-EU-12[3]

ในโอกาสสำคัญดังกล่าว หัวหน้าวิศวกรของโคโรลล่ารุ่นปัจจุบัน นายชินอิจิ ยาสุอิ กล่าวว่า “รถรุ่นนี้ประสบความสำเร็จจากแรงสนับสนุนของคนทั่วโลก และผมภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่ง รวมทั้งผมขอแสดงความขอบคุณต่อผู้ที่ครอบครองและผู้ที่ชื่นชอบในรถรุ่นนี้ ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จก็คือการถ่ายทอดแนวคิดและจิตวิญญาณแห่งการพัฒนาจากผู้ริเริ่ม นายฮาเซกาว่า ที่ว่า รถโตโยต้า โคโรลล่า ต้องเป็นยานพาหนะที่สามารถนำพาความสุขและการเป็นอยู่ที่ดีสู่คนทั่วโลก”

New-Toyota-Corolla-EU-23[3] (1)

วัตถุประสงค์ในการออกแบบรถโคโรลล่านั้นเริ่มแรกได้ถือกำเนิดจากความตั้งใจที่จะตอบสนองความต้องการในการเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไปของชาวญี่ปุ่นเมื่อช่วงกลางทศวรรษ 60 โดยหัวหน้าวิศวกรในขณะนั้น มร.ทัสซูโอะ ฮาเซกาว่า ได้ตระหนักถึงการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ระยะเวลาการเดินทางเพื่อไปทำงานในแต่ละวันเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นความต้องการในการเดินทางด้วยรถโดยสารส่วนบุคคลจึงสูงขึ้นตามมา และด้วยวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลของ มร.ฮาเซกาว่า เขาได้กำหนดหลักการของรถโคโรลล่าที่ว่า “การมุ่งพัฒนาและออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ”

Toyota-Corolla-2014-3[7]

ในระยะแรกอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานที่มีมากมายของโคโรลล่านั้น เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ทางเลือกสำหรับลูกค้าเท่านั้น จากนั้นโตโยต้าได้กำหนดอุปกรณ์เหล่านั้นให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกครอบครัว และด้วยคำมั่นสัญญาของโตโยต้าที่มุ่งเสริมสร้างคุณภาพ รวมทั้งเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ๆ ในระดับราคาที่ทุกคนสามารถจับจองได้ ทำให้ โคโรลล่า กลายเป็นรถครอบครัวที่มียอดจำหน่ายสูงสุดทั่วโลก

สำหรับประเทศไทย โคโรลล่าได้รับการแนะนำเข้าสู่ตลาดครั้งแรก ด้วยเจนเนอเรชั่นที่ 1 ในปี พ.ศ. 2509 และเจนเนอเรชั่นที่ 2 ในปี พ.ศ.2513 จากโรงงานผลิตของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาเจนเนอเรชั่นที่ 3 ในปี พ.ศ.2515 จึงได้เริ่มสายการผลิตโคโรลล่าเป็นครั้งแรกที่ โรงงานประกอบรถยนต์สำโรง จ.สมุทรปราการ นับเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่สุดรุ่นหนึ่งของ โตโยต้า ในประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าในฐานะ “รถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทย” ตลอดระยะเวลากว่า 47 ปี ที่โคโรลล่า สามารถครองความนิยมในฐานะรถยนต์นั่ง ที่เคียงคู่สังคมไทยมาโดยตลอด ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 620,000 คัน

สำหรับโคโรลล่า รุ่นปัจจุบัน ยังคงเป็นรถยอดนิยมของคนไทยจากการเปิดตัวในปี พ.ศ. 2551 โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 จนถึงปัจจุบัน โดยในปีนี้ยังครองความเป็นที่หนึ่งด้วยยอดขายสะสมระหว่างเดือน ม.ค. – ก.ค. สูงถึง 28,084 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 41.8% ของตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก (Small-Hi market)


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ