[VDO] ขับทดสอบ "New Hilux Vigo Champ Smart Cab" เส้นทาง กรุงเทพฯ ตะลุยสู่ ยอดดอยอินทนนท์ Share this

[VDO] ขับทดสอบ "New Hilux Vigo Champ Smart Cab" เส้นทาง กรุงเทพฯ ตะลุยสู่ ยอดดอยอินทนนท์

Ballarnut
โดย Ballarnut
โพสต์เมื่อ 26 September 2556

"Toyota New Hilux Vigo Champ Smart Cab Group test"

"ภายนอกดูไม่เด่น แต่ภายในชัดเจน หรูหราและดูดี มีชาติตระกูลขึ้น"

ช่วง MT-Check up ในสัปดาห์นี้ เราจะพาคุณไปทดสอบสมรรถนะของ Toyota Hilux Vigo Champ ใหม่ รุ่น Facelift รอบสื่อมวลชนบนเส้นทางที่ท้าทายขึ้นสู่ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ผ่านโค้งหลายร้อยโค้งและทางสูงชัน ซึ่งผลจะออกมาเป็นอย่างไร Vigo ใหม่จะแตกต่างจากรุ่นเดิมมากน้อยแค่ไหน ไปชมกันเลย

โดยคันที่เราได้ขับทดสอบนั้นคือรุ่น Smart Cab Prerunner 2.5GA/T (Navi) ตัวถังแบบขับ 2 ยกสูงตัวท็อป หน้าตาหล่อดุดันสไตล์ขับ 4 พร้อมออฟชั่นแบบครบๆในราคา 8.19 แสนบาท ส่วนรุ่น E เกียร์ออโต้ ราคาจะอยู่ที่ 7.72 บาท ส่วนตัวเกียร์ธรรมดาเครื่อง 2.5 ราคา 7.67 แสนบาท และปิดท้ายด้วยเครื่องใหญ่บล็อก 3.0 G ราคา 8.02 แสนบาท

Design&Interior  

สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกนั้น Vigo ใหม่ ยังคงถอดพิมพ์มาจากรุ่นเดิมตัว Vigo Champ โฉมก่อนกว่า 99% พร้อมออฟชั่นพื้นฐานที่ติดตั้งมาให้ครบไม่ว่าจะเป็นไฟตัดหมอก,  กันชนท้ายโครมเมียม,  สคู๊ปดักลมขนาดใหญ่บนฝากระโปรง, กาบบันไดสไตล์ Off-Road , กระจกมองข้างโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 265/70/16 พร้อมเพิ่มกล้องมองหลังมาให้ซึ่งถือเป็นออฟชั่นที่ทำให้มันแตกต่างที่สามารถใช้งานได้ดีและมีประโยชน์เลยทีเดียว

vigo-champ-group-test-5

vigo-champ-group-test-4

 ส่วนภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งด้วยวัสดุหุ้มคอนโซลหน้าสีดำที่ทำให้ดูสปอร์ตดุดันมากขึ้น ตัดสลับกับเบาะและแผงประตูพร้อมวัสดุตกแต่งสีเงินเมทัลลิก  พร้อมเพิ่มออฟชั่นที่ทันสมัยขึ้นกว่ารุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง 2 Din แบบ DVD 1 แผ่น หน้าจอ Touch-Screen ขนาด 6.1 นิ้ว พร้อม USB, AUX และระบบนำทาง Navigator ที่จะแสดงภาพจากกล้องมองหลังทันทีที่เข้าเกียร์ถอยหลัง พร้อมเพิ่มฟังชั่น Bluetooth กับสวิทช์ควบคุมบนพวงมาลัยมัลติฟังชั่นใน Vigo Champ ใหม่คันนี้ นอกจากนี้ยังรองรับ Application Smart G-Book อีกด้วย และเพิ่มความหรูหราด้วยพวงมาลัยและหัวเกียร์ที่หุ้มด้วยหนังสีดำ ขับก่อนจะปิดท้ายด้วยออฟชั่นความปลอดภัยที่เพิ่มเติมมาให้ อย่างถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS   และเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับในทุกรุ่น

vigo-champ-group-test-6

vigo-champ-group-test-7

Engine&Performance 

ขุมพลังใต้ฝากระโปรงยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลบล็อกความจุ 2.5 ลิตร รหัส 2KD-FTV (VNT) แบบ 4 สูบ เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์   144 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ซึ่งเครื่องตัวนี้จะอยูในรุ่น  2.5G  และ 2.5E ABS   ส่วน 2.5J และ 2.5E จะเป็นเทอร์โบธรรมดา ที่มีแรงม้าน้อยกว่าที่ 120 ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิด 325 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

vigo-champ-test-groyp-11 

ส่วนระบบส่งกำลังนั้นคันที่ทดสอบจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 Speed   ซึ่งได้ถูกเพิ่มเข้ามาในไลน์ของรุ่น Smart Cab แล้วในเวอร์ชั่นนี้ โดยก่อนหน้านี้จะมีเฉพาะในตัว 4 ประตู ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นใน Vigo ใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และเป็นทางเลือกให้กลุ่มลูกค้าที่ไม่ถนัดกับการเปลี่ยนเกียร์ได้เป็นทางเลือก

vigo-champ-group-test-9

จากที่ได้ลองขับ Vigo ใหม่ นั้นยังคงให้สมรรถนะที่เหมือนเดิม ด้วยบุคลิกที่กระฉับกระเฉงตั้งแต่ออกตัว ถึงแม้ว่าคันนี้จะเป็นเครื่องบล็อกเล็กก็ตาม แต่มันมีแรงบิดที่สูงเท่ากับตัว 3.0  ลิตรเป็นอาวุธ แถมมาตั้งแต่ในรอบต่ำ จึงทำให้มีสปีดต้นที่ค่อนข้างดี  และเหมาะกับการใช้งานเมืองยิ่งเมื่อจับคู่กับเกียร์ออโต้ 5 สปีดที่เปลี่ยนเกียร์ได้ค่อนข้างนุ่มนวล รถติดๆแอร์เย็นๆไม่ต้องเหยียบคลัทซ์ให้เมื่อย สบายกว่าเห็นๆ ส่วนการขับขี่ทางไกลนั้นอาจไม่ลื่นไหลเท่าเครื่องใหญ่ แต่ก็ถือว่าขับใช้งานทั่วไปได้ดี ถ้าจะเร่งแซงก็แค่ Kick Down ได้แบบไม่ต้องรีบหรือถ้าไม่ทันใจก็โยกมาเกียร์ต่ำรับรองว่าแรงมาแน่ไล่ Step เกียร์ให้เหมาะกับทางลาดชัน มองไปที่ปลายโค้งแล้วสับเกียร์รอ ไม่นานก็ไต่ขึ้นสู่ยอดดอยได้ไม่ยาก

Handling&Ride&Brake

ซึ่งนอกจากเครื่องจะต้องมีแรงพาเราพิชิตเส้นทางทดสอบที่สูงชันและเติมไปด้วยโค้งมากมายหลายรูปแบบแล้ว Toyota ช่วงล่างดีๆก็มีส่วนให้เราไปได้นุ่มนวลและปลอดภัย ซึ่ง Vigo ใหม่ ใช้ระบบกันสะเทือนแบบ DTS หรือ(Diamond Tech Suspension) ซึ่งด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ แบบเดียวกับเจ้าพ่อขาลุยพันธุ์อย่าง Toyota Prado ที่ปรับเซ็ทองศาล้อให้หน้ายางสัมผัสเต็มพื้นได้เต็มที่เพื่อสมรรถนะในการยึดเกาะถนน   พร้อมติดตั้งแผ่นกระจาย Air Splasher บริเวณซุ้มล้อและยางช่วยเพิ่มค่า Down Force สำหรับกดรถตัวถังแบบยกสูงให้อยู่กับพื้นได้ดีขึ้น ส่วนด้านหลังใช้เป็นแหนบ Berlin Eye ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อลดอาการกระด้างและช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น

vigo-champ-test-groyp-12

วิ่งตรงๆกว่า 140 กม./ชม.บนถนนที่ค่อนข้างเรียบรู้สึกว่าช่วงล่างดีดตัวน้อยและยึดเกาะได้ดี ส่วนจังหวะเข้าโค้งนั้นจากที่ลองเข้าโค้งดูที่ความเร็วต่างๆ ตั้งแต่ 90 ,100 ไปจนถึง 120 กม./ชม. โดยขับตามไลน์แบบไม่มีการตัดโค้ง ผ่านทั้งโค้ง S กว้างๆและโค้งต่อเนื่องนั้น ความเร็วประมาณ 90 ดูจะ OK สุด มีอาการหน้าดื้อเล็กน้อย และสามารถเดินคันเร่งเนียนๆต่อเนื่องไปได้แบบท้ายกระดิกนิดๆช่วงออกโค้ง เพราะถ้าเข้าเร็วกว่านี้จะต้องออกแรงดึงพวงมาลัยและแต่งให้รับโค้งมากขึ้นแถมตอนออกก็ต้องมาแก้ท้ายให้เสียเวลาอีก ซึ่งความเร็วระดับ 90 กม./ชม. ในโค้งสำหรับรถกระบะขับ 2 ยกสูงนั้นถือว่าค่อนข้างสูง และก็ถือว่า Vigo สอบผ่านตรงจุดนี้ แต่ถึงแม้รถจะดีแค่ไหนก็ตามบนท้องถนนยังมีตัวแปรต่างๆท่ีจะทำให้เราพลาดได้ "โดยเฉพาะถนนเมืองไทย" ดังนั้นผู้ขับขี่เองจึงควรขับรถด้วยความระมัดระวังนั่นแหละดีที่สุด

vigo-champ-test-groyp-14

ส่วนระบบเบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน และด้านหลังแบบดรัมเบรก พร้อมวาล์วปรับแรงดัน Super LSPV และ LTS  ที่ให้ฟิวลิ่งตอนเบรกตามสไตล์รถกระบะซึ่งต้องกดเบรกค่อนข้างลึกและต้องออกแรงมากสักหน่อยจึงจะเอาอยู่ ดีที่ยังมี ABS มาให้เผื่อกดแรงไปล้อจะได้ไม่ล็อก และก็หวังว่าโมเดลต่อไปจะมีระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC หรืออื่นๆมาเพิ่มให้เท่ากับคู่แข่งจนถึงขั้นดีกว่ายิ่งดี

vigo-champ-test-group-15

Tester Verdict 

สรุปแล้ว Toyota Hilux Vigo  Champ ใหม่ คันนี้ถึงแม้จะมองเห็นความคุ้มค่าและการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมได้ค่อนข้างน้อยโดยเฉพาะถ้ามองแค่เปลือกนอก แต่ถ้าลองขึ้นไปนั่งและลองขับรับรองว่าจะถูกใจกับห้องโดยสารที่ดูดีมีชาติตระกูลรวมถึงฟังชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จัดมาให้อีกเพียบ บนสมรรถนะที่เพียงพอสำหรับใช้งานทั่วไป พร้อมความสะดวกสบายที่ควรมีมาตั้งนานแล้วอย่าง "เกียร์อัตโนมัติ" ซึ่งมันจะช่วยทำให้ Toyota Hilux Vigo  Champ ใหม่ คันนี้พลิกบทบาทจากงานหลักที่เคยใช้เพื่อการพาณิชย์ เปลี่ยนเป็นขับไปรับลูกที่โรงเรียนตอนรถติดๆแทนรถเก๋งคันเดิมได้สบายมากขึ้น


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ