"Toyota New Hilux Vigo Champ Smart Cab Group test"
"ภายนอกดูไม่เด่น แต่ภายในชัดเจน หรูหราและดูดี มีชาติตระกูลขึ้น"
ช่วง MT-Check up ในสัปดาห์นี้ เราจะพาคุณไปทดสอบสมรรถนะของ Toyota Hilux Vigo Champ ใหม่ รุ่น Facelift รอบสื่อมวลชนบนเส้นทางที่ท้าทายขึ้นสู่ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ผ่านโค้งหลายร้อยโค้งและทางสูงชัน ซึ่งผลจะออกมาเป็นอย่างไร Vigo ใหม่จะแตกต่างจากรุ่นเดิมมากน้อยแค่ไหน ไปชมกันเลย
โดยคันที่เราได้ขับทดสอบนั้นคือรุ่น Smart Cab Prerunner 2.5GA/T (Navi) ตัวถังแบบขับ 2 ยกสูงตัวท็อป หน้าตาหล่อดุดันสไตล์ขับ 4 พร้อมออฟชั่นแบบครบๆในราคา 8.19 แสนบาท ส่วนรุ่น E เกียร์ออโต้ ราคาจะอยู่ที่ 7.72 บาท ส่วนตัวเกียร์ธรรมดาเครื่อง 2.5 ราคา 7.67 แสนบาท และปิดท้ายด้วยเครื่องใหญ่บล็อก 3.0 G ราคา 8.02 แสนบาท
Design&Interior
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกนั้น Vigo ใหม่ ยังคงถอดพิมพ์มาจากรุ่นเดิมตัว Vigo Champ โฉมก่อนกว่า 99% พร้อมออฟชั่นพื้นฐานที่ติดตั้งมาให้ครบไม่ว่าจะเป็นไฟตัดหมอก, กันชนท้ายโครมเมียม, สคู๊ปดักลมขนาดใหญ่บนฝากระโปรง, กาบบันไดสไตล์ Off-Road , กระจกมองข้างโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 265/70/16 พร้อมเพิ่มกล้องมองหลังมาให้ซึ่งถือเป็นออฟชั่นที่ทำให้มันแตกต่างที่สามารถใช้งานได้ดีและมีประโยชน์เลยทีเดียว
ส่วนภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งด้วยวัสดุหุ้มคอนโซลหน้าสีดำที่ทำให้ดูสปอร์ตดุดันมากขึ้น ตัดสลับกับเบาะและแผงประตูพร้อมวัสดุตกแต่งสีเงินเมทัลลิก พร้อมเพิ่มออฟชั่นที่ทันสมัยขึ้นกว่ารุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง 2 Din แบบ DVD 1 แผ่น หน้าจอ Touch-Screen ขนาด 6.1 นิ้ว พร้อม USB, AUX และระบบนำทาง Navigator ที่จะแสดงภาพจากกล้องมองหลังทันทีที่เข้าเกียร์ถอยหลัง พร้อมเพิ่มฟังชั่น Bluetooth กับสวิทช์ควบคุมบนพวงมาลัยมัลติฟังชั่นใน Vigo Champ ใหม่คันนี้ นอกจากนี้ยังรองรับ Application Smart G-Book อีกด้วย และเพิ่มความหรูหราด้วยพวงมาลัยและหัวเกียร์ที่หุ้มด้วยหนังสีดำ ขับก่อนจะปิดท้ายด้วยออฟชั่นความปลอดภัยที่เพิ่มเติมมาให้ อย่างถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS และเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับในทุกรุ่น
Engine&Performance
ขุมพลังใต้ฝากระโปรงยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลบล็อกความจุ 2.5 ลิตร รหัส 2KD-FTV (VNT) แบบ 4 สูบ เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ 144 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ซึ่งเครื่องตัวนี้จะอยูในรุ่น 2.5G และ 2.5E ABS ส่วน 2.5J และ 2.5E จะเป็นเทอร์โบธรรมดา ที่มีแรงม้าน้อยกว่าที่ 120 ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิด 325 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที
ส่วนระบบส่งกำลังนั้นคันที่ทดสอบจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 Speed ซึ่งได้ถูกเพิ่มเข้ามาในไลน์ของรุ่น Smart Cab แล้วในเวอร์ชั่นนี้ โดยก่อนหน้านี้จะมีเฉพาะในตัว 4 ประตู ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นใน Vigo ใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และเป็นทางเลือกให้กลุ่มลูกค้าที่ไม่ถนัดกับการเปลี่ยนเกียร์ได้เป็นทางเลือก
จากที่ได้ลองขับ Vigo ใหม่ นั้นยังคงให้สมรรถนะที่เหมือนเดิม ด้วยบุคลิกที่กระฉับกระเฉงตั้งแต่ออกตัว ถึงแม้ว่าคันนี้จะเป็นเครื่องบล็อกเล็กก็ตาม แต่มันมีแรงบิดที่สูงเท่ากับตัว 3.0 ลิตรเป็นอาวุธ แถมมาตั้งแต่ในรอบต่ำ จึงทำให้มีสปีดต้นที่ค่อนข้างดี และเหมาะกับการใช้งานเมืองยิ่งเมื่อจับคู่กับเกียร์ออโต้ 5 สปีดที่เปลี่ยนเกียร์ได้ค่อนข้างนุ่มนวล รถติดๆแอร์เย็นๆไม่ต้องเหยียบคลัทซ์ให้เมื่อย สบายกว่าเห็นๆ ส่วนการขับขี่ทางไกลนั้นอาจไม่ลื่นไหลเท่าเครื่องใหญ่ แต่ก็ถือว่าขับใช้งานทั่วไปได้ดี ถ้าจะเร่งแซงก็แค่ Kick Down ได้แบบไม่ต้องรีบหรือถ้าไม่ทันใจก็โยกมาเกียร์ต่ำรับรองว่าแรงมาแน่ไล่ Step เกียร์ให้เหมาะกับทางลาดชัน มองไปที่ปลายโค้งแล้วสับเกียร์รอ ไม่นานก็ไต่ขึ้นสู่ยอดดอยได้ไม่ยาก
Handling&Ride&Brake
ซึ่งนอกจากเครื่องจะต้องมีแรงพาเราพิชิตเส้นทางทดสอบที่สูงชันและเติมไปด้วยโค้งมากมายหลายรูปแบบแล้ว Toyota ช่วงล่างดีๆก็มีส่วนให้เราไปได้นุ่มนวลและปลอดภัย ซึ่ง Vigo ใหม่ ใช้ระบบกันสะเทือนแบบ DTS หรือ(Diamond Tech Suspension) ซึ่งด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ แบบเดียวกับเจ้าพ่อขาลุยพันธุ์อย่าง Toyota Prado ที่ปรับเซ็ทองศาล้อให้หน้ายางสัมผัสเต็มพื้นได้เต็มที่เพื่อสมรรถนะในการยึดเกาะถนน พร้อมติดตั้งแผ่นกระจาย Air Splasher บริเวณซุ้มล้อและยางช่วยเพิ่มค่า Down Force สำหรับกดรถตัวถังแบบยกสูงให้อยู่กับพื้นได้ดีขึ้น ส่วนด้านหลังใช้เป็นแหนบ Berlin Eye ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อลดอาการกระด้างและช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น
วิ่งตรงๆกว่า 140 กม./ชม.บนถนนที่ค่อนข้างเรียบรู้สึกว่าช่วงล่างดีดตัวน้อยและยึดเกาะได้ดี ส่วนจังหวะเข้าโค้งนั้นจากที่ลองเข้าโค้งดูที่ความเร็วต่างๆ ตั้งแต่ 90 ,100 ไปจนถึง 120 กม./ชม. โดยขับตามไลน์แบบไม่มีการตัดโค้ง ผ่านทั้งโค้ง S กว้างๆและโค้งต่อเนื่องนั้น ความเร็วประมาณ 90 ดูจะ OK สุด มีอาการหน้าดื้อเล็กน้อย และสามารถเดินคันเร่งเนียนๆต่อเนื่องไปได้แบบท้ายกระดิกนิดๆช่วงออกโค้ง เพราะถ้าเข้าเร็วกว่านี้จะต้องออกแรงดึงพวงมาลัยและแต่งให้รับโค้งมากขึ้นแถมตอนออกก็ต้องมาแก้ท้ายให้เสียเวลาอีก ซึ่งความเร็วระดับ 90 กม./ชม. ในโค้งสำหรับรถกระบะขับ 2 ยกสูงนั้นถือว่าค่อนข้างสูง และก็ถือว่า Vigo สอบผ่านตรงจุดนี้ แต่ถึงแม้รถจะดีแค่ไหนก็ตามบนท้องถนนยังมีตัวแปรต่างๆท่ีจะทำให้เราพลาดได้ "โดยเฉพาะถนนเมืองไทย" ดังนั้นผู้ขับขี่เองจึงควรขับรถด้วยความระมัดระวังนั่นแหละดีที่สุด
ส่วนระบบเบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน และด้านหลังแบบดรัมเบรก พร้อมวาล์วปรับแรงดัน Super LSPV และ LTS ที่ให้ฟิวลิ่งตอนเบรกตามสไตล์รถกระบะซึ่งต้องกดเบรกค่อนข้างลึกและต้องออกแรงมากสักหน่อยจึงจะเอาอยู่ ดีที่ยังมี ABS มาให้เผื่อกดแรงไปล้อจะได้ไม่ล็อก และก็หวังว่าโมเดลต่อไปจะมีระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC หรืออื่นๆมาเพิ่มให้เท่ากับคู่แข่งจนถึงขั้นดีกว่ายิ่งดี
Tester Verdict
สรุปแล้ว Toyota Hilux Vigo Champ ใหม่ คันนี้ถึงแม้จะมองเห็นความคุ้มค่าและการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมได้ค่อนข้างน้อยโดยเฉพาะถ้ามองแค่เปลือกนอก แต่ถ้าลองขึ้นไปนั่งและลองขับรับรองว่าจะถูกใจกับห้องโดยสารที่ดูดีมีชาติตระกูลรวมถึงฟังชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จัดมาให้อีกเพียบ บนสมรรถนะที่เพียงพอสำหรับใช้งานทั่วไป พร้อมความสะดวกสบายที่ควรมีมาตั้งนานแล้วอย่าง "เกียร์อัตโนมัติ" ซึ่งมันจะช่วยทำให้ Toyota Hilux Vigo Champ ใหม่ คันนี้พลิกบทบาทจากงานหลักที่เคยใช้เพื่อการพาณิชย์ เปลี่ยนเป็นขับไปรับลูกที่โรงเรียนตอนรถติดๆแทนรถเก๋งคันเดิมได้สบายมากขึ้น
ความคิดเห็น