จันทร์นภา สายสมร : ผู้บริโภคฟิล์มกรองแสงไทยเก่งขึ้นเยอะ Share this

จันทร์นภา สายสมร : ผู้บริโภคฟิล์มกรองแสงไทยเก่งขึ้นเยอะ

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 03 September 2556

ตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศไทยที่มีมูลค่าปรับตัวขึ้นลงตามการขยายตัวของธุรกิจรถยนต์ใหม่เป็นหลักนั้น ถือเป็นตลาดที่มีคู่แข่งในท้องตลาดเพียงไม่กี่ราย แต่ก็เป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องราคาจำหน่าย คุณภาพและการโฆษณาชวนเชื่อที่มีไม่แพ้ธุรกิจอื่นใด

IMG_0007

ผู้นำตลาดฟิล์มกรองแสงระดับพรีเมียมอย่างลามิน่า แม้จะเป็นผู้นำในตลาดดังกล่าวมากว่าทศวรรษ แต่ก็ยังไม่ได้หยุดนิ่งนอนใจ เพราะนอกจากการรักษาการเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่องแล้ว ลามิน่ามีพันธกิจในการนำพาสังคมไทยเพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงที่ถูกต้อง และทำให้ธุรกิจฟิล์มกรองแสงเป็นธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ

จันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และฟิล์มกรองแสงอาคาร ‘ลามิน่า’ ฟิล์มกลุ่มพิเศษ ‘ลูม่าร์’ จากซีพีฟิล์มอิงค์ สหรัฐอเมริกา แลตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระ ธูเล่ จากประเทศสวีเดน ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางของตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ไว้อย่างน่าสนใจ

ประเด็นสำคัญอยู่ที่พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคฟิล์มกรองแสงชาวไทยในรอบกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ต้องถือว่าผู้บริโภคมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคุณภาพของฟิล์มกรองแสงที่แตกต่างกัน มีการเลือกใช้สินค้าที่คุณภาพสูงมากขึ้น และทำให้แนวโน้มตลาดฟิล์มกรองแสงเติบโตในทิศทางที่ดี

"ย้อนกลับไปในอดีต ตลาดฟิล์มกรองแสงถือว่ามีความสับสนมาก โดยเฉพาะการให้ข้อมูลและการทำการทดสอบฟิล์มกรองแสง ถ้าจำกันได้ มีบางบริษัทเคยใช้สปอตไลท์มาทดสอบเรื่องของการกันความร้อน หรือแม้แต่การนำเข้าฟิล์มราคาถูกมาจำหน่ายในราคาแพง สร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค"

ลามิน่าเป็นผู้นำในตลาดฟิล์มกรองแสงในช่วงนั้น ที่หันมาบุกเบิกในเรื่องการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสง การทดสอบค่าการกันความร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์ การป้องกันรังสีเอสยูวี และค่าต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันกลายมาเป็นมาตรฐานสำหรับผู้ให้บริการฟิล์มกรองแสงในประเทศไทย

รวมไปถึงการเดินหน้าพัฒนาในเรื่องของการให้บริการอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการตั้งเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทย รวมถึงการเปิดร้านลามิน่า เอ็กซ์คลูซีฟ ช๊อป ซึ่งช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของผู้ให้บริการฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในประเทศไทยอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

"สิ่งที่เราพยายามทำมาตลอดก็คือการสร้างความรู้ให้กับผู้บริโภค ว่าจริง ๆ แล้วตลาดฟิล์มกรองแสงแตกต่างกันอย่างไร ฟิล์มคุณภาพสูงแตกต่างจากฟิล์มทั่ว ๆ ไปอย่างไร ซึ่งผู้บริโภคจะเป็นผู้เลือกในท้ายที่สุด แต่เราจะไม่หลอกผู้บริโภคในเรื่องของการให้ข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งที่เราริเริ่มและยึดมั่นดำเนินการมาโดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา"

IMG_16260

ความสำเร็จในการได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค เห็นได้จากรางวัลต่าง ๆ ที่ได้รับมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA Award) ด้านผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสงที่ได้รับต่อเนื่อง 3 ปีนับจากปี 2553 รางวัลซูเปอร์แบรนด์ที่ได้รับมาอย่างต่อเนื่อง 10 ปีซ้อน นับตั้งแต่ปี 2547 และยังได้รับคะแนนสูงสุดในการจัดอันดับในปีล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคทั่วประเทศไทย

นอกจากนี้ ลามิน่ายังคว้ารางวัล “No. 1 Brand Thailand” จากผลวิจัยการตลาดที่ดีที่สุดชุดหนึ่งของประเทศไทยโดยนิตยสารมาร์เก็ตเทียร์ ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกโหวตให้ฟิล์มลามิน่าครองตำแหน่งฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ยอดนิยมอันดับหนึ่งในดวงใจ ประจำปี พ.ศ.2555 ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการบริหารจัดการที่ดีเด่น ที่ทำให้ตราสินค้าลามิน่าในประเทศไทยอยู่ในดวงใจผู้บริโภคมาโดยตลอด

รวมไปถึงการขึ้นรับรางวัลใบโพธิ์ หรือ Bai Po Business Award by Sasin คือรางวัลเกียรติยศสำหรับผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นน่าอย่างน่าชื่นชมในการดำเนินธุรกิจด้วยการมุ่งเน้นการให้ความสำคัญต่อลูกค้า การสร้างตราสินค้า และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งทำการคัดเลือกโดยหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ ได้แก่ สถาบันบัณฑิตธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นรางวัลล่าสุด

กับภาพรวมของตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จันทร์นภากล่าวว่าเนื่องจากแนวโน้มฟิล์มกรองแสงรถยนต์จะหดตัวลงเล็กน้อยตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์ในประเทศ ที่คาดว่ายอดจำหน่ายรถยนต์รวมในประเทศไทยปีนี้น่าจะทำได้ที่ระดับ 1.2 ล้านคัน ทำให้ตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในภาพรวมหดตัวลงประมาณ 9-10% โดยคาดว่าตลาดรวมฟิล์มกรองแสงในประเทศไทยน่าจะอยู่ที่ระดับ 1,850-1,900 ล้านบาทเท่านั้น

ในส่วนของลามิน่าเองนั้น คาดว่าจะสามารถรักษาเป้าหมายการจำหน่ายที่ 800 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมียอดการเติบโต 10% เมื่อเทียบกับตลาดรวมที่คาดว่าจะหดตัว และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้อีก 3% เป็น 33% ในปีนี้ ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ลามิน่ามียอดจำหน่ายแล้วกว่า 400 ล้านบาทหรือ 50% ของเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ ลามิน่ามีระบบการจัดจำหน่ายที่ดีเยี่ยมในประเทศไทย ผ่านศูนย์ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งกว่า 580 แห่งในปัจจุบัน ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบลามิน่า เอ็กซ์คลูซีฟ ช๊อป 60 แห่ง รวมถึงการจำหน่ายผ่านโชว์รูมรถยนต์กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ

image001

"สิ่งที่เรากำลังติดตามอยู่่อย่างใกล้ชิดก็คือ เมื่อตลาดฟิล์มกรองแสงหดตัวลง เชื่อว่าการแข่งขันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ประกอบกับที่ผ่านมา มีการเปิดตัวฟิล์มยี่ห้อใหม่ ๆ มากมายในช่วงตลาดรถยนต์กำลังบูม ทำให้เชื่อว่ารูปแบบการทำตลาดแบบเดิม ๆ จะกลับมาอีกครั้ง จึงอยากให้ผู้บริโภคระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะการโฆษณาเกินจริง"

ใครจะทำอะไรก็ทำไป แต่ลามิน่าขอยึดมั่นในพันธกิจและการทำตลาดอย่างสร้างสรรค์ต่อไปอย่างต่อเนื่องในอนาคต!!!


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ