ลองขับ บีเอ็มดับเบิลยู 730 แอลดี เมื่อรู้จักแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหลงรัก สมรรถนะที่ถือว่าเหนือธรรมดา และอัตราการสิ้นเปลืองที่เหนือธรรมดายิ่งกว่า
บีเอ็มดับเบิลยู 730 แอลดี
ก่อนจะรีวิว บีเอ็มดับเบิลยู 730 แอลดี ในบรรดารถยนต์ทดสอบที่แปะโลโก้ใบพัดฟ้า-ขาวนั้น ซีรี่ส์ 7 ถือเป็นรถยนต์ที่ผมเฉย ๆ ที่สุดในการนำมาทดสอบ เพราะไม่ว่าจะนำมาขับกี่ครั้ง รัศมีในการนั่งอยู่หลังพวงมาลัยของผมก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากคนขับรถที่ไปนั่งรอเจ้านายมาขึ้นรถเลยสักครั้ง
ในวันที่เอ็กซ์6 ที่ผมต้องการจะขับทดสอบไม่สามารถมาตามที่นัดหมายเอาไว้ได้ ทีมงานพีอาร์ของบีเอ็มดับเบิลยูก็แสนดีด้วยการเลือกรถทดสอบอีกคันมาให้เพื่อชดเชย และนั่นก็เป็นโอกาสที่ผมจะได้ปรับความเข้าใจกับพี่ใหญ่แห่งค่ายรถยนต์จากแดนบาวาเรียเสียใหม่
และเมื่อรู้จักแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหลงรัก แถมมานั่งคิด ๆ ไปแล้ว ถ้าจะมีผู้บริหารรุ่นใหม่ที่อยากได้รถใหญ่ ๆ ขับสนุก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถใช้ต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่ได้ และที่สำคัญก็คือเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์และบัตรเครดิต รถคันนี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
จริง ๆ แล้วในอดีตที่ผ่านมา มีผู้บริหารค่ายสินค้าที่เกี่ยวกับรถยนต์คนหนึ่งในซีรี่ส์ 7 เป็นพาหนะในชีวิตประจำวัน รับแขกบ้าง ขับไปช๊อปปิ้งบ้าง สลับกับรถสปอร์ตคันเล็ก ซึ่งในเรื่องของการใช้งานก็คงไม่แตกต่างอะไรกับที่ผมว่าเอาไว้
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย โม้เอาไว้ว่า ซีรี่ส์ 7 นั้น เน้นความเป็นผู้นำแห่งยนตรกรรมที่ให้ทั้งความเป็นสปอร์ต เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ดียิ่งขึ้นและความหรูหราสะดวกสบายอย่างกลมกลืน
นั่นก็หมายความว่าในซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงมาใหม่ พร้อมด้วยเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังใหม่นั้น จะต้องให้การขับขี่ที่สนุกสนาน โดยไม่ทิ้งความหรูหราและความสะดวกสบายที่ได้จากรถคันนี้ในภาพรวม
ซึ่งก็หมายถึง บีเอ็มดับเบิลยู 730 แอลดี คันนี้ด้วยเช่นกัน!!!
ในเรื่องของความสะดวกสบายไม่ใช่ปัญหาสำหรับรถคันนี้แน่ ๆ ครับ ด้วยขนาดตัวถังยาว 5,219 มม. กว้าง 1,902 มม. และสูง 1,487 มม. ให้ความหรูหราและโอ่อ่าแบบเต็มพิกัด แม้ว่าความสูงของตัวรถจะดูเป็นปัญหาในการเดินเข้ารถสักเล็กน้อย แต่ในการใช้งานจริงก็ไม่ติดครับ เข้าออกได้สบาย
รูปร่างหน้าตาพยายามออกแบบมาให้ดูสปอร์ตมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นรถหรูขนาดใหญ่ แต่ก็จะเห็นลายเส้นมัดกล้ามรอบคันรถ ผสมกับโคมไฟหน้าและหลังที่ออกแบบอย่างลงตัว ทำให้รถดูไม่น่าเบื่อและเคร่งขรึมเกินไปนัก
ระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ อัดมาให้เต็มพิกัดสมกับเป็นรถยนต์หรูหราราคาแพง แค่ระบบการขับเคลื่อนที่สามารถเปลี่ยนการขับขี่ได้ 5 โหมด ตั้งแต่โหมดอีโคไปจนถึงโหมดสปอร์ต พลัส แถมยังสามารถเลือกปรับระบบต่าง ๆ ได้ตามความต้องการในการขับขี่
ยกตัวอย่างเช่น ในโหมดสปอร์ต สามารถเลือกได้ว่าต้องการความสปอร์ตในส่วนของเครื่องยนต์หรือช่วงล่างแยกจากกันได้ หรือจะให้ทำงานพร้อมกันทั้ง 2 ส่วนก็ได้ ขณะที่โหมดประหยัดก็จะถูกจำกัดความเร็วในการขับขี่ ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงผลผ่านหน้าจอที่ปรับไปตามโหมดที่เลือกอย่างสวยงาม
ในโหมดอีโค ภาพกราฟฟิกบนหน้าจอจะเป็นสีฟ้าสบายตา ในโหมดคอมฟอร์ตก็จะเป็นหน้าจอมาตรฐานที่แสดงข้อมูลทั่วไปทั้งหมด แต่หากเปลี่ยนไปโหมดสปอร์ตแล้ว หน้าจอกราฟฟิกจะเปลี่ยนมาแสดงผลความเร็วและรอบด้วยตัวเลขดิจิตอลขนาดใหญ่ พร้อมไฟหน้าจอที่แสดงผลเป็นสีแดงแทนสีฟ้า-ขาวในโหมดปกติ
ห้องโดยสารเก็บเสียงได้ดีแม้ในการขับขี่ที่ย่านความเร็วสูง อุปกรณ์ที่ติดตั้งให้มาในรถเกินพอต่อความต้องการ แม้แต่ในเบาะที่นั่งโดยสารตอนหลังก็ยังพบจอสกรีนขนาดใหญ่ พร้อมด้วยระบบอำนวยความสะดวกและความบันเทิงแบบครบครัน
เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตรแบบวี6 ของ 730แอลดีคันนี้ ให้กำลังสูงสุดที่ 218 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตรที่รอบต่ำ ทำงานสอดคล้องกับเกียร์อัตรโนมัติ 8 สปีด ที่ช่วยให้การออกตัวเป็นไปแบบไม่อืดอาด แม้จะแบกน้ำหนักตัวอยู่เกือบ 2 ตันก็ตามที
สิ่งที่น่าตื้นตันใจในการเป็นเจ้าของรถยนต์คันนี้ ก็คือคุณกำลังขับรถยนต์ที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุดคันหนึ่ง ด้วยการปล่อยไอเสียที่ระดับ 148 กรัมต่อกิโลเมตร ด้วยตัวเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ติดตั้งเข้ามา แม้ว่าบางชิ้นดูจะไม่จำเป็นและน่ารำคาญ เช่น ระบบดับ-ติดเครื่องยนต์อัตโนมัติ ที่ต้องท่องทุกครั้งตอนสตาร์ทเครื่องว่าอย่าลืมปิดไปด้วย
7.2 วินาที คือระยะเวลาที่ตัวรถต้องการในการทะยานจากจุดหยุดนิ่งไปถึงความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และพละกำลังที่มีอยู่ก็ไม่ได้หมดลงไปแต่อย่างใด แต่ยังสามารถลากทำความเร็วผ่านระดับ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปอย่างง่ายดาย ถ้าคุณมีทางให้วิ่งและมีใจจะวิ่งที่ความเร็วระดับนั้น
ช่วงล่างแบบดับเบิลวิชโบนที่ทำมาจากอลูมิเนียมที่ด้านหน้าของรถ และช่วงล่างหลังที่ทำจากอลูมิเนียมแบบอินทีกรัล ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถลงไปมากพอสมควร ระบบช่วงล่างแบบถุงลม ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ และทำให้สามารถวิ่งผ่านพื้นผิวถนนในทุกรูปแบบได้อย่างนิ่มนวล
และเช่นเดียวกับรถยนต์ดีเซลหรูหราทั่ว ๆ ไปครับ การประหยัดน้ำม้นคือสิ่งหนึ่งที่ต้องนำมาพูด เพราะโดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างสนับสนุนให้รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ หันมาพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลดีดีกับเขาเสียที ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ น่าจะเหมาะสมกับภาวะการขาดแคลนพลังงานของโลกในปัจจุบัน
เหมือนกับ 730แอลดีคันนี้ ต่อให้คุณฉุดกระชากลากถูไปขนาดไหน อัตราการกินน้ำม้นเฉลี่ยระดับ 15 กิโลเมตรต่อลิตรก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ แม้จะยังห่างไกลจากตัวเลข 17.9 กิโลเมตรต่อลิตรที่ทางบีเอ็มดับเบิลยูเคลมเอาไว้ แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจ
สมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ไม่ได้แตกต่างอะไรจากพี่ใหญ่ของรุ่นอย่าง 740ไอ แถมยังดูค่อนข้างจะทิ้งห่างจากน้องเล็ก 730ไอ ไปมากโข แต่อัตราสิ้นเปลืองที่ได้รวมไปถึงการปล่อยไอเสีย ถือเป็นข้อดีและโดดเด่นเป็นสง่า ที่ถึงแม้จะเทียบกับคู่แข่งนอกค่ายก็ไม่ได้แพ้ใครในภาพรวม
7.599 ล้านบาท คือสนนราคาค่าตัวของรถยนต์คันนี้ ถามว่าคุ้มค่าไหมในตลาดรถยนต์หรูหรา ที่มีคู่แข่งแบบนับหัวได้ ก็ต้องถือว่าเป็นรุ่นที่ให้ความคุ้มค่ามากพอสมควร จนเรียกได้ว่าไม่ควรมองข้าม
ถ้าคุณเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการรถยนต์ที่ขับสนุก ปรื๊ดปร๊าดได้ดีในชีวิตประจำวัน แต่สามารถพาครอบครัว ไม่ว่าจะผู้หลักผู้ใหญ่หรือลูกเล็กเด็กแดงไปท่องเที่ยวในวันพักผ่อน ด้วยสมรรถนะที่ถือว่าเหนือธรรมดา และอัตราการสิ้นเปลืองที่เหนือธรรมดายิ่งกว่า นี่คือทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ
ที่สำคัญก็คือ ใครที่คิดว่าเครื่องยนต์จะครางกระหึ่มเสียงดังลั่นบ้าน คงต้องขอบอกว่าคิดผิด ยิ่งอยู่ในห้องโดยสารด้วยแล้ว คุณจะลืมไปเลยว่าคุณขับรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลอยู่ จนกระทั่งคุณเผลอกระทืบคันเร่งแล้วรถพุ่งพรวดออกตัวแบบหัวทิ่มนั่นแหละ
ถ้าไม่เชื่อก็ต้องลองดู!!!
ขอขอบคุณ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับรถยนต์ทดสอบ
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ เฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ชมภาพเพิ่มเติมได้ http://photos.autospinn.com/2013_BMW_730LD/
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี
ความคิดเห็น