เปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่สำหรับรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ที่ไม่ได้เรียกชื่อว่าอีโคคาร์ของโตโยต้า กับออลล์-นิว ยาริส ที่พี่เบิ้มวงการรถยนต์เมืองไทยเรียกว่าเป็นรถสปอร์ตแฮชท์แบ็ค ที่มาพร้อมสิ่งที่น่าสนใจหลายประการ
หลังจากการเปิดตัวที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โตโยต้าก็พร้อมที่จะส่งมอบรถยนต์ดังกล่าวให้ลูกค้า หลังจากเปิดให้จองมาทั่วประเทศก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ซึ่งแน่นอนว่าหลังการเปิดตัว ย่อมมีคำถามมากมายที่ตามมาสำหรับรถคันใหม่นี้
และนี่คือ 5 สิ่งที่น่าสนใจ ที่ทีมงานออโต้สปินน์ได้ทำการรวบรวมมาให้เป็นเรื่องน่าคิด สำหรับการตัดสินใจเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นที่คาดว่าจะเป็นรุ่นสุดฮอตในประเทศไทยในช่วงที่เหลือของปี
เรื่องแรก เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรสำหรับตลาดประเทศไทย
แม้ว่าโครงสร้างตัวถังภายนอกของยาริสทั้งหมดจะเป็นการพัฒนาในโครงการผลิตรถยนต์ระดับโลกก็ตาม แต่ด้วยเงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ของประเทศไทย ทำให้โตโยต้าเองต้องพัฒนาเครื่องยนต์ขนาดเล็ก เพื่อให้ผ่านมาตรฐานการประหยัดน้ำมันที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตรของรัฐบาล
และการพัฒนาดังกล่าวก็ได้ออกมาเป็นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรที่ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้ารุ่นนี้ โดยยาริสในประเทศไทยจะเป็นตลาดเดียวที่ใช้เครื่องยนต์เล็กขนาดนี้ เพราะแม้แต่เวอร์ชั่นส่งออกจากโรงงานในประเทศไทยก็จะใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเท่านั้
ด้วยพละกำลังดังกล่าว ทำให้ยาริสซึ่งแบกขนาดตัวใหญ่กว่าเพื่อนมาพร้อมเครื่องยนต์ที่อยู่ตรงกลางของกลุ่มอีโคคาร์ แฮชท์แบ็ค โดยมีสมรรถนะที่ดีกว่ามิราจ (78 แรงม้า) มาร์ช (79 แรงม้า) แต่เป็นรองบริโอ้ (90 แรงม้า) และสวิฟท์ (91 แรงม้า)
แต่ตัวเลขดังกล่าวคงไม่ใช่ประเด็นสักเท่าใดนัก ต้องรอทดสอบอย่างเป็นทางการเสียก่อนว่าการขับขี่จริงจะเป็นอย่างไร...
เรื่องที่ 2 ระบบเกียร์อัตโนมัติ ซูเปอร์ ซีวีที-ไอ
ไม่ใช่แค่เครื่องยนต์เท่านั้นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่สำหรับโครงการนี้ แต่เกียร์อัตโนมัติ ซูเปอร์ ซีวีที-ไอ ซึ่งติดตั้งมาในทั้ง 4 รุ่นย่อยของยาริสก็คือของใหม่สำหรับโตโยต้าเช่นเดียวกัน
การเลือกที่จะไม่ใช้ระบบเกียร์ธรรมดาในรถเล็กที่ต้องการการประหยัดน้ำมัน สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับผู้ที่ได้รู้ทุกคน และทำให้ยาริสใหม่กลายเป็นรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ที่ไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือกใช้งาน
เมื่อถามผู้บริหารโตโยต้าเกี่ยวกับประเด็นนี้ ก็ได้รับการยืนยันว่าแนวทางในการพัฒนาเกียร์ลูกใหม่นี้ ถูกสร้างขึ้นมาให้ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ตัวใหม่ได้เป็นอย่างดี และเหมาะสมกับการใช้งานอยู่แล้ว จึงไม่ทำตลาดรถยนต์เกียร์ธรรมดาสำหรับยาริสใหม่นี้
เรื่องที่ 3 ขนาดตัวถังใหญ่ ที่เก็บของด้านท้ายเยอะ
จุดขายที่สำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของยาริส ใหม่ ก็คือขนาดของตัวถังที่มีขนาดใหญ่โต โดยเฉพาะในส่วนของฐานล้อที่มีความยาวที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ในกลุ่มเดียวกัน นั่นก็เหมายความว่า หากเทียบในแง่ของความสะดวกสบายในการโดยสารแล้ว ยาริสก็น่าจะมีให้มากกว่าเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ที่บรรทุกของด้านหลังก็เป็นจุดขายที่โตโยต้าเลือกมาใช้ ด้วยการขยายพื้นที่เก็บสัมภาระออกไปให้กว้างที่สุด ทำให้รถเล็กคันนี้มีความสามารถในการรองรับการบรรทุกข้าวของขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย
เหลือคำถามเดียวก็คือ เมื่อขนาดห้องโดยสารใหญ่โตมโหฬารแล้ว เครื่องยนต์ที่ให้มาระดับกลาง ๆ จะทำให้รถคันนี้ ขับสนุก วิ่งดี ใช้งานได้เนี๊ยบ ตามที่โตโยต้าโฆษณาว่าเหนือกว่าค่ายอื่นทุกด้านได้หรือไม่
เพราะถ้าทำได้ดีจริงก็คงไม่ต้องกังวลหรือสงสัยเรื่องยอดขายที่พร้อมจะกระฉูดอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้...
เรื่องที่ 4 เน้นอุปกรณ์ความปลอดภัยเพียบพร้อม
หากมองในเรื่องของอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งกันมาในรถยนต์อีโคคาร์ทุกรุ่นย่อยที่มีการจำหน่ายอยู่ของแต่ละค่ายแล้ว ต้องบอกว่ายาริสเองทำการบ้าน ณ จุดนี้มาอย่างดีเยี่ยม ด้วยการติดตั้งทุกสิ่งทุกสิ่งที่มีอยู่มาให้กับรถยนต์นับตั้งแต่รุ่นล่างสุดไปจนถึงรุ่นท๊อป
โดยเฉพาะในส่วนของถุงลมนิรภัยคู่หน้าและระบบเข็มขัดนิรภัยแบบรั้งกลับอัตโนมัติ จะช่วยทำให้ความรู้สึกว่ารถเล็กไม่ปลอดภัยจางหายไปได้บ้างจากจิตใจของผู้ซื้อ ขณะเดียวกัน ระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกและระบบเสริมแรงเบรก ก็น่าจะทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างมั่นใจมากขึ้น
นี่คือการทำการบ้านอย่างดีของโตโยต้า เพราะนอกจากจะเป็นจุดขายที่เหนือกว่าคู่แข่งแล้ว ยังสามารถเกทับคู่แข่งได้ทันทีว่าระบบทั้งหมดที่พูดมานี้ ติดตั้งมาให้แม้ลูกค้าจะเลือกรถยนต์รุ่นล่างสุดก็ตาม
เรื่องสุดท้าย ราคาจำหน่ายแพงเกินไปหรือไม่
4.69 - 5.99 แสนบาท คือราคาจำหน่ายสำหรับรถยนต์อีโคคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดคันนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเรียกคำว่า "แพง" ออกมาจากปากคนที่ได้ยินราคาเป็นครั้งแรก ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ค่อนข้างงงเหมือนกันว่านิยามของคำว่าแพงคืออะไร
เพราะหากไปเอาลิสต์ราคาแบบไม่รวมโปรโมชั่นของรถอีโคคาร์ทุกค่ายมาดู จะพบว่าราคาของรุ่นเกียร์อัตโนมัติก็เริ่มต้นที่ 4.4-4.6 แสนบาทกันทั้งสิ้น จะมีเริ่มต้นที่ระดับ 3 แสนปลายหรือ 4 แสนต้น ก็จะเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาทั้งสิ้น
ในราคาเริ่มต้นของยาริสใหม่นั้น ผู้ซื้อจะได้รถที่ใหญ่กว่า มีห้องโดยสารที่น่าจะกว้างสุดในกลุ่ม เพราะตัวรถเองก็เป็นการตีตั๋วเด็กมาเข้าโครงการอีโคคาร์อยู่แล้ว แถมยังได้รถที่อุปกรณ์พร้อมและครบครัน เรียกได้ว่าเอาไปใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก
เหลือคำถามเดียวที่ยังต้องรอคำตอบก็คือ ภาพรวมของการขับขี่ทั้งหมดจะดีจริงหรือไม่ และจะคุ้มค่ากับค่าตัวที่ต้องจ่ายมากกว่าแบบไม่มีออพชั่นราคาย่อมเยามาให้เลือกหรือเปล่า ซึ่งคงต้องรออีกสักพักกว่าที่จะเริ่มทำการทดสอบกันในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
แล้วเราจะนำผลการทดสอบมารายงานให้ได้อ่านกันอีกครั้ง...
ความคิดเห็น