เชื่อหรือไม่ 6 สุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ที่ไม่ได้คิดค้นโดยวิศวกรเยอรมัน Share this

เชื่อหรือไม่ 6 สุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ที่ไม่ได้คิดค้นโดยวิศวกรเยอรมัน

Satapana
โดย Satapana
โพสต์เมื่อ 26 October 2556

ถึงแม้ยนตรกรรมเยอรมันจะครองใจนักเลงรถทั่วโลกมาเนิ่นนานหลายทศวรรษ โดยคำว่า “วิศวกรรมเยอรมัน” เป็นเหมือนใบการันตีคุณภาพอันยอดเยี่ยมและความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมายาวนาน แต่แท้จริงแล้ว มีหลากหลายนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เราใช้กันในรถยนต์ปัจจุบันที่ไม่ได้คิดค้นโดยคนเยอรมัน แต่เป็นฝีมือของวิศวกรหัวกะทิชาติยุโรปอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้คุณประหลาดใจ เราขอรวบรวมมาฝากกัน

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/things-that-arent-german-2.jpg

1 – เทอร์โบชาร์จ

พบได้ใน: รถเยอรมันหลายรุ่น

หากย้อนถอยหลังกลับไปสัก 30-40 ปีที่แล้ว ยนตรกรรมเยอรมันหลากหลายรุ่นต่าง “พ่วงหอย” ติดเทอร์โบชาร์จเพื่อเพิ่มพละกำลัง หนึ่งในนั้นคือ 1973 BMW 2002 สุดยอดรถคลาสสิกที่โด่งดังอย่างมากในยุคนั้น ขณะที่ในปัจจุบันมีรถเยอรมันนับไม่ถ้วนที่ใช้เครื่องยนต์ติดเทอร์โบชาร์จเจอร์ รีดพละกำลัง เพิ่มความประหยัดและลดอัตราการปล่อยมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม

แท้จริงแล้วคิดค้นโดย: สวิสเซอร์แลนด์

ระบบเทอร์โบชาร์จได้รับการคิดค้นโดยวิศวกรเครื่องยนต์ชาวสวิสผู้มีนามว่า Alfred Büchi ซึ่งเป็นผู้จดสิทธิบัตรระบบคอมเพรสเซอร์ในปี 1905 เขาเป็นคนแรกที่พบการสูญเสียพลังงานในการระบายความร้อนไอเสีย ซึ่งพลังงานดังกล่าวสามารถนำกลับมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ได้ ถือเป็นหนึ่งในการค้นพบอันล้ำเลิศที่สุดในประวัติศาสตร์โลกยานยนต์ สำหรับรถรุ่นแรกที่ประยุกต์ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบก็ไม่ใช่รถเยอรมัน แต่คือ 1962 Oldsmobile Jetfire สัญชาติอเมริกัน

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/things-that-arent-german-3.jpg

2 – ระบบทวินชาร์จ

พบได้ใน: เครื่องยนต์ 1.4 ลิตรของ Audi และ Volkswagen

ระบบทวินชาร์จ (Twincharging) เป็นการอัดอากาศเข้าเครื่องยนต์ที่มีเทคนิคอันซับซ้อนอย่างยิ่ง โดยใช้ตัวซูเปอร์ชาร์จเจอร์ขับเคลื่อนด้วยกลไกในการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ในช่วงรอบต่ำและใช้เทอร์โบชาร์จที่ปั่นด้วยไอเสียในการรีดพละกำลังช่วงรอบสูง เป็นระบบที่ซับซ้อนที่ต้องมีการปรับจูนอย่างละเอียดและแม่นยำที่สุด

แท้จริงแล้วคิดค้นโดย: อิตาลี

ถึงแม้วิศวกรชาวอิตาเลียนจะไม่มีชื่อเสียงเท่าเยอรมัน แต่หากวัดกันในด้านการคิดค้นนวัตกรรมแล้วถือว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เห็นได้จากรถแข่งแรลลี่ 1985 Lancia Delta S4 Group B ที่ใช้ระบบทวินชาร์จในเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ซึ่งหลายคนบอกว่าสามารถรีดแรงม้าได้ระหว่าง 480 – 1,000 ตัวเลยทีเดียว

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/things-that-arent-german-4.jpg

3 – ไฟเดย์ไลท์

พบได้ใน: รถแบรนด์เยอรมันทุกรุ่น ส่วนใหญ่เป็น Audi และ BMW

หากพูดถึงแผงไฟเดย์ไลท์สุดหรู เรามักคิดถึงแบรนด์ Audi และ BMW ทันทีด้วยกลยุทธ์การตลาดที่เหนือชั้นของทั้งสองแบรนด์ ไฟเดย์ไลท์ให้ความสว่างอย่างมากในช่วงเวลากลางวัน ทำให้มองเห็นตัวรถได้จากระยะไกลเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่าเดย์ไลท์เป็นเพียงแค่เทรนด์ที่ทันสมัย ไม่ได้เป็นนวัตกรรมยิ่งใหญ่ในโลกยานยนต์แต่อย่างใด

แท้จริงแล้วคิดค้นโดย: สวีเดน

สวีเดนได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีแสงสว่างช่วงเวลากลางวันน้อยและท้องถนนมักปกคลุมด้วยหิมะ จึงเป็นชาติแรกที่ออกกฎหมายบังคับใช้ไฟเดย์ไลท์ในปี 1977 ซึ่งการใช้เดย์ไลท์ในสวีเดนส่วนใหญ่เป็นเพราะความจำเป็น ไม่ใช่เปิดตามแฟชั่นเหมือนกับอีกหลายประเทศ

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/things-that-arent-german-5.jpg

4 – ระบบเกียร์ดูอัลคลัตช์

พบได้ใน: รถ Audi ขนาดเล็กและ Volkswagen หลายรุ่น

ดูอัลคลัตช์ประกอบด้วยชิ้นส่วนกลไกหลักสองชุดที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดพลังจากเครื่องยนต์ จุดเด่นคือการทำงานด้วยความรวดเร็วเพียงชั่วพริบตา ถือเป็นระบบวิศวกรรมกลไกที่อาศัยความแม่นยำ ฉับไวและนุ่มนวล ถือเป็นนวัตกรรมที่ต้องผ่านการคิดค้นที่ซับซ้อนอย่างมากและไม่มีช่องว่างสำหรับความผิดพลาดได้เลย หลายคนอาจคิดว่ามีเพียงวิศวกรเยอรมันหรือสวิสเท่านั้นที่จะคิดขึ้นมาได้

แท้จริงแล้วคิดค้นโดย: ฝรั่งเศส

ใครจะเชื่อว่าระบบเกียร์ดูอัลคลัตช์ถูกจดสิทธิบัตรโดยวิศวกรของกองทัพฝรั่งเศสผู้มีนามว่า Adolphe Kégresse ตั้งแต่ปี 1935 ซึ่งเขาคิดขึ้นมาทดแทนระบบเกียร์ธรรมดาแบบดั้งเดิม แต่เขาไม่เคยสานต่อไอเดียดังกล่าวเนื่องจากเวลานั้นระบบเกียร์ที่ใช้ทอร์กคอนเวอร์เตอร์มีต้นทุนการผลิตที่เหมาะสมมากกว่า ทำให้ Porsche หยิบเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาต่อยอดในช่วงทศวรรษที่ 1980 ติดตั้งอยู่ในรถแข่ง 956 และ 962C ซึ่งกวาดแชมป์ถล่มทลาย

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/things-that-arent-german-6.jpg

5 – เครื่องยนต์ไดเรค-อินเจคชั่น

พบได้ใน: รถเยอรมันเครื่องยนต์เบนซินเกือบทุกรุ่น

แทนที่จะใช้ปั๊มเชื้อเพลิงฉีดน้ำมันเข้าผสมกับอากาศด้านหลังวาล์วแบบดั้งเดิม ระบบหัวฉีดไดเรค-อินเจคชั่นได้ฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรงโดยใช้แรงดันที่สูงอย่างมากและการคำนวณปริมาณเชื้อเพลิงอย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มอัตราความประหยัดน้ำมันเบนซินได้ ฟังดูแล้วต้องเป็นผลงานของคนเยอรมันแน่ๆ

แท้จริงแล้วคิดค้นโดย: ฝรั่งเศส

Léon Levavasseur วิศวกรเครื่องยนต์ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้คิดค้นเครื่องยนต์ V8 และระบบหัวฉีดไดเรค-อินเจคชั่นในปี 1902 สำหรับติดตั้งอยู่ในเครื่องบิน ก่อนที่ Bosch บริษัทวิศวกรรมและอิเลกทรอนิกจากเยอรมนีจะนำมาพัฒนาและติดตั้งใช้งานในรถยนต์ในปี 1952

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/things-that-arent-german-7.jpg

6 – รถยนต์

พบได้: รถยนต์คันแรกของโลก Benz Patent-Motorwagen

ตำราประวัติศาสตร์หลายเล่มมักระบุว่ารถยนต์คันแรกในโลกคือ Patent-Motorwagen ของ Karl Benz ซึ่งเป็นรถแบบสามล้อที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน ก่อนที่จะถูกพัฒนามาเป็น Mercedes-Benz แบรนด์รถสุดหรูที่โด่งดังทั่วโลกในปัจจุบัน

แท้จริงแล้วคิดค้นโดย: ฝรั่งเศส

การผลิตรถคันแรกในโลกของ Benz เกิดข้อถกเถียงในกลุ่มนักประวัติศาสตร์ที่ชีว่า Benz Patent-Motorwagen เป็นเพียงรถคันแรกในโลกที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน เพราะแท้จริงแล้วรถยนต์คันแรกในโลกคิดค้นโดย Nicolas-Joseph Cugnot นักประดิษฐ์ชาวเมืองน้ำหอมตั้งแต่ปี 1769 ซึ่งเขาพัฒนาใช้รถพลังไอน้ำขนาด 2.5 ตันขึ้นมา นอกจากนี้ Benz ยังไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นผู้คิดค้นเครื่องยนต์สันดาปภายใน เพราะเป็นวิศวกรชาวฝรั่งเศส Nicéphore Niépce ที่เป็นผู้คิดค้นเครื่องยนต์ดังกล่าวสำหรับติดตั้งในเรือเป็นคนแรก

ขอขอบคุณเรื่องและภาพจากเว็บไซต์ Livelifedrive


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ